วรรณกรรมนำใจ Lite Literature

กรงไฟ ๒๔


cover_krongfire

นวนิยายเรื่องนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง
หากมีชื่อ-สกุล เรื่องราวใดพ้องกับบุคคลจริง ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ชลนิล



(ต่อจากฉบับที่แล้ว)


หลุมศพเรียงรายตรงหน้าถึงหกหลุม แต่ละหลุมมีป้ายสลักชื่อผู้ตายตั้งเด่นตระหง่าน

ไม่รู้ปิศาจตนใดดลใจสองหนุ่มสาวให้ก้าวเข้าไปหาหลุมศพเหล่านั้นอย่างเนิบช้า หวาดเกรง จิตใจสั่นระรัว...ชื่อบนป้ายเด่นชัดราวกระโดดออกมาเผยโฉมกระจ่างตา

ป้ายแรก...พวงทอง ทรัพย์ยั่งยืนสิริไพศาล...ชาตะ...มรณะ...

ป้ายที่สอง...สีดา ทรัพย์ยั่งยืนสิริไพศาล...ชาตะ...มรณะ...

สายตาทั้งคู่แลเลื่อนยังป้ายที่สามราวกับถูกดึงดูด แรงดึงดูดแฝงความเย้ายวน อยากรู้แทรกด้วยความหวาดหวั่นจนแทบระงับไม่อยู่

ป้ายที่สาม...ราม ทรัพย์ยั่งยืนสิริไพศาล...ชาตะ...เชนกับรุ่งรตีไม่กล้าอ่านวันมรณะ แต่ตัวเลขวันนั้นก็กระโจนมาสู่ห้วงรับรู้

มรณะ...๑๕ มิถุนายน...

วันตายของรามถูกกำหนดแล้ว...

เชนบันทึกวัน เดือน ปีบนป้ายแม่นยำ ก่อนที่เขาจะมองป้ายต่อไป หญิงสาวข้างกายก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา

...กรี๊ด...

รุ่งรตีมองเห็นป้ายชื่อหน้าหลุมศพทุกหลุมครบ หนึ่งในชื่อเหล่านั้นฉุดใจดิ่งลึก หวาดกลัวตกใจเกินระงับ

...ลักษณ์ ทรัพย์ยั่งยืนสิริไพศาล...บิดาหล่อนเอง

เชนไม่สามารถจดจำวัน เดือน ปี ชาตะ มรณะของป้ายต่อจากรามได้ เขาเห็นแค่รายชื่อตามมาคือ...สมุทร...ลักษณ์...และสุขศจี...

เสียงกรีดร้องของรุ่งรตีสั่นประสาทจนสะเทือนเลื่อน...ปลุกสติตื่นตัวเรียกการรับรู้ให้พลิกผันความฝันมาสู่อาการตื่นเต็มตาทั้งที่ไม่เต็มใจ

เชนลืมตาขึ้นมาพร้อมกับลมหายใจหนักๆ เหนื่อยแทบขาดใจ เหงื่อผุดพราวเต็มใบหน้า สมองโล่ง ว่างเปล่าครู่หนึ่ง ก่อนความทรงจำจะทยอยไล่เลียง รวดเร็ว

เขาพบกับฝันร้าย ฝันที่น่าตระหนกยิ่ง หลุมศพคนตระกูลทรัพย์ยั่งยืนสิริไพศาลเรียงรายต่อหน้าไม่ผิดกับสุสานสายเลือด มีทั้งรูป วันเกิด วันตายครบ

วันตาย...คำนี้กระทบความรู้สึก...เชนลุกพรวดจากเตียง

เขาเห็นวันตายของราม...จำมันได้แม่นยำ...๑๕ มิถุนายน

ชายหนุ่มเปิดไฟหัวเตียง หยิบปฏิทินมาเปิดดู...วันที่ ๑๕ มิถุนายน...อีกแค่สามวันเท่านั้น เขาควรทำอย่างไรดี...ต้องบอกให้รามระวังตัว...ควานหาตัวคนร้าย...หรือค้นหาสาเหตุการตาย...

สมองอื้ออึงด้วยความคิดร้อยแปด สุดท้ายสติเตือน...แค่ความฝัน...ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้น เขาไม่ใช่ผู้หยั่งรู้อนาคต ไม่ใช่คนมีสัมผัสรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ความฝันอาจไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้ ทำไมต้องวิตกมากขนาดนี้

เชนสูดลมหายใจยาวลึก ก่อนระบายลมหายใจแผ่วช้า ตั้งสติเฉพาะหน้า มองเห็นความคิดอื้ออึง สับสนในหัวคลายตัวลง

ความฝันเกิดจากหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความคิดปรุงแต่งของจิตใจตนเอง ยากมากที่ความฝันจะเป็นลางบอกเหตุ...

เขาคงฟุ้งซ่านมากไปหน่อย ครุ่นคิดซ้ำซากจนเก็บมาฝันเช่นนี้...พอบอกตนเองได้เช่นนั้น จิตใจค่อยสงบลง คิดว่าอย่างมาก พรุ่งนี้ค่อยเล่าให้พ่อแม่ฟัง

นาฬิกาหัวเตียงบอกเวลาตีสามเศษ เขายังนอนต่อได้อีกเป็นชั่วโมงจึงดับไฟ เอนตัวลงนอนอีกครั้ง พอหัวแตะหมอนไม่ถึงนาที โทรศัพท์มือถือที่ตั้งระบบสั่นไว้ ก็แสดงสัญญาณเรียกเข้า

เชนเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มาดู เห็นชื่อรุ่งรตีที่ปลายสาย...ขมวดคิ้วนึกหวั่นไร้สาเหตุ ก่อนกดรับ

สวัสดีจ้ะรุ้ง เขาทักทาย

ขอโทษจริงๆ พี่เชน ที่รุ้งโทรมากวนตอนดึกอย่างนี้

เสียงหญิงสาวสั่นระรัวร้อนรน

มีอะไรหรือเปล่ารุ้ง น้ำเสียงเขาบอกความเป็นห่วง

คือ... รุ่งรตีอึกอัก ไม่รู้เริ่มต้นยังไง

มีอะไรหรือ เชนถามเสียงอ่อนโยน ทั้งที่ใจตนเองเกิดอาการหวั่นประหลาด

รุ้งฝัน รุ่งรตีตอบแบบอึกอัก ก่อนรีบพูดต่อยาวเหยียด เอ่อ...พี่เชนจะว่ารุ้งบ้าก็ยอม ตะกี้รุ้งฝันร้าย น่ากลัวมาก...น่ากลัวจริงๆ ตอนนี้ก็ยังใจสั่นไม่หายเลย

ฝันว่า...อะไร เชนถามเสียงไม่เกินกระซิบ กลัวคำตอบที่จะได้รับ

เงียบครู่หนึ่ง...กว่าหญิงสาวรวบรวมกำลังใจตอบออกมา

รุ้งฝันเห็นหลุมศพทุกคน...คุณย่า อาสีดา ลุงราม อาจี อาหมุด แล้วก็...ของพ่อ ท้ายเสียงผะแผ่ว เหมือนฝันนั้นยังตามหลอกหลอนถึงความเป็นจริง

ทำใจดีๆ นะรุ้ง...มันก็...แค่ฝันน่ะ...

เชนปลอบโดยตนเองไม่รู้สึกดีด้วยเลย

แล้วก็... รุ่งรตีไม่สนใจฟังคำปลอบโยน สิ่งคาใจยังไม่หมด แล้วรุ้งก็...เห็นพี่เชนอยู่ในฝันด้วยเหมือนกัน...

เหมือนโดนสาดน้ำเย็นใส่ เชนชาซ่าน ใจหล่นวูบ ทั้งที่น่าเตรียมใจได้ ฝันของเขามีรุ่งรตี และในฝันรุ่งรตีก็มีเขา ทั้งสองฝันเรื่องเดียวกัน แบบเดียวกัน เช่นนี้ยังจะนับเป็นแค่ความคิดปรุงแต่งของจิตใจอยู่อีกหรือไม่

รุ้งแค่อยากถามพี่เชน

หญิงสาวเอ่ยปากอย่างคนเพิ่งตั้งสติได้

ถามพี่...เรื่องอะไร เชนเสียอีกกลับสับสน

พี่เชนฝันแบบเดียวกับรุ้งหรือเปล่า

คำถามนี้ตอบไม่ยากเลย ทำไมเชนถึงเอ่ยปากลำบากนัก เขากำลังไตร่ตรอง หากตอบคำถามรุ่งรตีตอนนี้จะเกิดผลเช่นไร?...หล่อนอาจหวาดกลัว เที่ยวเร่ร้องเตือนคนโน้นคนนี้ หรือไม่ก็ประสาทเสียทำอะไรไม่ถูก

พรุ่งนี้ค่อยคุยกันดีมั้ยจ๊ะ

เชนสงบสติอารมณ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มีกระแสชักจูงจิตใจ

แต่...เอ่อ...บอกตอนนี้ไม่ได้เหรอ...รุ้งร้อนใจ ที่จริงก็ด้วยนิสัยใจร้อน หล่อนถึงโทรมาหาเขาทั้งที่ดึกดื่นป่านนี้

พรุ่งนี้ดีกว่านะ เชนพยายามทำน้ำเสียงแจ่มใสขึ้น นี่ก็ดึกมากแล้ว ยังไงพรุ่งนี้รุ้งก็จะมาที่ร้านต้นไม้ของพ่อพี่อยู่แล้ว เราค่อยคุยกันตอนนั้นดีกว่า

หญิงสาวถอนใจหนักๆ ผ่านสายโทรศัพท์

ก็ได้...พรุ่งนี้นะ มีไม่กี่คนที่รุ่งรตีจะยอมลดราวาศอกให้ แต่ขอเล่าให้พี่เชนฟังอีกนิด...ก่อนที่รุ้งจะตื่น มันสะลึมสะลือ ครึ่งหลับครึ่งตื่น รุ้งเหมือนจะเห็นคุณย่าอยู่ที่ปลายเตียง แล้วมีเสียงบอกให้รุ้งได้ยินก้องใบหูเลยว่า...รุ้ง...ไปเตือนทุกคนนะ...รีบไปเตือนเร็วๆ ก่อนมันจะสายเกินไป...


ตัวอาคารเทศบาลเป็นตึกเจ็ดชั้น เพิ่งสร้างเสร็จสมัยรามเป็นนายกเทศมนตรี ห้องทำงานรามอยู่ชั้นเจ็ด มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ตกแต่งสวยงามลงตัว ด้วยฝีมือมัณฑนากรจากกรุงเทพฯ หน้าต่างกระจกใสรอบมองออกไปกว้างขวาง

รามกำลังอารมณ์ดี ชื่นมื่น เช่นเดียวกับคนที่ทำงานสำเร็จตามแผน...อารมณ์เขาต้องสะดุดเมื่อเลขาหน้าห้องส่งเสียงผ่านอินเตอร์คอมว่ามีคนขอเข้าพบ

ใคร รามถามห้วน

คุณลักษณ์กับคุณสุขศจี น้องของท่านค่ะ

คำตอบที่ได้ทำให้รามเกิดสังหรณ์แปลก

ให้เข้ามาได้

แทบไม่ทันขาดคำ ประตูห้องเปิดออก ลักษณ์ สุขศจีเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บูดบึ้ง มือถือแฟ้มเอกสารที่รามเห็นไม่ชัด

อ้าว มีธุระอะไร ทำไมไม่โทรนัดคุยกัน ไม่เห็นต้องมาถึงนี่เลย

รามออกปากเชิงตำหนิดักหน้าคนทั้งสอง

เรื่องนัดคุยต้องมีแน่เฮีย สุขศจีพูดก่อน นั่งลงไม่รอคำเชิญ

มีอะไร ว่ามาสิ รามขมวดคิ้วเสียงพูดหนักกว่าเดิม

สุขศจีมองหน้าลักษณ์ พยักหน้าเป็นเชิงให้เขาพูดก่อน

เฮียกับหมุดเอาเงินกงสีไปทำอะไรตั้งเยอะแยะ

ลักษณ์ยิงคำถามตรงไม่ให้ตั้งตัว

เฮ้ย พูดดีๆ นะเว้ยไอ้ลักษณ์

รามใช้เสียงข่ม ทิ้งช่วงเวลาคิดหาคำตอบ

งั้นผมถามใหม่ก็ได้ ลักษณ์ปรับน้ำเสียงให้เรียบกว่าเดิม วันนี้ผมเพิ่งตรวจสอบยอดบัญชีเงินกงสีทั้งหมด พบว่ามีจำนวนหนึ่งหายไป มีลายเซ็นผู้เบิกถอนร่วมกันสองคนคือเฮียกับสมุทร เลยอยากรู้ว่า เงินจำนวนนั้นไปอยู่ที่ไหน ทำไมผมถึงเพิ่งมารู้เรื่องเอาป่านนี้

รามเอนหลังพิงเก้าอี้ท่วงท่าสบาย พูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาที่สุด

เออ...เฮียเอาไปเองแหละ ยืมก่อนแล้วจะใช้คืนให้

พูดง่ายเกินไปแล้วเฮีย...จะใช้คืนเมื่อไหร่กัน เอาไปตั้งนานแล้วนี่ สุขศจีอดรนทนไม่ไหวขึ้นเสียงดัง

เงียบไปเลยนะจี แกเป็นน้องจะมาขึ้นเสียงกับฉันได้ยังไง รามไม่สามารถใจเย็นต่อความฉุนเฉียวของน้องสาว

ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็เฮียเอาเงินพวกเราไปเห็นๆ กันอยู่ สุขศจีเถียง

ใช่...เงินพวกเรา ก็เงินนี้มันมีส่วนของเฮียอยู่ด้วย ทำไมเฮียจะเอาไปใช้ก่อนไม่ได้

โดนรามย้อนอย่างนี้ สุขศจีเถียงไม่ออก

ทำไมเฮียไม่บอกผมก่อน ลักษณ์ถามใจเย็น

บอกทำไม เสียเวลา วุ่นวายเปล่าๆ เงื่อนไขก็บอกแล้ว ให้ทายาทสองในสามสามารถเบิกเงินกงสีออกมาใช้ได้

แต่เฮียทำอย่างนี้มันผิดจุดประสงค์ของแม่

พอเอ่ยถึงคุณนายพวงทอง ทำให้รามเงียบ

เงินกงสีน่ะ ใช้ลายเซ็นทายาทสองในสามเบิกถอนได้ก็จริง แต่ก็ควรให้ทุกคนรับรู้ด้วยว่าเอาเงินไปทำอะไร ไม่ใช่งุบงิบทำกันสองคนกับสมุทร

ลักษณ์พูดเหมือนสอน อัตตาคนเป็นพี่ใหญ่พุ่งปรี๊ด

มึงเป็นพี่หรือกูเป็นพี่ไอ้ลักษณ์ เสียงรามไม่เบานัก แต่ยังมีเสียงคนที่ดังกว่า

อย่าเอาความเป็นพี่มาข่มกันหน่อยเลยเฮีย ทำแบบนี้น้องที่ไหนมันจะนับถือ

ไม่นับถือ กูก็ไม่ง้อ

ยิ่งพูดเสียงยิ่งดังขึ้น มีท่าจะออกนอกเรื่องไกล ลักษณ์จึงหาวิธีเบรกพี่ชาย

ผมจะเอาเรื่องนี้ไปคุยกับท่านมงคล ลักษณ์ตะโกนขัด ยกชื่อผู้จัดการมรดกมาอ้าง

ได้ผล...พี่ชายใหญ่นิ่งเงียบอีกครั้ง ดวงตามีประกายกล้า

ยกเอาเรื่องที่เฮียกับหมุดแอบเบิกเงินกงสีไปใช้ แล้วขอให้ท่านจัดระบบใหม่ คืนสิทธิให้จีตามเดิม...ให้ลูกของแม่ทุกคนมีสิทธิในสมบัติเท่าเทียมกัน

เฮ้ย ได้ยังไง รามเสียงอ่อนลง รอยเครียดโกรธยังมี จะให้ท่านมาเล่นเป็นเด็กขายของ เดี๋ยวใช้พินัยกรรมฉบับโน้น เดี๋ยวเปลี่ยนใจ...มันไม่เข้าท่า

เรามีเหตุผล ท่านคงเข้าใจ ลักษณ์ใช้ความใจเย็นข่มพี่ชาย คราวก่อนเพราะเรื่องของพิทักษ์ เราถึงต้องยอมใช้พินัยกรรมฉบับสอง ตอนนี้ปัญหานั้นมันจบแล้ว

ใช่ สุขศจีทะลุกลางปล้อง พิทักษ์มันก็ตายไปแล้ว ต่อให้พวกเฮียคืนสิทธิให้จี...ก็คงไม่มีผีตัวไหนมาเรียกร้องสมบัติของเจ้ดาหรอก

รามพยายามหาวิธีพลิกแพลงเอาตัวรอด

เอาไว้ค่อยคุยกันเย็นนี้ รามชะลอเวลา ให้ไอ้หมุดมันมาด้วย

ก็ดีเหมือนกันเฮีย สุขศจีพูดด้วยแววตาแดกดัน จีจะได้ถามกันต่อหน้าเลยว่า เงินส่วนของจีที่พวกเฮียรับปากจะเอาเข้าบัญชีให้ทุกเดือนน่ะ มันหายไปไหนตั้งเยอะ...ถามธนาคารดูแล้วคนที่เบิกก็เป็นเฮียกับเฮียหมุดเหมือนกัน...อย่างนี้ใบมอบอำนาจที่พวกเฮียเซ็นให้จีเรื่องเกี่ยวกับบัญชีนี้คงไม่มีความหมายแล้วมั้ง เพราะต่อไปมันคงไม่มีเหลือให้เบิก...

รามถูกน้องสาวเฆี่ยนด้วยแส้สายตา ฮึดทำใจดีสู้ รู้ว่าเรื่องนี้ตนเองผิดเต็มประตู

เรื่องนี้เฮียพอจะอธิบายได้ รามเสียงอ่อนลง

คำอธิบายมันน้อยไปนะเฮีย จีขอให้เงินในบัญชีส่วนของจีกลับคืนมาเหมือนเดิมด้วย ตอนเรื่องไอ้พิทักษ์น่ะ จียอมเสียสละเพื่อทุกคนแล้วมาเห็นอย่างนี้จะให้พูดว่ายังไง

...จะให้พูดอย่างไร...รามพูดไม่ออก กรณีเงินกงสี เขาบอกได้ว่าตนเองมีสิทธิส่วนแบ่ง แต่กับเงินบัญชีน้องสาว เขาไม่ควรแตะต้อง

เอาเถอะ เย็นนี้ค่อยคุยกัน รามหวังให้สมุทรมาช่วยเป็นปากเป็นเสียงอีกคน เขาจะไม่ถูกไล่ต้อนขนาดนี้

ก็ได้เฮีย

ลักษณ์รับปาก เรื่องนี้ต้องพูดกันนาน อาจมีการทะเลาะเบาะแว้งกันต่อกว่าจะยุติ ที่นี่ไม่เหมาะมาพูดคุยเช่นนั้น ลูกน้องรามในเทศบาลคงได้ยินเสียงทะเลาะกันตั้งแต่แรก ป่านนี้เอาไปเล่าลือถึงไหน รามเสียภาพพจน์ไม่น้อย ขืนคุยต่อไม่แคล้วต้องทะเลาะกันอีกหลายยก คนฟังคงรู้ไส้รู้พุงพี่น้องตระกูลทรัพย์ยั่งยืนสิริไพศาลกันหมด...


คุณจิตใสนอนที่วัดตั้งแต่เมื่อคืน ราวเที่ยงวันนี้ถึงกลับ เชนไม่รู้จะปรึกษาใครเกี่ยวกับความฝันอันน่าหวั่นใจ เขาจดจำวันตายของรามแจ่มชัด จนไม่อยากเชื่อมันเป็นแค่ความฝัน ถ้าพ่อแม่อยู่ตอนนี้ คงมีคำตอบที่ดีแน่นอน แต่กว่าท่านทั้งสองจะกลับคงทำให้เขากระวนกระวายใจไปครึ่งวัน

เชนคิดว่าตนเองกระวนกระวายใจมากแล้ว ยังมีคนร้อนใจมากกว่าอีก

รุ่งรตีขับรถมาหาแต่เช้า สีหน้าอิดโรย นอนไม่เต็มตื่น แต่งกายลวกๆ ง่ายๆ ไม่สนใจพิถีพิถันผิดเคย มาถึงก็เดินเข้าบ้านอย่างคุ้นเคย

คุณลุงคุณป้าไม่อยู่เหรอพี่เชน หล่อนตั้งคำถามนำหน้า

ไปวัดจ้ะ เที่ยงๆ คงกลับ

เชนตอบพลางมองใบหน้าหญิงสาว

รุ้งเป็นอะไรหรือเปล่า ดูทำหน้าเข้าสิ เหมือนถูกบังคับให้ไปขายประกัน

อารมณ์ขันของเชนจุดรอยยิ้มให้หญิงสาวเล็กน้อย

รู้อยู่แล้วยังจะมาถามอีก หล่อนตอบสะบัดๆ นี่...เจอหน้าพ่อเมื่อเช้ารุ้งก็ไม่รู้จะทำยังไง ไม่กล้าบอก กลัวแกใจไม่ดีตามเราไปด้วย

ดีแล้วละ...ดื่มกาแฟหน่อยมั้ย เดี๋ยวพี่ชงให้

ขอบคุณค่ะ หญิงสาวตอบรับด้วยคำลงท้ายอ่อนผิดเคย

กาแฟดำควันกรุ่น หอม ช่วยกระตุ้นประสาทให้ตื่นจากสะลึมสะลือ รุ่งรตีดื่มหมดถ้วยแรกก็ขอถ้วยที่สองมานั่งจิบคุยถึงเรื่องคาใจ

รุ้งมานี่ก็อยากรู้ว่าพี่เชนฝันแบบเดียวกันหรือเปล่า หญิงสาวไม่อ้อมค้อม

เชนยิ้ม...ถึงจะมีความกระวนกระวายใจ ส่วนลึกเขายังไม่รุ่มร้อนเท่าหญิงสาวตรงหน้า

จ้ะ คำตอบสั้นทำเอารุ่งรตีแทบดีดตัวจากเก้าอี้

ตายแล้ว หล่อนอุทานก่อนพูดยาวพรืด รุ้งต้องรีบไปบอกพ่อบอกลุงบอกอาก่อนแล้วล่ะพี่เชน

จะบอกว่ายังไง เชนรั้งใจเย็น

รุ่งรตีชะงัก...จะบอกอย่างไร...บอกว่าฝันเห็นหลุมศพพวกท่าน เห็นดวงวิญญาณคุณย่ามาร้องเตือนให้ทุกคนระวังตัวอย่างนั้นหรือ...

...ระวังตัวจากใคร...หรืออะไรกันล่ะ...ตอบได้หรือไม่...

ก็...คงบอกตรงๆ หญิงสาวตอบหลังใช้ความคิดครู่หนึ่ง

แล้วยังไงต่อ เชนจิบกาแฟเป็นเพื่อน ความรุ่มร้อนของรุ่งรตีทำให้ความกระวนกระวายใจของเขาลดลง

ไม่รู้สิ รุ่งรตีตอบง่าย แต่ให้อยู่เฉยไม่ได้แน่ คราวก่อนเรื่องอาสีดา พวกเรารู้ช้าไปหน่อย เลยไม่ทัน แต่คราวนี้เรารู้ล่วงหน้าแล้ว น่าจะช่วยได้

รุ้งจำวันตายที่สลักบนป้ายแต่ละคนได้มั้ย เชนถาม

หญิงสาวหลับตาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนถอนใจลืมตาตอบ

จำไม่ได้เลย ตอนนั้นมันทั้งกลัวทั้งตกใจ พอเห็นป้ายของพ่ออยู่ด้วยเลยนึกอะไรไม่ออก

พี่จำได้แต่ของน้าราม

วันไหน

วันที่ ๑๕ อีกสองสามวันนี่แหละ

ตายแล้ว เร็วขนาดนั้นเชียว เราทำอะไรได้บ้างนี่ รุ่งรตีตั้งคำถามรัวเร็ว

มีอะไรที่ทำได้บ้าง มากกว่าเตือนให้พวกเขาตกใจกลัวอย่างเดียว เชนตั้งปัญหาตามอีกข้อ

ไม่รู้สิ หญิงสาวตอบง่ายๆ อีกครั้ง

นั่นสิ...ไม่รู้...ตอนนี้เราแทบไม่รู้อะไรเลย ความฝันอาจเป็นลางบอกเหตุก็ได้...คุณย่าอาจมาเตือนรุ้งกับพี่จริงก็ได้...แต่คุณย่ารู้จริงแค่ไหน...ท่านไม่ใช่ผู้สำเร็จญาณ...ไม่มีใครบอกได้เลยว่าพวกน้าๆ เขาจะประสบเหตุการณ์อนาคตอย่างไร

รุ่งรตีอึ้งชั่วครู่ก่อนจะพูดช้าๆ ไตร่ตรอง

ตอนเรื่องอาสีดา พวกเราก็เพิ่งรู้ว่าเป็นฝีมืออาพิทักษ์

ครั้งนี้พี่รับรอง ไม่ใช่ฝีมือคนเดิมแน่

เชนบอก...พิทักษ์ตายแล้ว ศัตรูตระกูลทรัพย์ยั่งยืนสิริไพศาลหมดไปหนึ่ง ที่เหลือล่ะเป็นใคร

จำตอนที่รถลุงรามถูกยิงได้มั้ย หญิงสาวยกเรื่องเก่ามาพูด

จำได้ เชนตอบ...ที่จริงไม่ใช่แค่รถรามถูกยิง รถสมุทรก็ถูกเปลี่ยนยางจนเกือบเกิดอุบัติเหตุเช่นกัน สองคดีนี้ยังหาตัวการไม่เจอ เผอิญสีดามาตายก่อน ทุกคนจึงหันมาให้ความสนใจกับเรื่องนี้ สืบจนรู้ว่าพิทักษ์เป็นตัวการ เสียเวลาสู้คดีกันจนต้องวางเรื่องเดิมไว้

พี่เชนว่าลุงรามมีศัตรูที่ไหนบ้าง รุ่งรตีตั้งปัญหา

ตอบยาก เชนไตร่ตรอง น้ารามแกเป็นพวกผู้มีอิทธิพล มีทั้งศัตรูที่มองเห็นแล้วก็ที่มองไม่เห็น

แล้วคนอื่นล่ะ อย่างพ่อของรุ้ง อาสมุทร อาจี จะมีศัตรูที่ไหนอีก หญิงสาวไล่เลียงรายชื่อ

เอาอย่างนี้ดีมั้ย เชนรีบหาข้อสรุปก่อนประเด็นพูดคุยจะขยายมากกว่านี้ พี่เคยเล่าเรื่องที่คุณย่ามาเตือนให้พ่อกับแม่ฟังแล้ว...ท่านให้คำแนะนำเราดี...ครั้งนี้พี่ว่ารอคุยให้ท่านฟังก่อน ถ้ามีความเห็นยังไง ท่านคงบอกเราเอง...อีกอย่าง เรื่องการไปเตือนพวกผู้ใหญ่อย่างนั้นให้ผู้ใหญ่เขาเตือนกันเอง น่าจะมีความเชื่อถือมากกว่า

เชนไม่กล้าพูดต่อ...กำหนดของรามอีกสองสามวัน น่าจะมีการเตรียมป้องกัน แก้ไขทัน ส่วนคนอื่นไม่น่าห่วง ถ้าช่วยรามให้ผ่านเหตุการณ์วิกฤต คนอื่นก็น่าจะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเช่นกัน

ถึงตอนนี้เชนยังคิดไม่ออก...ใครกันแน่คือศัตรูตระกูลทรัพย์ยั่งยืนสิริไพศาล...มันมีแค่รายเดียวหรือหลายคนขณะที่คิด ลางสังหรณ์ส่วนลึกบอกต่อตนเอง อีกไม่นานหรอก...อีกไม่นาน...คำตอบจะมาถึงในไม่ช้า...


(โปรดติดตามต่อฉบับหน้า)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP