กระปุกออมสิน Money Literacy

เทคนิคการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน Dollar Cost Average (DCA)


Mr.Messenger
สนใจติดตามข่าวสารการลงทุนได้ที่ http://twitter.com/MrMessenger

ย้อนกลับไปตอนที่เราเข้าเรียนมหาวิทยาลัยกันใหม่ๆนะครับ หรือใครนึกไม่ออก เริ่มจำไม่ค่อยได้ ลองย้อนไปวันแรกที่เราเข้าทำงานดูก็ได้ ... ใครยังจำไม่ได้อีก ผมอยากให้นึกสิ่งที่คุณเริ่มทำเป็นครั้งแรกในชีวิต จะเป็นอะไรก็ได้ ขอให้ได้ประสบการณ์กลับมาก็แล้วกัน

ที่ผมให้ย้อนกลับไปนึกถึงเหตุการณ์เหล่านั้น ก็เพราะจะบอกว่า การทำอะไรก็ตามในครั้งแรก สิ่งที่เราได้คือประสบการณ์ตรง ซึ่งเจ้าประสบการณ์จากการลงมือทำนี้ มันสำคัญพอๆกับ อาจารย์ผู้สอนเคล็ดวิชาให้แก่เราทีเดียวในความรู้สึกของผม หรือพูดอีกอย่างก็คือ ประสบการณ์ถือเป็นครูของเราอีกคนหนึ่งเช่นกัน ใครยังไม่เจอครูที่ถูกชะตา หรือครูที่ทำให้คนอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องรอหรอกครับ ลงมือทำเลย หากเราเชื่อว่าสิ่งนั้นดีจริงๆ ประสบการณ์จะเป็นครูให้แก่เราเอง

และผมก็เชื่อว่า มีชาวพุทธจำนวนมากอาจยังหาครูบาอาจารย์สอนธรรมะแบบถึงจิตถึงใจได้ไม่เจอ อย่างแรกที่ผมจะบอกก็คือ บางทีอาจเป็นเพราะเราเองที่ยังไม่เปิดใจยอมรับอะไรเข้ามาในหัว แต่ถ้ายอมรับก็ยังหาไม่เจอ หยุดหาครับ ครูที่ดีที่สุดอยู่กับเราแล้ว อยู่ที่กาย อยู่ที่ใจของเรานี่เอง ประสบการณ์จากการลงมือปฏิบัติด้วยตัวเองนี่ล่ะครับ จะพาเราข้ามภพข้ามชาติได้

เกริ่นมาซะยาว การลงทุนมีส่วนคล้ายกับการปฏิบัติธรรมอยู่อีกอย่างหนึ่งครับ นั้นก็คือ ต้องรู้จักเริ่มต้น และต้องการความต่อเนื่อง ความต่อเนื่องในที่นี้หมายถึงเมื่อได้เริ่มห้ามหยุดห้ามขี้เกียจ จะท้อบ้าง เสียใจบ้าง ผิดหวังบ้าง ก็ได้ครับ แต่ห้ามหยุด เคยมีนักลงทุนมืออาชีพท่านหนึ่งบอกผมว่า ลงทุนแล้วจะขาดทุน จะผิดหวังหรือจะกลัวมันเท่าไหร่ก็ตาม อย่าเลิกไปก่อน อยู่ให้นานๆเดี๋ยวก็รวยเอง ตอนแรกที่ได้ฟังคำกล่าวนี้ ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าไม่มีสติเสียอย่างหนึ่ง ใครที่เข้ามาในตลาดหุ้นเพื่อหวังจะรวยเร็ว หวังเก็งกำไร อยู่ไปนานๆก็ยิ่งหมดตัวสิ จริงไหมครับ? แต่ลองคิดย้อนกลับ หากเราตั้งใจจะอยู่ในการลงทุนให้นานๆตั้งแต่แรก เราจะไม่กล้าทำอะไรที่เสี่ยงเกินตัว หรือถึงจะเสี่ยง เราก็จะเริ่มใช้เหตุผล พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เรียนรู้เพิ่มขึ้น เพื่อเอามาตัดสินใจแทนการใช้อารมณ์ ... หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่จะทำให้เราอยู่กับร่องกับรอยของการลงทุนให้นานที่ผมอยากแนะนำก็คือ Dollar Cost Average ตามหัวข้อครับ

Dollar Cost Average หรือชื่อย่อก็คือ DCA คือการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน ต่อไปนี้ขอเรียกย่อว่า DCA นะครับ ขยายความ DCA ก็คือ การที่เรากำหนดวงเงินลงทุนเป็นงวดๆ งวดละเท่าๆกัน อาจลงทุนเป็นรายเดือน หรือไตรมาสโดยไม่สนใจว่าราคาหน่วยลงทุนหรือราคาหุ้นที่เราต้องการซื้อจะขึ้นหรือลง เป็นการลงทุนแบบอัตโนมัติไปเรื่อยๆ โดยตั้งเป้าหมายที่จำนวนเงินที่ต้องการลงทุนเป็นหลัก การที่เราลงทุนโดยซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหรือหุ้นด้วยวิธี DCA จะทำให้เราสามารถซื้อหน่วยลงทุนหรือหุ้นได้ในจำนวนหน่วยหรือจำนวนหุ้นที่มากขึ้นถ้าราคาปรับตัวต่ำลงมา และซื้อได้จำนวนหน่วยหรือจำนวนหุ้นน้อยลงเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นไปแล้ว ข้อดีของการกระจายลงทุนแบบนี้คือ ถ้าภาวะตลาด ณ ช่วงเวลานั้น มีความผันผวนมาก หรือ เป็นตลาดขาลง เราจะมีโอกาสที่จะขาดทุนน้อยกว่าการลงทุนด้วยเงินทั้งหมดเพียงครั้งเดียวตั้งแต่แรกวันแรก ยกตัวอย่างนะครับ

สมมติผมตั้งใจจะลงทุนในกองทุนหุ้นกองหนึ่งด้วยเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท แทนที่ผมจะซื้อทีเดียววันแรกที่ราคา ๑๐ บาทเลย ผมใช้วิธี DCA เดือนละ ๑๐,๐๐๐ บาท ไป ๖ เดือนแทน ตามตารางด้านล่าง


money43_mxdca


ผลคือ ผมได้จำนวนหน่วยลงทุน ๖,๘๑๓.๑๙ หน่วย แต่ถ้าลงทุนครั้งเดียวตั้งแต่ตอนแรกที่ราคา ๑๐ บาทต่อหน่วย ผมจะได้หน่วยลงทุน ๖,๐๐๐ หน่วย ซึ่งน้อยกว่าวิธีลงทุนแบบ DCA นะครับ แถมทุนเฉลี่ยจากวิธีการลงทุนแบบ DCA จะอยู่ที่ ๘.๘ บาทต่อหน่วย ซึ่งน้อยกว่าการลงทุนครั้งเดียวตั้งแต่ตอนแรกซึ่งอยู่ที่ ๑๐ บาทต่อหน่วยด้วย

อาจมีคนเถียงผมว่า รอมาซื้อที่เดือน ๗ ที่ราคา ๗ บาททีเดียวเลยสิ ได้ราคาถูกสุด ไม่เห็นต้องทยอยซื้อเลย คำตอบก็คือ คุณมั่นใจได้ยังไงว่าราคาจะลงมาที่ ๗ บาท พอเหตุการณ์มันเกิดขึ้น ผ่านไปแล้ว แล้วก็มาพูดกันทีหลังว่าควรทำอย่างโน้น ทำอย่างนี้ แต่เราลืมไปว่า ไม่มีใครเดาอนาคตได้ถูกต้อง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์จริงไหมครับ วิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน เป็นวิธีการลงทุนพร้อมๆกับบริหารความเสี่ยง เนื่องจากเราไม่รู้ว่าในระยะเวลา หนึ่งๆ ราคาหุ้นหรือราคาหน่วยลงทุนจะวิ่งไปในทิศทางไหน ที่เรารู้ก็เพียงว่า ในระยะยาวมันจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการไปฝากเงินไว้กับธนาคารกินดอกเบี้ยเฉยๆ

ผมกล่าวถึงข้อดีของวิธีการลงทุนแบบ DCA ไปแล้ว แต่ข้อดีอีกข้อหนึ่งซึ่งผมคิดว่าสำคัญเช่นกันก็คือ ทำให้เรามีวินัยในการลงทุน ไม่หลงไปกับความผันผวนของตลาดในระยะสั้นๆ (หากระยะยาวปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง) อย่างที่ครูบาอาจารย์เคยกล่าวเตือนไว้ครับ ปัญหาหลักอย่างหนึ่งของชาวพุทธที่ขัดขวางการเข้าถึงแก่นแท้ของธรรมะก็คือ การขาดความต่อเนื่อง ในด้านการลงทุนก็เหมือนกัน จะถึงเป้าหมายหรือกลายเป็นเหยื่อ ก็ปัญหาเดียวกัน

รู้แล้วก็สำรวจตัวเอง เริ่มเสียตั้งแต่วันนี้ อย่ารอให้เสียเวลา

โชคดีในการลงทุนครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP