จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

การทำงานคือการฝึกฝนสร้างบารมีธรรม



งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

101_destination

เคยรู้สึกไหมครับว่าเราต้องทำงานมากมายจนหาเวลาปฏิบัติธรรมได้ยาก
ในขณะที่เรารู้สึกว่าการปฏิบัติธรรมเป็นงานหลักในชีวิตของเรา
และรู้สึกว่างานอื่น ๆ ทางโลกนั้นเป็นงานรอง
แต่ว่าเรากลับไม่มีเวลาที่จะปฏิบัติธรรมเท่าไร

ในทางกลับกัน เราต้องใช้เวลาชีวิตมากมายไปกับงานทางโลก ซึ่งเป็นงานรอง
ไป ๆ มา ๆ ก็เลยรู้สึกว่าไม่อยากจะทำงานรองเสียแล้ว
รู้สึกเบื่อหน่ายงานทางโลก และอยากจะย้ายไปอยู่วัดเสียเลย

แม้จะมีความต้องการดังกล่าวก็ตาม แต่ด้วยภาระบางอย่างในชีวิตเรา
เราก็ไม่สามารถจะย้ายไปอยู่วัดอย่างที่ต้องการได้
บางคนก็เลยต้องใช้ชีวิตทางโลกอย่างทุกข์ระทม ทำงานไปอย่างไม่มีความสุข
โดยปล่อยให้ภวตัณหา (ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น) และ
วิภวตัณหา (ความไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น) เข้ามาครอบงำจิตใจเรื่อยไป
คือแต่ละวันก็มัวแต่อยากจะปฏิบัติธรรม และอยากจะพ้นไปจากงานทางโลก

เมื่อประสบปัญหาทำนองนี้แล้ว ถามว่าเราควรจะทำอย่างไร?
สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ “มีสติรักษาใจ” ไว้ก่อนนะครับ
โดยให้รู้ทันความอยาก และความไม่อยากทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในจิตใจ
พึงมีจิตใจที่เป็นกลาง และพิจารณาว่าเราควรจะทำอะไรในเวลาดังกล่าว
ไม่ใช่ว่าในเวลาที่เราควรต้องทำงาน เรากลับไปมัวห่วงว่าจะปฏิบัติธรรม
แต่พอถึงเวลาที่เราควรจะปฏิบัติธรรม เรากลับไปมัวห่วงกังวลเรื่องงาน
เช่นนี้ก็ไม่เหมาะสม ไม่ถูกเรื่อง และไม่ถูกเวลา

นอกจากมีสติแล้ว เราก็พึงแบ่งเวลาชีวิตของเราให้เหมาะสมครับ
โดยแบ่งเวลาชีวิตของเราเพื่อการปฏิบัติธรรม
พยายามเก็บเล็กผสมน้อยในช่วงเวลาต่าง ๆ
และพยายามหากรรมฐานที่เหมาะสมกับตนเองที่จะช่วยให้
เราสามารถปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน และในการทำงานได้
ซึ่งหากเราสามารถบริหารจัดการชีวิตและเวลาของเราให้เหมาะสมได้
ก็จะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้

บางท่านไม่ได้แก้ไขปัญหาโดยการบริหารจัดการชีวิตและเวลาของเราให้ดี
แต่กลับมองว่าการทำงานทางโลกนั้นขัดขวางต่อการปฏิบัติธรรม
ในเรื่องนี้ หากเราพิจารณาให้ดีแล้ว เราจะสามารถเห็นได้ว่า
แท้จริงแล้ว การทำงานทางโลกนั้นก็เป็นการฝึกฝนสร้างบารมีธรรมได้
โดยอยู่ที่ว่าเราจะระลึกใจอย่างไร และประพฤติปฏิบัติตนเองอย่างไร
หากเรามองว่าการทำงานทางโลกเป็นเพียงแค่การหาเลี้ยงชีพแค่นั้น
เราก็อาจจะไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร และก็อาจจะกลุ้มใจว่าไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม

ทีนี้ เราลองมาพิจารณากันว่า การทำงานเป็นการฝึกฝนสร้างบารมีธรรมได้
โดยเราจะพิจารณาเปรียบเทียบกับบารมี ๑๐ ทัศ (ซึ่งประกอบด้วย
ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมี
ขันติบารมี สัจจะบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี และอุเบกขาบารมี) นะครับ

ในการทำงานนั้น เมื่อเราได้ช่วยเหลืองานเพื่อนร่วมงาน หรือได้ช่วยเหลือผู้มาติดต่องาน
หรือช่วยเหลือผู้อื่น ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนทานบารมี

ในการทำงานนั้น เมื่อเราตั้งใจรักษาศีล เราตั้งใจว่าจะไม่เบียดเบียนใคร
ไม่ทำร้ายใคร ไม่ขโมยของใคร (รวมทั้งของที่ทำงาน) ไม่ไปประพฤติในกาม
ไม่พูดเท็จ ไม่ไปดื่มสุราหรือของมึนเมา ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนศีลบารมี

ในการทำงานนั้น เมื่อเราตั้งใจขยันทำงานอยู่ตามลำพัง ไม่คลุกคลี
คนอื่น ๆ อาจจะจับกลุ่มคุยไร้สาระกัน แต่เราตั้งใจทำงานของเรา ไม่ไปรวมกลุ่มกับเขา
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนเนกขัมมบารมี

ในการทำงานนั้น เมื่อเราสนใจขวนขวายหาความรู้อยู่เสมอ เมื่อสงสัยก็เข้าสอบถามผู้รู้
เปิดใจกว้างที่จะรับความรู้ใหม่ ๆ หรือสิ่งใหม่ ๆ ไม่ทำตัวเป็นชาล้นถ้วย
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนปัญญาบารมี

ในการทำงานนั้น เมื่อเราขยันขันแข็งในการทำงานอย่างไม่ย่อท้อ
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนวิริยบารมี

ในการทำงานนั้น เมื่อเราสามารถอดทนต่อปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้น
เราไม่ท้อถอย ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาหรืออุปสรรคทั้งหลายในงาน ที่ทำงาน หรือการทำงาน
เราอดทนต่อถ้อยคำของผู้อื่น อดทนต่อความประพฤติไม่ดีของผู้อื่น
เราอดทนต่อกิเลสตัณหาทั้งหลายที่จะมาชักจูงใจให้เราทำไม่ดี หรือให้เราทำผิด
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนขันติบารมี

ในการทำงานนั้น เมื่อเราพยายามเต็มที่ในการที่จะทำงานให้สำเร็จ หรือแล้วเสร็จ
หรือเป็นไปตามกำหนดการที่ได้กำหนดไว้ หรือที่ได้ตกลงกันไว้
เราไม่มาทำงานสาย เราไม่โดดงานกลับก่อนเวลา เราไปประชุมตามนัดหมาย
เราส่งงานตามกำหนดเวลา ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนสัจจะบารมี

ในการทำงานนั้น เมื่อเราวางแผนหรือกำหนดเป้าหมายและแผนงานใด ๆ แล้ว
เรามุ่งมั่นและพยายามเต็มที่ในการที่จะทำงานให้สำเร็จตามที่ได้วางแผนไว้
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนอธิษฐานบารมี

ในการทำงานนั้น เมื่อเราพบเห็นเพื่อนร่วมงาน หรือคนที่ติดต่องานกับเรา
หรือผู้อื่นประสบปัญหา และเรามีจิตเมตตาช่วยเหลือเขา (ในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม)
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนเมตตาบารมี

ในการทำงานนั้น เมื่อเรารู้จักปล่อยวางเรื่องงานทั้งหลาย
โดยเราไม่เก็บไปคิดหรือวิตกกังวลในเวลาที่ไม่ควรคิด หรือยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องคิด
ปัญหาบางอย่างนั้นเราไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะเกินขอบเขตความสามารถเรา
หรือเป็นปัญหาที่ไม่มีทางแก้ไขได้ เรารู้จักที่จะปล่อยวาง และไม่แบกปัญหานั้นไว้
เพื่อนร่วมงานบางคนประพฤติไม่ดี และโดนทำโทษ หรือมีปัญหาชีวิตร้ายแรง
ซึ่งเราไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้ เรารู้จักที่จะปล่อยวาง และไม่แบกปัญหานั้นไว้
หรือมีคนอื่น ๆ มานินทาเรา มาด่าเรา มาพูดไม่ดีกับเรา ในเรื่องไร้สาระหรือเรื่องไม่จริง
เรารู้จักที่จะปล่อยวางไว้ และไม่เก็บเรื่องเหล่านั้นมาครุ่นคิดหรือวิตกกังวล
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนอุเบกขาบารมี

หากเรารู้จักที่จะเปลี่ยนมุมมองในการทำงานของเราให้เป็นไปดังข้างต้นแล้ว
เราจะพบว่าในการทำงานทางโลกของเรานั้น ย่อมเป็นการฝึกฝนบารมีธรรมของเราได้
แม้ว่าบางท่านยังไม่ได้ทำงาน แต่ยังเรียนหรือศึกษาอยู่
ก็สามารถนำไปประพฤติปฏิบัติได้ในทำนองเดียวกัน ดังต่อไปนี้

ในการเรียนนั้น เมื่อเราได้ช่วยเหลือแนะนำเพื่อนที่เรียนด้วยกัน หรือคนอื่นในสถานศึกษา
หรือช่วยเหลือผู้อื่นในเรื่องใด ๆ ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนทานบารมี

ในการเรียนนั้น เมื่อเราตั้งใจรักษาศีล เราตั้งใจว่าจะไม่เบียดเบียนใคร
ไม่ทำร้ายใคร ไม่ขโมยของใคร (รวมทั้งของสถานที่เรียน) ไม่ไปประพฤติในกาม
ไม่พูดเท็จ ไม่ไปดื่มสุราหรือของมึนเมา ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนศีลบารมี

ในการเรียนนั้น เมื่อเราตั้งใจขยันศึกษาอยู่ตามลำพัง ไม่คลุกคลี
คนอื่น ๆ อาจจะจับกลุ่มคุยไร้สาระกัน แต่เราตั้งใจเรียน เขียน อ่าน ฝึกฝนของเรา
ไม่ไปรวมกลุ่มกับเขา ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนเนกขัมมบารมี

ในการเรียนนั้น เมื่อเราสนใจขวนขวายหาความรู้อยู่เสมอ เมื่อสงสัยก็เข้าสอบถามผู้รู้
เปิดใจกว้างที่จะรับความรู้ใหม่ ๆ หรือสิ่งใหม่ ๆ ไม่ทำตัวเป็นชาล้นถ้วย
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนปัญญาบารมี

ในการเรียนนั้น เมื่อเราขยันขันแข็งในการเรียนอย่างไม่ย่อท้อ
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนวิริยบารมี

ในการเรียนนั้น เมื่อเราสามารถอดทนต่อปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้น
เราไม่ท้อถอย ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาหรืออุปสรรคทั้งหลายในเรื่องที่เรียน ในสถานที่เรียน
หรือในการเรียน เราอดทนต่อถ้อยคำของผู้อื่น อดทนต่อความประพฤติไม่ดีของผู้อื่น
เราอดทนต่อกิเลสตัณหาทั้งหลายที่จะมาชักจูงใจให้เราทำไม่ดี หรือให้เราทำผิด
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนขันติบารมี

ในการเรียนนั้น เมื่อเราพยายามเต็มที่ในการที่จะเรียนให้จบ หรือให้สำเร็จตามกำหนดเวลา
เราตั้งใจทำงานส่งตามกำหนดเวลา เราตั้งใจทำงานกลุ่มให้เสร็จตามที่ได้ตกลงกันไว้

เราไม่มาเรียนสาย เราไม่กลับก่อนเวลา เราส่งการบ้านหรืองานตามเวลานัดหมาย
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนสัจจะบารมี

ในการเรียนนั้น เมื่อเราวางแผนหรือกำหนดเป้าหมายและแผนการเรียนใด ๆ แล้ว
เรามุ่งมั่นและพยายามเต็มที่ในการที่จะเรียนหรือสอบให้สำเร็จตามที่ได้วางแผนไว้
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนอธิษฐานบารมี

ในการเรียนนั้น เมื่อเราเห็นเพื่อนที่เรียนด้วยกัน หรือเพื่อนร่วมกลุ่ม
หรือคนอื่น ๆ ประสบปัญหาใด ๆ และเรามีจิตเมตตาช่วยเหลือเขา
(ในทางที่ถูกต้องและเหมาะสม) ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนเมตตาบารมี

ในการเรียนนั้น เมื่อเรารู้จักปล่อยวางเรื่องเรียนทั้งหลาย
โดยเราไม่เก็บไปคิดหรือวิตกกังวลในเวลาที่ไม่ควรคิด หรือยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องคิด
ปัญหาบางอย่างนั้นเราไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะเกินขอบเขตความสามารถเรา
หรือเป็นปัญหาที่ไม่มีทางแก้ไขได้ เรารู้จักที่จะปล่อยวาง และไม่แบกปัญหานั้นไว้
เพื่อนที่เรียนด้วยกันบางคนประพฤติไม่ดี และโดนทำโทษ หรือมีปัญหาชีวิตร้ายแรง
ซึ่งเราไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้ เรารู้จักที่จะปล่อยวาง และไม่แบกปัญหานั้นไว้
หรือมีคนอื่น ๆ มานินทาเรา มาด่าเรา มาพูดไม่ดีกับเรา ในเรื่องไร้สาระ หรือเรื่องไม่จริง
เรารู้จักที่จะปล่อยวางไว้ และไม่เก็บเรื่องเหล่านั้นมาครุ่นคิดหรือวิตกกังวล
ก็ถือได้ว่าเป็นการที่เราฝึกฝนอุเบกขาบารมี

จะเห็นได้ว่าเราย่อมสามารถเปลี่ยนมุมมองในการเรียนของเราให้เป็นไปดังข้างต้นได้
ทำให้การเรียนของเราเป็นการฝึกฝนบารมีธรรมของเราได้เช่นกัน

หากเราทำงานหาเลี้ยงชีพทางโลกแล้วรู้สึกว่าปัญหาเยอะมาก
แต่เราอดทนหรือจัดการกับสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ หรืออย่างไม่เหมาะสม
เราย่อมไม่สามารถจะฝึกฝนบารมีธรรมเราได้
และหากเราย้ายเข้าไปอยู่ในวัดแล้ว เราไปพบปัญหาต่าง ๆ นานาในวัด
ก็จะไปเป็นทำนองเดียวกันครับว่า
เราอดทนหรือจัดการกับสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ หรืออย่างไม่เหมาะสม
ก็จะกลายเป็นว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ก็ปฏิบัติธรรมได้ยาก และมีปัญหาเยอะ
แต่หากเราสามารถอดทนหรือจัดการกับสิ่งเหล่านั้นได้อย่างเหมาะสมแล้ว
เราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เราก็สามารถปฏิบัติธรรมได้ไม่ยาก
และเราย่อมสามารถฝึกฝนสร้างบารมีธรรมในการทำงาน หรือการเรียนของเราได้




แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP