สารส่องใจ Enlightenment

ศีลธรรมสำหรับครอบครัว (ตอนที่ ๓)



พระธรรมเทศนา โดย พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน)
วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
เทศน์อบรมฆราวาส ณ กรมทหาร ร. พัน. ๓ อุดรธานี
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๑๙




ศีลธรรมสำหรับครอบครัว (ตอนที่ ๑) (คลิก)
ศีลธรรมสำหรับครอบครัว (ตอนที่ ๒) (คลิก)



ข้อที่สาม กาเมฯ ลูกใครๆ ก็รัก เมียใครๆ ก็รัก สามีใครๆ ก็รัก
ในครอบครัวนั้นไม่มีสิ่งใดรักมากยิ่งกว่าคู่ครองคือสามีภรรยา
สามีกับภรรยานี้เป็นคู่พึ่งเป็นพึ่งตายกันราวกับอวัยวะอันเดียวกัน
ไม่มีรักใดในครอบครัวจะมากยิ่งกว่าสามีรักภรรยา ภรรยารักสามี
ความรักก็มาก ความสงวนก็มาก ความหึงหวงก็มาก ไม่มีสมบัติใดเทียบเท่าเลย
ถ้าไปทำความไม่ดี มีนอกมีในไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน
เช่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอุตริคิดไม่ชอบ ไปหาเศษหาเลยในที่ต่างๆ แบบสุนัขตัวหิวจัด
อีกฝ่ายหนึ่งจะเกิดความเสียใจมากชนิดบอกไม่ถูก
เทียบได้แต่เพียงว่า นี่เท่ากับเอามีดมาผ่าหัวอก
ล้วงเอาหัวใจออกมากองเรี่ยราดทั้งที่ยังไม่ตาย
ฝ่ายที่ถูกทำลายนั้นจะทุกข์มากทรมานมากขนาดไหน
นี่ใครๆ ก็ตอบได้เต็มปากไม่กระดากว่ากลัวผิด



ทุกท่านที่คู่ครองซึ่งจะเป็นผู้บาปหนา
มาโดนฝ่ายหนึ่งเป็นเพชฌฆาตสังหารทั้งเป็นได้ลงคอแบบนี้
จงคิดดูให้ถึงใจ ท่านยังจะสังหารสามีของท่าน ภรรยาของท่านได้ลงคอละหรือ
หากจะเป็นทำนองนี้ แม้ฝ่ายใดจะตายก็ยอมตายเถิดด้วยความอดกลั้นขันติ
ฝ่าฝืนกิเลสตัวเพชฌฆาตสังหารกันทั้งเป็นนี้
ท่านจะเป็นสามีหรือภรรยาตัวอย่าง
อันมีเกียรติแก่สุภาพชนชาย-หญิงทั้งหลายไม่มีวันลบเลือนตลอดไป
ตายแล้วท่านก็จะไปสวรรค์ เสวยวิมานตัวอย่างด้วยความบันเทิงหลายพันหลายหมื่นปีทิพย์
ทั้งเป็นเทพตัวอย่างแห่งเทวดาทั้งหลายไม่มีประมาณ
ดีกว่าท่านจะคิดสังหารคู่ครองซึ่งรักท่านอย่างสุดชีวิตจิตใจ
แล้วก็ถูกท่านสังหารอย่างเลือดเย็นใจอำมหิตผิดมนุษย์ภูมิทั้งหลาย
ไม่อาจมีโลกใดมีความหนาแน่นมั่นคง
พอจะทานน้ำหนักบาปกรรมของท่านผู้ลามกจกเปรตได้



ก่อนที่ท่านจะทำความชั่วหรือทำลายกันดังธรรมที่กล่าวมานี้
ขอท่านได้มองหรือคำนึงถึงศาสนธรรมของศาสดาองค์เอก ธรรมดวงเอก
ให้เต็มตาเต็มใจก่อนว่าเป็นผู้เช่นไร เป็นธรรมเช่นไร
จอมปราชญ์ทั้งหลายถึงได้เคารพเทิดทูนกันนักหนา
ส่วนกิเลสทั้งหลายมีกามกิเลสเป็นตัวการ
มีปราชญ์ท่านใดเคารพนับถือและเทิดทูนว่าเป็นของดีวิเศษ
พวกเราจึงได้เคารพรักชอบขอบคุณมันนักหนา
ถ้าท่านคิดคำนึงเหตุผลหนักเบาบ้างดังกล่าวมา
ท่านจะมีทางต่อสู้และหลบหลีกปลีกตัวจากมันได้พอประมาณ
อย่างน้อยท่านต้องเป็นสุภาพชนคนหนึ่ง ในวงของสามัญชนที่ยังมีกิเลสภายในใจ
สามีท่านหรือภรรยาท่านก็จะนอนตาหลับขับกล่อมด้วยความอบอุ่นภูมิใจ
ไม่กลืนน้ำลายกับน้ำตาด้วยความฝืนกายทรมานใจ
ดังที่โลกปัจจุบันกำลังถลำตัวเข้ารองรับกันอยู่ทั่วดินแดน
ท่านเป็นฆราวาสต้องตาแหลมคมกว่าตาพระ ผู้กำลังหลับหูหลับตาแสดงอยู่เวลานี้
ท่านต้องเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเหล่านี้



งานเพื่อความราบรื่นและให้เกียรติกันระหว่างสามีภรรยา
คืองานบางอย่างสามีเป็นใหญ่ เป็นผู้จัดผู้ทำ
ภรรยาไม่ควรไปก้าวก่าย นอกจากสามีขอความร่วมมือ
งานบางอย่างภรรยาเป็นใหญ่ สามีไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย เว้นแต่ภรรยาขอความร่วมมือ
ยกให้เป็นใหญ่คนละทางตามความถนัดของเพศที่ควรแก่งานนั้นๆ
ต่างให้เกียรติกันด้วยความเกรงอกเกรงใจกัน
ไม่ดูถูกเหยียดหยามกันด้วยโคตรแซ่ด่าพ่อล่อแม่กัน
วงศ์สกุลของแต่ละฝ่ายขอให้ยกไว้บนที่สูง อย่านำมาเหยียบย่ำทำลาย
แม้จะมีการขัดแย้งกันบ้างบางกรณีที่เหตุผลยังไม่กลมกลืนกัน
ก็ควรพูดในฐานะสามีภรรยากัน อย่านำเอาวงศ์สกุลของแต่ละฝ่ายมาขยี้ขยำ
ซึ่งเป็นการดูถูกและทำลายจิตใจกันเจ็บแสบแบบลืมไม่ลง
ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้ร้าวฉานและแตกแยกกันที่ใครๆ ไม่ปรารถนาทั้งสองฝ่าย



หากมีความคิดไม่ดีเกิดขึ้นระหว่างกันและกัน
เกี่ยวกับความรู้ความเห็นขัดแย้งกันบ้าง ก็อย่าเกลียดอย่าโกรธกันอย่างง่ายดาย
พึงระลึกย้อนหลังก่อนจะได้กันเป็นสามีภรรยานั้น
ต่างฝ่ายต่างแทบล้มแทบตายกลัวจะไม่ได้เป็นผัวเป็นเมียกัน
นอกจากนั้นยังเกี่ยวโยงไปถึงพ่อถึงแม่
ตลอดวงศาคณาญาติของแต่ละฝ่ายให้ยุ่งไปตามๆ กัน
เมื่อได้เป็นสามีภรรยาสมใจหมายแล้ว
จึงควรประคับประคองกันให้ถึงฝั่งถึงแดนอวสานของอายุขัย



การเป็นสามีก็ดี การเป็นภรรยาก็ดี
ต่างก็เป็นความสมัครรักชอบมอบชีวิตร่างกายต่อกันจริงๆ
หากมีอะไรเกิดขึ้นในลักษณะลิ้นกับฟันที่อยู่ด้วยกัน ย่อมมีการกระทบกันบ้าง
เป็นธรรมดาของสามีภรรยาที่ต่างคนต่างรับผิดชอบร่วมกัน
ก็พึงถือความมั่นคงต่อกันเป็นใหญ่กว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจมีแทรกและบั่นทอนได้
พึงคิดเสมอว่า ต่างผละจากพ่อจากแม่มาแล้ว
เปลี่ยนใจมาถือสามีภรรยาเป็นเหมือนพ่อเหมือนแม่
และเป็นมิตรเป็นสหาย เป็นคู่พึ่งเป็นพึ่งตาย
จะทำอะไรพึงคำนึงถึงหัวอกของเจ้าของเสมอ
คือสามีนั้นเป็นเจ้าของของภรรยา ภรรยาก็เป็นเจ้าของของสามี
ให้พึงคำนึงถึงเจ้าของของกันและกันแล้วทำอย่างไรไม่ลง
อะไรก็ตามถ้าปราศจากเจ้าของแล้วมักไม่ปลอดภัย
จงระลึกถึงเจ้าของไว้เสมอจะไม่เผลอตัวและหลวมตัว ครอบครัวก็อบอุ่นมั่นคง



เหล่านี้ชื่อว่าผู้มีธรรม อปฺปิจฺฉตา ความมักน้อย
ไปเถอะ จะทำงานในบ้านนอกบ้าน ไปที่ไหนไปเถอะ
มีความสะดวกกายสบายใจทั้งนั้น ต่างคนต่างไว้ใจกัน
สมบัติได้มามากน้อยมาบำรุงครอบครัวให้มีความสุข เพราะไปด้วยความสุจริต
ได้ทรัพย์สมบัติมาด้วยความสุจริต มาเป็นประโยชน์แก่ครอบครัว
ครอบครัวมีความร่มเย็นเป็นสุข
ถึงจะขาดตกบกพร่องสิ่งใดบ้างในครอบครัว ตามกฎอนิจฺจํก็ตาม
ไม่สำคัญยิ่งกว่าสามีภรรยาประพฤติตนแหวกแนว
อันนี้เป็นสิ่งทำลายมากทีเดียว ถ้าครอบครัวใดมีอย่างนี้เคลือบแฝงอยู่แล้ว
ครอบครัวนั้นจะมีเงินเป็นล้านๆ ก็ตามเถอะ จะหาความสุขไม่ได้
ครอบครัวที่มี อปฺปิจฺฉตา คือศีลธรรมข้อมักน้อย
รู้จักเมียของตน รู้จักผัวของตน รู้จักคนอื่น รู้จักของเขาของเราไม่กล้ำกราย
นั้นแลจะมีความร่มเย็นเป็นสุข อดบ้างอิ่มบ้างก็พอใจ
คนเรามีหลักใหญ่อยู่ที่ครอบครัวผัวเมียเป็นสำคัญ



ลูกเต้าหลานเหลนเกิดขึ้นมาเป็นลูกของเราก็ไม่มีปมด้อย
พ่อแม่ก็ไม่ทะเลาะกันในเรื่องแบบน้ำล้นฝั่งนี้
การทะเลาะกันเพราะความขาดเขินบกพร่อง
และทะเลาะกันอย่างอื่นไม่ค่อยเป็นไรถือเป็นธรรมดา
แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องหนักมาก ใครๆ ก็ละอายกันไปหมด
จงเข้มงวดกวดขันตลอดไปอย่าเผลอตัวจะหลวมตัว
การทะเลาะกันอย่างอื่นก็ควรระวัง เวลาพ่อแม่ทะเลาะกันลูกเต้ามองหน้ากันไม่ได้
จะไปเที่ยวกับหมู่กับเพื่อน ไปโรงร่ำโรงเรียนก็มองดูหน้าเพื่อนฝูงไม่ได้
เมื่อพ่อแม่ทะเลาะกันด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งเพราะอายเพื่อนฝูง
วันนี้ได้มาเยี่ยมพี่น้องทั้งหลาย และได้อธิบายธรรมะเป็นข้อๆ ให้ฟัง นี่เป็นข้อที่สาม



ข้อที่สี่ มุสาฯ ทำไมท่านจึงสอนไม่ให้โกหกกัน
เราพิจารณาดูซิ โกหกมันดีเหรอมองเห็นหน้ากันก็โกหกแล้ว เอาความโกหกทักทายกัน
คนทั้งบ้านทั้งเมืองทั้งประเทศขอบเขตของมนุษย์ มีแต่ความโกหกออกต้อนรับกัน
ไปที่ไหนเกลื่อนกลาดอยู่ด้วยความโกหกพกลม หาความสัตย์ความจริงต่อกันไม่ได้
มนุษย์เราอยู่ด้วยกันได้อย่างไร อยู่ไม่ได้
ไม่มีความสัตย์ความจริงเป็นที่ยอมรับเป็นที่เชื่อถือกันแล้วอยู่ด้วยกันไม่ได้
เพื่อให้มนุษย์อยู่ด้วยกันได้เชื่อถือกันได้
นับตั้งแต่เพื่อนฝูง สามีภรรยา ลูกเต้าเหล่ากอ ออกไปจนกระทั่งสังคมทั่วประเทศ
ให้มีความสัตย์ความจริงเป็นที่ยึดที่ถือเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจกันได้
บ้านเมืองก็มีหลักมีเกณฑ์มีขื่อมีแป นี่ในข้อมุสา



อันนี้พูดเพียงย่อๆ ให้ท่านทั้งหลายได้เข้าใจเอาไว้ว่า
อำนาจแห่งความสัตย์ความจริงนี้มีคุณค่ามหาศาล
โลกอยู่ด้วยกันได้สนิทเพราะความสัตย์ความจริง ไม่ใช่เพราะความโกหกพาอยู่
และความโกหกพกลมนั้นก่อความเสียหายให้แก่โลกได้มากมายทีเดียว
ผู้หวังสารคุณต่อกันจึงปฏิบัติต่อกันด้วยความสัตย์ความจริงอย่างเดียว
ความโกหกพกลมเป็นเหมือนผีตัวหลอกลวงกินบ้านกินเมือง
สังคมผู้ดีจึงสาปแช่งกีดกันไม่ให้เข้ามาแทรกซึม
นอกจากจำพวกทำนาอยู่ในขั้วตับขั้วปอดคน
จึงต่างเลี้ยงตัวโกหกต้มตุ๋นไว้เพื่อประทังชีวิต
ดังนั้นความโกหกจึงเป็นวิชาหากินของคนชั่วเท่านั้น
ไม่เป็นสารคุณใดๆ สำหรับคนดีทั่วๆ ไป ท่านจึงห้ามไม่ให้พูดปดมดเท็จ
เพราะเป็นเพชฌฆาตสังหารคนให้ล่มจมโดยถ่ายเดียว



(โปรดติดตามเนื้อหาต่อในฉบับหน้า)


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


ที่มา https://bit.ly/3O1UBbm


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP