สารส่องใจ Enlightenment
สอนใจไว้ด้วยธรรม
หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร
วัดถ้ำผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย
ให้ตั้งใจ ให้รักตัว อย่าเพลิดเพลินนัก อย่าค้นคว้า
สมบัติในโลกไม่ใช่ของใคร เราเกิดมาในโลกนี้ไม่ใช่ของใคร
เราเกิดมาในโลกนี้ อวัยวะร่างกายเรายืมเขามาใช้ ไม่รู้ว่าเขาจะเอาไปวันไหน ทราบไม่ได้นะ
ทรัพย์สมบัติเงินทองก็ยืมของเขามาใช้ บางคราวทรัพย์สมบัติออกไปจากตัว
ฉิบหายด้วยโจรภัย อัคคีภัย บางคราวก็ต้องตายก่อนสมบัตินะ มันไม่เที่ยง ให้นึกให้มากทีเดียว
อย่าเอาของชั่วถมใจตัว ให้เอาธรรมสอนใจตัวให้มาก
อย่าเอาสมบัติเงินทองสอนใจ ให้เอาธรรมศาสโนวาทของพระพุทธเจ้าสอนจิตสอนใจ
เดินมรรคให้ถูก ปัญญาเห็นชอบ ดำริชอบ เจรจาชอบ มันชอบทุกอย่าง
ปัญญาเห็นชอบ เห็นอวัยวะร่างกายทุกส่วนแปรนะ แปร มันไม่เที่ยงนะ แปรให้เห็น
หากว่าเห็นความแปรแล้ว ความไม่แปรก็เห็นอยู่ในนั้น
เห็นความตาย ความไม่ตายก็รู้จัก มีอยู่ในนั้น
หนาวก็มีร้อนแก้ มีตายก็มีไม่ตายแก้ มันแก้กันอยู่นะ
อย่างพระมหาบุรุษเอาไม้สีไฟถูกกันให้เป็นไฟไหม้ได้ ต้องเอาไม้แห้งๆ สีไฟไหม้ได้
จิตของเราอย่าเอาราคะ โทสะ โมหะ ให้ชุ่ม
ไม่ได้เจริญศีล ไม่ได้เจริญภาวนา ไม่แคล่วคล่อง มันเป็นภาระมากทีเดียว
คล้ายๆ กับว่าเอาไม้ชุ่มด้วยน้ำมาสีไฟ ไฟไม่ออก มันต้องแห้งทีเดียวจึงจะสีไฟออกได้
แม้จิตของเราก็ต้องแห้งจากราคะ โทสะ โมหะ มันจึงจะระเบิดซึ่งไฟออกมา
พระพุทธเจ้า พระอริยเจ้า ท่านพิจารณาทุกข์
ปญฺจกฺขนฺทา ทุกฺขา เบญจขันธ์เป็นทุกข์อย่างยิ่งทีเดียว
พวกเราแบกหามอยู่เรื่อยๆ ไม่รู้จักปลงวิธีไหน ไม่เหมือนพระอริยเจ้า รู้จักปลง
เจริญสมถะ เจริญวิปัสสนา ให้แคล่วคล่อง ให้เก่งกล้า ปลงด้วยวิธีนี้
พวกเราปลงไม่ได้ หาบอยู่อย่างนั้น หนักอยู่อย่างนั้นเอง
หนักรูป หนักเวทนา เวทนา สังขาร วิญญาณ
หนักขนาดไหน ต้องหาเรื่องอาหาร เรื่องกาย ต้องหาเครื่องประดับ
ต้องหาผ้า หากางเกง หาซิ่นนุ่ง หมดไปหลายร้อยตัวตั้งแต่เด็กๆ มา
ข้าวก็หมดไปหลายยุ้งหลายฉาง มันหนักขนาดนั้นทีเดียวนะ
แต่ก็ไม่ปลงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เหมือนสมถะวิธี วิปัสสนาวิธี
เมื่อปลงเหมือนพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ก็ไม่เกิด
เรายังปลงไม่ได้ ก็หอบไปเกิดอีกทีเป็นวัฏฏะ วังวนเกิดตาย หาต้นปลายไม่ได้
มันนานนักหนานะ หาต้นหาปลายไม่ได้
ผัวๆ เมียๆ พบกันหลายชาติ ผัวตาย เมียตาย ร้องไห้หากัน ลูกตาย ร้องไห้หากัน
นี้เอง องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคตรัสว่าร้องไห้หากัน หากสะสมไว้ทุกๆ ชาติ
น้ำตาที่อันตรธานหายไป ยิ่งกว่าท้องน้ำมหาสมุทรทั้ง ๔
อีกประการหนึ่งเรากินน้ำนมของมารดา ยิ่งกว่าน้ำมหาสมุทรทั้ง ๔
เหมือนกินในชาติหนึ่งๆ หลายๆ ชาติผสมกัน ความทุกข์ร้อยแปด
พระพุทธเจ้าท่านกล่าวอย่างที่อาตมาพูดนี้
สัตว์ที่เกิดมี ๓ ชนิดนะ บิดามารดาเคล้าคลึงกันหนึ่ง
น้ำอสุจิผสมกันหนึ่ง สัตว์เข้าสู่วิญญาณหนึ่ง สามอย่างทีเดียว
แล้วทีนี้เด็กไม่ใหญ่ข้างนอก มันใหญ่ข้างใน มันออกมา พระอรหันต์หวาดเสียว
ตอนมนุษย์อยู่ในท้อง มันคล้ายๆ แมลงหนีฝนไปอาศัยอยู่โคนต้นไม้
เด็กที่อยู่ในท้องมารดา นำอาหารเก่าอาหารใหม่พอกศีรษะ
เด็กนั้นคุดคู้อยู่ ไม่ใช่เดือนสองเดือน ตั้งหลายเดือนกว่าจะออกมานะ
ไม่ได้เปลี่ยนอิริยาบถ ยืนเดินไม่ได้ ต้องคุดคู้อยู่อย่างนั้น มหันตทุกข์ใหญ่ๆ
พระอรหันต์รู้ด้วยวิธีนี้ ไม่ปรารถนาจะมาเกิดในโลก
อยู่ในท้องของมารดา สกปรกมาก อากาศก็ไม่ดี สารพัดทุกอย่าง
อีกประการหนึ่ง เด็กเวลาที่จะออกมาจากครรภ์มารดา
เหมือนควาญไสช้างออกมาจากเพดานช่องแคบ
ตอนนี้ แม่ก็ดี เด็กก็ดี จะเป็นจะตายในระหว่างนั้น
เด็กกระดูกก็อ่อน เนื้อก็อ่อน หมอบหัวชนช่องทวารของแม่
ไม่ใช่กว้างขวางพอเด็กจะคลานออกมาได้สะดวก มันรีดออกมาโขกกระดาน ร้องไห้
หมอตำแยหรือนางพยาบาลไปจับเด็ก คล้ายกับเข็มแทง เด็กร้องวี้ดๆ ว้าดๆ
นี่แหละ พระอริยเจ้าคำนวณความทุกข์เช่นนี้มากมายทีเดียว เจ็บปวดเท่าไหร่
ไม่ควรปรารถนามาเกิดในโลกนี้ มาทุกข์เปล่าๆ ไม่มีประโยชน์
อะไรๆ ก็เอาไปไม่ได้ เงินทองข้าวของเอาไปไม่ได้ ต้องเอาวางไว้ในโลก
บางคราวสมบัติเหล่านั้น เราหนีมันไปก่อน เราตายก่อน
บางคราวสมบัติเหล่านั้นหายไปจากตัวของเรา เอาไปได้แต่บุญแต่บาปอย่างเดียว
- - - - - - - - - -- - - - -- - - - -- - - - -- - - - -- - - - -- - - - -- - - - -- - - - -- - - - -
คัดจาก จิตตภาวนา มรดกล้ำค่าทางพระพุทธศาสนา
รวบรวมโดย มูลนิธิหลวงปู่มั่น พิมพ์ครั้งที่ ๑ เมื่อ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๓
< Prev | Next > |
---|