วรรณกรรมนำใจ Lite Literature

กรงไฟ ๑


cover_krongfire

นวนิยายเรื่องนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง
หากมีชื่อ-สกุล เรื่องราวใดพ้องกับบุคคลจริง ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ชลนิล


บทที่ ๑


วังเวง เงียบเชียบ อณูว่างเปล่าแผ่กระจายทั่วบริเวณทางเดินยาวโรงพยาบาล แสงจากหลอดนีออนขาวนวลส่องสว่างซีด นำพาบรรยากาศน่าพรั่นพรึงไม่ผิดกับความตาย

ยามนี้ไม่มีผู้คนย่างกราย เงาแห่งสิ่งมีชีวิตหลบเร้น ความวังเวงหวาดหวั่นกางตาข่ายล้อมดักผู้คนที่อาจพลัดหลงเข้ามา

บรรยากาศเช่นนี้ดำเนินเนิ่นนานราวกับมันเป็นนิรันดร์ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในชั่วเสี้ยววินาที โมงยามที่ผู้คนยังหลับใหล นัยน์ตารัตติกาลยังไม่ทันกะพริบ

กริ๊งงง...งง... เสียงกริ่งดังขึ้นที่ห้องพยาบาลเวร ก่อนมันจะลากยาวลอดออกไปยังทางเดินผ่านเก้าอี้ไม้หน้าห้องที่ไร้คนสัปหงก กระจายสู่ความมืดด้านนอกดังประกาศตัวให้โลกรับรู้

เท่านั้นเอง...ความสงบวันแห่งค่ำคืนถูกกระชากโดยพลัน ด้วยเสียงฝีเท้าถี่กระชั้นของนางพยาบาล เสียงโทรศัพท์แผดดังตามแพทย์เวร และเสียงคนไข้บางคนถูกปลุกละเมอจากนิทรา

เสียงกริ่งนั้นดังมาจากห้องคุณนายพวงทอง ทรัพย์ยั่งยืนสิริไพศาล หญิงชราวัยเจ็ดสิบเศษ เศรษฐีนีผู้มั่งคั่งมีทรัพย์สินมากกว่าทุกคนในจังหวัด เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าทรัพย์ยั่งยืนคอมเพล็กซ์ เจ้าของโรงแรมห้าดาวทรัพย์ยั่งยืนแกรนด์รอยัล เจ้าของอู่ต่อรถทัวร์ รวมถึงบริษัทเดินรถที่มีเที่ยววิ่งมากที่สุด เจ้าของตลาดขนาดใหญ่ ทรัพย์ยั่งยืน และร้านอาหาร ครัวพวงทอง ที่ใหญ่โตเป็นหน้าเป็นตาของจังหวัด ทั้งนี้ไม่รวมถึงตึกแถวติดถนนใหญ่ โฉนดที่ดินหลายร้อยแปลง เงินสดและสังหาริมทรัพย์อื่นในธนาคาร

คุณนายเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนานนับเดือน ไม่ยอมให้ลูกย้ายเธอไปรักษายังโรงพยาบาลใหญ่ในกรุงเทพฯ ที่นี่จึงถือเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลรักษา เป็นภาระรับผิดชอบสำคัญที่จะไม่ยอมให้เกิดปัญหาใดแทรกซ้อนเด็ดขาด

แพทย์เวรถูกตามตัวด่วน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตื่นกลางดึกรีบรุดมาเป็นพิเศษ คนไข้ถูกพาตัวเข้าห้องฉุกเฉิน หมอที่มีฝีมือทั้งจังหวัดถูกระดมมาโรงพยาบาลเร็วที่สุด

คุณนายพวงทองมีอาการทรุดหนักจนน่าวิตก แพทย์ทั้งหลายทุ่มเทกำลังยื้อยุดสุดความสามารถ เฮลิคอปเตอร์ถูกเรียกเตรียมพร้อมเดินทางเข้าโรงพยาบาลกรุงเทพฯโดยด่วน หากทุกอย่างเกินกำลังทีมแพทย์ที่นี่

บุตรทั้งห้าของคุณนายพวงทองได้รับแจ้งข่าวทั่วกัน ไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดหรือนอกจังหวัด ความวุ่นวายเช่นนี้แสดงถึงความไม่ธรรมดาของผู้ป่วย

ช่วงเวลานี้โลกกำลังแสดงให้เห็น เงิน อำนาจ ความเป็นคนสำคัญ จะใช้ต่อรองกับมัจจุราชได้หรือไม่... ความตายให้ความยุติธรรมต่อทุกคน จริงหรือเท็จ


- - - - -


ในห้องฉุกเฉิน...

คุณนายพวงทองแทบไม่รู้สึกว่าหมอทั้งหลายกำลังทำอะไรกับตนเองบ้าง ร่างกายผอมบาง ผิวหนังเหี่ยวย่นเหมือนขอนไม้ผุที่เขายกไปยกมา รอเวลาป่นพังเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อย ฝาครอบออกซิเจนปิดคลุมจมูกปากอาจช่วยให้หายใจโล่ง แต่นั่นไม่ได้ช่วยให้มีเรี่ยวแรงกระดิกกระเดี้ยตัว มีแต่ผัสสะเสียงที่ชัดเจนกว่าปกติ ประสาทตาเบลอ มัวซัว แยกไม่ออกสิ่งใดเป็นสิ่งใด

ครู่หนึ่ง ภาพมัวเหล่านั้นค่อยมีรายละเอียดกระจ่างชัดทีละน้อย หญิงชรารู้ว่ามันไม่ใช่ภาพที่เห็นด้วยประสาทตา เพราะภาพเหล่านั้นมันเลือนหายมานานแสนนานแล้ว...นานเทียบเท่าอายุเธอ

มันกลับมาโลดแล่นให้เห็นอีกครั้ง ดังว่า...จะคืนมา...เป็นครั้งสุดท้าย...

ลำคลองน้อยสีน้ำตาลไหลเอื่อย สายน้ำปรากฏระลอกริ้วสะท้อนแสงแดดเป็นประกาย คุณนายพวงทองมองเห็นตนเองในวัยเยาว์พร้อมพี่น้อง พายเรือเก็บผักหาปลา...ชีวิตลำบากดิ้นรนเช่นนี้ หญิงชราพยายามลบเลือนมันหลายครั้งครา แต่มันยังกลับมาแสดงให้เห็น ล่อหลอกยอกใจทุกครั้งที่มีโอกาส

วันนั้นเด็กหญิงพวงทองมีความต้องการแรงกล้าที่จะผลักดันตนเองออกจากแวดวงชาวคลอง หนีชีวิตลำบากยากจนสู่วันใหม่แสนสุขสบาย มีเงินทองเหลือใช้ เสื้อผ้าสวยสวมใส่ ผู้คนเคารพเกรงกลัว

เส้นทางสู่จุดมุ่งหวังนั้น ขรุขระยาวนานเหลือเกิน

วัยสาวย่างเท้ามาถึงพร้อมกับสายตาชายหนุ่มส่งมาหมายปอง เวลานั้นพวงทองต้องการใครก็ได้ที่สามารถพาหล่อนออกจากชุมชนชาวคลอง สู่โลกกว้างอันแสนงดงาม มีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัว ทำความฝันยิ่งใหญ่ให้เป็นจริง

เขา อาจไม่ใช่ตัวเลือกสมบูรณ์ดีพร้อม แต่เป็นตัวเลือกดีกว่าคนอื่น สามารถพาพวงทองออกจากครอบครัวลำบากยากจน บ้านช่องแออัดด้วยพี่น้อง ไปยังบ้านที่มีอาหารครบสามมื้อ ห้องหับส่วนตัว เงินทองพอใช้ไม่อายใคร

ชีวิตใหม่ดำเนินอย่างสุกๆ ดิบๆ ลุ่มๆ ดอนๆ การครองคู่มีเรื่องมากมายต้องการปรับตัว แบ่งปันความฝัน ความต้องการซึ่งกันและกัน ยอมลดทอนความต้องการของตัวเพื่อประคองครอบครัวให้ดำเนินตลอดรอดฝั่ง

มันเป็นสิ่งที่พวงทองไม่เคยคิด หล่อนต้องการร่ำรวย รวยมากๆ ชนิดนอนบนกองเงินกองทอง อยากได้อะไรเพียงแค่ชี้นิ้ว ไม่ต้องเอ่ยปาก ผู้คนรอบตัวยิ้มแย้ม ป้อยอ ยกย่อง เกรงกลัว

เมื่อความต้องการไม่อาจสมหวังกับสามีที่เรื่อยเฉื่อย รสหวานเสน่หาจืดจางตามวันเวลาจนมีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น เป็นโอกาสที่สองให้เธอได้เลือก

พวงทองเป็นคนสวย ความสวยของเธอสะดุดตา เสี่ย เจ้าของตลาดสด มันเป็นโอกาสอันงามที่ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือ พวงทองไม่ใช่คนตัวเปล่า สามียังอยู่ทั้งคน จึงต้องนิ่งไม่กล้ารับสัมพันธ์ ทั้งไม่ยอมตัดสวาทชนิดบัวไม่เหลือใย เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนเกิดจังหวะหักเห ผันแปรชีวิต

การครองคู่ย่อมมีเบื่อหน่าย จืดจางระหองระแหงธรรมดา ปัญหาที่เกิดระหว่างพวงทองกับสามีอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ หากมีฝ่ายใดอ่อนข้อลดทิฐิ ทว่าเวลานั้นพวงทองต้องการแตกหัก จึงไม่ยอมง้องอนลงให้กับสามีตน ปล่อยชีวิตคู่พังทลายอย่างจงใจ

เลิกกับสามีเก่า พวงทองพร้อมก้าวเป็นคุณนายเสี่ย ถนนเส้นนั้นกลับไม่ราบรื่นนัก เสี่ยมีเมียตกเมียแต่งอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง ดูแลกิจการค้าของครอบครัว นั่งแท่นเป็นคุณนายตัวจริง

พวงทองคิดหนัก มองผลได้ผลเสียถี่ถ้วน ก่อนยอมลงเอยกับเสี่ย มีตำแหน่งเมียน้อยปะหน้า หวังใช้ตำแหน่งนี้แลกกับโอกาสบันไดทรัพย์สินที่ตนต้องการ


- - - - -


ชีวิตสถานภาพใหม่เอื้อประโยชน์หลายอย่างดังคิด เสี่ยเปิดร้านอาหารให้หล่อนใกล้กับตลาดเป็นทำเลติดถนนใหญ่ ตกแต่งดีมีระดับ ได้แม่ครัวฝีมือเลิศ พวงทองบริหารมันไม่นานก็สามารถขยายร้านจนใหญ่โตกลายเป็นร้านอาหารติดปากผู้คน ผู้ใหญ่ในจังหวัดต่างแวะเวียนมาชิม ติดใจจนใช้ต้อนรับแขกคนใหญ่คนโต

พวงทองบริหารงานบริการเยี่ยมยอด ใช้จ่ายประหยัด ควบคุมบัญชีการเงินเข้มงวด มีเงินเก็บไม่น้อย ชีวิตก้าวหน้ารวดเร็ว

เมื่อได้ลูกคนแรกเป็นผู้ชาย เสี่ยดีใจใหญ่ ยกร้านอาหาร ที่ดินบริเวณนั้นให้พวงทองเป็นของขวัญ ถึงตอนนี้พวงทองพอจะมองเห็นเส้นทางธุรกิจข้างหน้าของตนแล้ว

การมีคนใหญ่คนโตแวะเวียนมาเป็นแขกประจำร้าน ทำให้พวงทองรู้ข่าววงในไม่น้อย ทั้งยังสนิทสนมกับ ท่าน ทั้งหลาย ถึงขนาดยกครัวไปจัดเลี้ยงที่บ้านยามมีงานต่างๆ

พวงทองมีหูตากว้างไกลกว่าแม่ค้าทั่วไป ประกอบกับสมัยนั้นที่ดินยังมีราคาถูกมาก หล่อนจึงเริ่มกว้านซื้อสะสมที่ดินรอบตลาดและร้านของตนทีละน้อย จนกลายเป็นแปลงใหญ่ขึ้นโดยที่เสี่ยไม่รู้

จังหวัดมีการขยายตัวเร็ว รัฐบาลสนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยว สาธารณูปโภคต่างตบเท้าเดินแถวเข้ามาเรื่อย ที่ดินของพวงทองมีราคากลายเป็นทำเลทองเมื่อบริษัทขนส่งมาสร้างท่ารถติดกัน ส่วนตลาดสดของเสี่ยก็ขยายจนเต็มเป็นตลาดใหญ่ การค้าคึกคัก

เวลานั้นพวงทองมีลูกกับเสี่ยถึงห้าคน ผู้ชายสาม ผู้หญิงสอง ทุกคนใช้นามสกุลของพวงทอง เมียหลวงของเสี่ยไม่ยอมให้เขาเซ็นรับลูกเมียน้อยเป็นบุตร

ทุกอย่างดำเนินไปราบรื่น จนเสี่ยตายกะทันหันด้วยอุบัติเหตุ

เมียหลวงเสี่ยก้าวเท้ามาในชีวิตพวงทอง ตั้งใจสยายปีกยึดสมบัติสามีตนเองคืน ผลกลับตรงข้าม เสี่ยไม่อาจจดทะเบียนกับพวงทองก็จริง แต่ทรัพย์สินที่มีในจังหวัดนี้ เสี่ยใส่เป็นชื่อพวงทองทั้งหมด รวมถึงตลาดสดที่เป็นสมบัติเก่าของเสี่ยด้วย

ฝ่ายเมียหลวงแทบลมใส่ หน้ามืดด้วยความโมโห ตั้งทนายสู้ขอยึดตลาดคืน

พวงทองต่อสู้เป็นปี กว่าจะได้ครองสมบัติทั้งหมดตามกฎหมาย...


- - - - -


เมื่อได้ตลาดสดก็เหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายบนที่ดินผืนงามของพวงทอง มันกลายเป็นแผ่นดินผืนใหญ่ ทำเลทองดีที่สุดของจังหวัด

พวงทองก้าวบนถนนนักธุรกิจโดยมีทรัพย์สินที่ได้จากสามีเสี่ย และที่ดินผืนใหญ่เป็นบันไดทุนเริ่มต้น หล่อนจะพัฒนามันให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างเม็ดเงินมหาศาลในอนาคต

ด้วยมันสมองชาญฉลาด มองการณ์ไกล ประกอบกับรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ที่สามารถให้คำแนะนำ บอกข่าว ช่วยเรื่องเส้นสาย พวงทองจึงได้สัมปทานเดินรถ เปิดบริษัทตนเองขึ้นมาเป็น ทรัพย์ยั่งยืนทัวร์ ทั้งยังทำอู่ต่อรถทัวร์ ประกอบกับบริษัทขนส่งขอเช่าที่ดินหล่อนเพื่อขยายท่ารถให้กว้างขวางทันสมัยกว่าเดิม กิจการ ทรัพย์ยั่งยืนทัวร์ จึงก้าวกระโดดไกล สร้างผลประโยชน์เป็นกอบเป็นกำ

ถึงเวลานี้ธุรกิจหลักของพวงทองมีสามอย่างคือ บริษัทเดินรถรวมถึงอู่ต่อรถทัวร์ ตลาดสดและร้านอาหารใหญ่ที่สุดในจังหวัด คนอื่นคงพอใจกับสิ่งที่ตนมี ไม่คิดขยายกิจการด้านอื่นอีก แต่นั่นไม่ใช่ผู้หญิงชื่อพวงทอง

ด้วยเห็นว่าจังหวัดนี้ใหญ่โต มีเนื้อที่กว้างขวาง มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายจุด แต่ละแห่งห่างกันไม่น้อย จะเดินทางเที่ยวให้ทั่วต้องอาศัยตัวเมืองเป็นจุดศูนย์กลาง หล่อนมองเห็นอนาคตความเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับแถวหน้าของที่นี่ จึงดำเนินการสร้างโรงแรงห้าดาวบนทำเลสำคัญติดริมแม่น้ำ พ่วงด้วยห้างสรรพสินค้าคอมเพล็กซ์ครบวงจร ทั้งสองสิ่งอยู่บนที่ดินผืนใหญ่แปลงงามที่หล่อนเป็นเจ้าของทั้งสิ้น มันจึงเสมือนอาณาจักร ทรัพย์ยั่งยืนฯ ที่ยิ่งใหญ่ ขุมทองที่ขุดกินได้ชั่วลูกชั่วหลานไม่มีวันหมดสิ้น

ระยะเวลาหลายสิบปีแห่งการเดินทางบนถนนชีวิต แวดวงธุรกิจ คุณนายพวงทองใช้เวลาเกือบทั้งหมดสร้างอาณาจักรตนเองขึ้นมา ทุกสิ่งที่ฝันไว้ในวัยเยาว์เป็นจริงด้วยสมองและสองมือ หล่อนร่ำรวยจนไม่มีใครยอมเหน็ดเหนื่อยตรวจสอบรายละเอียดสมบัติทั้งหมด แทบทุกคนในจังหวัดต่างเคารพ ยกย่อง เกรงกลัวบารมี คุณนายพวงทอง

หญิงชราคนนี้เป็นบุคคลสำคัญ มีเกียรติที่สุดในจังหวัดโดยไม่ต้องมีสายสะพาย

ถึงจุดนี้แล้ว...จุดที่คุณนายพวงทองต้องการมาทั้งชีวิต ทำไมช่วงเวลาแห่งการเสพสุขถึงสั้นนัก ยังไม่ทันได้อิ่มเอมกับมันสักเท่าไหร่ โรคภัยไข้เจ็บก็มาเบียดเบียน เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น หนำซ้ำต้องนั่งรถเข็นไม่ต่างจากคนพิการ แถมมัจจุราชก็ยืนรอจะมาพรากเอาชีวิต สมบัติประดามีที่เพียรหามายากเย็นต้องวางทิ้งจนสิ้น กระทั่งลมหายใจยังต้องคืนแก่โลก

...ไม่เอา...ฉันยังไม่อยากตาย...

คุณนายพวงทองร่ำร้องภายในใจ ภาพชีวิตพร่าเลือน วิบวับ เปลือกตาล้าแรง หนักอึ้งยากฝืน หูแว่วเสียงรอบข้างชัดกริบ หมอกำลังสั่งงานพยาบาลด้วยคำพูดที่ฟังไม่เข้าใจ เสียงฝีเท้าดังกุกกัก เสียงเครื่องมือแพทย์ดังกริ๊ก กริ๊ก

หัวใจเต้นตุบ...ตุบขึ้นมาครั้งสองครั้งก่อนแผ่วหาย ซาลงราวกับคนหมดแรง

...ไม่เอา...ฉันยังไม่อยากตาย

คุณนายพวงทองร่ำร้องด้วยคำเดิม...ทำอย่างไร...จะทำอย่างไรฉันถึงจะรอด...ต้องการเงินเท่าไหร่บอกมา ฉันมีให้...อยากได้หมอเก่งกาจขนาดไหนเรียกได้...หรือจะพาฉันเข้ากรุงเทพฯก็ยอม

ทำอย่างไรก็ได้ ขอให้ฉันมีชีวิต...ขอให้ฉันมีชีวิตอยู่

คำร่ำร้องของคุณนายพวงทองทอดยาวอยู่ในห้วงสำนึกเหนื่อยล้า ขณะทีมแพทย์ต่างทำงานสุดฝีมือ กำลัง เพื่อฉุดรั้งชีวิตที่ใกล้ร่วงโรยให้กลับคืน


ก๊อก...ก๊อก...

เสียงเคาะประตูดังขึ้นท่ามกลางความมืด ปลุกประสาทรู้สึกตัวขึ้นชั่วแวบก่อนความง่วงงุนจะเรียกคืนสู่นิทราอีกครา

ก๊อก...ก๊อก...

เสียงเคาะประตูครั้งนี้ดังชัด คมกริบ ชนิดปลุกเต็มตื่น นัยน์ตาใสขจัดความง่วงงุนในพริบตา

ชายหนุ่มลุกขึ้นปัดผ้าห่ม ตวัดขาลงจากเตียง เสยเส้นผมค่อนข้างสั้นเรียกความรู้ตัวอีกครั้ง ตาสว่างแล้ว นาฬิกาบนหัวเตียงบอกเวลายังไม่เช้านัก ปกติเขายังนอนต่ออีกเป็นชั่วโมงด้วยซ้ำ

เชน...ตื่นหรือยังลูก น้ำเสียงใส กังวานอ่อนโยนดังหน้าประตู

ครับแม่ ชายหนุ่มรับคำ ลุกขึ้นไปเปิดประตู

แสงสว่างจากหลอดไฟด้านนอกทำให้เขาต้องหรี่ตาปรับแสงชั่วครู่ ก่อนจะมองเห็นใบหน้ามารดาชัดเจน

พาแม่ไปส่งที่โรงพยาบาลหน่อยสิ

เชนขมวดคิ้วมองหน้ามารดาอย่างแปลกใจ

แม่ไม่สบายหรือครับ หรือว่าพ่อเป็นอะไรไป

เขาถามพลางสังเกตมารดาตน

ใบหน้าแม่ยังดูอิ่มใสเช่นเคย ไม่มีร่องรอยเจ็บป่วย หรือพ่อจะไม่สบาย

ไม่ใช่หรอก...แม่จะไปเยี่ยมคุณอาพวงทองเธอหน่อย

คุณจิตใสเรียก คุณนายพวงทอง ของคนทั้งจังหวัด ว่าคุณอาตามศักดิ์นับญาติ

ตอนนี้หรือครับแม่ เขาแปลกใจ ทางโรงพยาบาลเขาโทรมาแจ้งอะไรหรือเปล่า

คุณจิตใสยิ้มน้อยๆ ให้ลูกชายแทนคำตอบ...ถ้าโรงพยาบาลโทรศัพท์มาจริงเขาต้องได้ยิน แต่นี่ บ้านเงียบกริบจนแม่มาเคาะประตูเรียก

ครับแม่ เขาไม่ซักไซ้มาก แล้วพ่อไปด้วยมั้ย

ไม่หรอก เมื่อคืนพ่อเขานอนดึก แม่ไม่อยากปลุก

งั้นแม่รอผมแป๊บนึงนะครับ ขอล้างหน้าล้างตาก่อน

จากบ้านเชนไปถึงโรงพยาบาลนับว่าไม่ไกลนัก ยิ่งเป็นเช้ามืดเช่นนี้รถราแทบว่างวาย เดินทางสะดวก รวดเร็ว เชนเหลือบมองมารดาหลายครั้ง คุณจิตใสนั่งตัวตรง นิ่งเงียบตลอดทาง นัยน์ตามองถนนราวกับเฝ้ารอเวลาเดินทางถึงจุดหมาย

อาการคุณยายแย่มากหรือครับ เชนลองเอ่ยปากหยั่งถามขึ้น

จ้ะ แม่ตอบสั้นๆ

ชายหนุ่มคิดจะถามว่าใครเป็นคนโทรศัพท์มาบอก แต่จำต้องยั้งปาก... ความที่ใกล้ชิดคุ้นเคยกับมารดาจึงพอรู้ คำถามใดควรเอ่ยปาก คำถามใดต้องรอพิสูจน์เอง

ถึงโรงพยาบาล เชนได้ข้อสังเกตแรก รถที่จอดเกือบเต็มเวลาเช่นนี้มันบอกเหตุสำคัญ หมอพยาบาลเดินกันวุ่นราวเกิดอุบัติเหตุใหญ่ ถ้าสายตามองไม่ผิด น่าจะเห็นบนดาดฟ้าเปิดไฟสว่างเตรียมเฮลิคอปเตอร์พร้อมเดินทาง

สองแม่ลูกมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน พบคนกลุ่มหนึ่งเฝ้าหน้าห้องท่าทางกระวนกระวายใจ

สวัสดีครับพี่จิต ราม...ลูกชายคนโตคุณนายพวงทองเข้ามาทักคุณจิตใสทันทีที่เห็น ว่ายังไงเชน มาเป็นเพื่อนแม่เหรอ

เชนรีบยกมือไหว้เมื่ออีกฝ่ายทักทาย ลูกชายคนโตคุณนายพวงทองอายุห้าสิบต้นๆ เป็นนายกเทศมนตรี นักการเมืองท้องถิ่นที่มีพรรคการเมืองเคยติดต่อให้ลง ส.ส.ระดับประเทศ

เป็นอย่างไรบ้าง คุณจิตใสถาม

ท่าจะแย่ครับ รามตอบพลางถอนใจ ผมกำลังจะโทรตามพี่จิตอยู่พอดี

คำพูดท้ายทำให้เชนมองมารดาอย่างแปลกใจ นี่เป็นอีกข้อสังเกตหนึ่ง ไม่มีใครโทรบอก แม่รีบมาโรงพยาบาลเอง

หมอว่ายังไง ผู้มาเยี่ยมถามต่อ

ก็ถามพวกเราว่าจะส่งแม่เข้ากรุงเทพฯ มั้ย เตรียม ฮ.พร้อมแล้ว รามตอบ

แล้วว่ากันยังไงล่ะ

ยังตกลงกันไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าระหว่างรักษาอยู่ที่นี่ กับเสี่ยงเอาเข้ากรุงเทพฯ อย่างไหนจะมีเปอร์เซ็นต์รอดมากกว่ากัน

หมอที่นี่ก็เก่งนะ ถ้าย้ายตอนนี้ จะกระทบกระเทือนหรือเปล่า คุณจิตใสเปรยกึ่งออกความเห็น

นั่นสิครับ อีกฝ่ายถอนใจ ไม่รู้จะพูดอย่างไร

คุณจิตใสยิ้มอ่อนโยน สร้างความเย็นใจ พลางส่งรอยยิ้มนั้นต่อยังลูกคนอื่นของคุณนายพวงทองที่นั่งกังวลใจอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน

ทุกคนรู้จักคุณจิตใส เช่นเดียวกับที่คุณจิตใสรู้จักทุกคน

ราม...ลูกชายคนโตอายุห้าสิบเศษ เป็นนายกเทศมนตรี ดูแลอู่ฯ กับกิจการทรัพย์ยั่งยืนทัวร์

ลักษณ์...ลูกคนรองอายุราวห้าสิบ ดูแลกิจการโรงแรมทรัพย์ยั่งยืนแกรนด์รอยัล และห้างฯ

สีดา...ลูกคนที่สามอายุสี่สิบเศษ ดูแลตลาดทรัพย์ยั่งยืนและร้านครัวพวงทอง

สมุทร...ลูกคนที่สี่อายุราวสี่สิบ เป็นผู้ช่วยลักษณ์ดูแลห้างทรัพย์ยั่งยืนคอมเพล็กซ์

สุขศจี...ลูกสาวคนสุดท้องอายุยังไม่ถึงสี่สิบ เป็นผู้ช่วยสีดาดูแลร้านอาหารครัวพวงทอง

เชนยกมือไหว้พวกน้าๆ ผู้มั่งคั่งครบทุกคน แต่ละคนรับไหว้เนือยๆ สีหน้าเหน็ดเหนื่อย กังวลจนไม่คิดอยากเอ่ยปากทักทายใคร สายตาจับจ้องประตูห้องฉุกเฉิน ราวกับต้องการแลเล็งภายในให้เห็นชีวิตที่กำลังพยายามยื้อยุดจากมือมัจจุราช

คุณจิตใสทรุดนั่งข้างสีดา ลูกสาวคนโตคุณนายพวงทอง จับมือผู้อยู่ในอาการกระวนกระวายใจมากุมหลวมๆ พูดจาเบาๆ ให้สติจนอีกฝ่ายสีหน้าคลายลง

จากนั้นแทบไม่มีใครพูดจากับใคร ความเงียบถักทอทีละน้อยจนหนาแน่น สร้างบรรยากาศอึดอัดครอบคลุมทั่ว

เชนไม่ชอบบรรยากาศเช่นนี้เลย มันคล้ายยืนกลางสุสานร้างลมหนาวพัดมาเป็นวูบๆ มองซ้ายขวาไม่เห็นสิ่งมีชีวิต เงาแห่งความตายทาทาบ ยืดยาว กวักมือเรียกหาจนน่าขนลุกขนพอง

เวลาแห่งการรอคอยอันเนิ่นนานสิ้นสุดลงเมื่อประตูห้องฉุกเฉินเปิด นายแพทย์ชุดกาวน์ก้าวออกมา ทุกคนพร้อมใจลุกขึ้นราวกับนัด เตรียมตัวรับข่าวจากนักรบผู้ทำการยื้อยุดชีวิต


(โปรดติดตามต่อฉบับหน้า)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP