โหรา (ไม่) คาใจ Astro FAQ

เคือง!


Aims Astro


ถาม ดิฉันสังเกตว่าถ้ามีใครทำอะไรให้โกรธหรือเสียใจจะจำนาน เมื่อไปดูดวงหมอดูก็บอกว่าดิฉันเป็นคนขี้โมโหและจำฝังใจ ซึ่งก็ไม่ได้ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย ตอนนี้พยายามหัดปฏิบัติธรรมอยู่แต่ก็ยังไม่ค่อยดีนักค่ะ อยากทราบว่าพอจะมีวิธีการที่จะสอนใจตัวเองให้อโหสิให้คนอื่นได้ง่ายๆ ไหมคะ

เรื่องการกระทบกระทั่งกันนี่มีให้เห็นเป็นปกติของมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันในสังคมนะคะ ก็คงมีหลายครั้งที่เราถูกใครสักคนทำให้เสียใจ ขัดใจ ไม่ชอบใจ ซึ่งแต่ละคนมีนิสัยที่แตกต่างกัน ดวงจะบอกให้ทราบได้ว่าพื้นฐานของแต่ละคนเป็นอย่างไร บ้างก็เป็นคนใจเย็น ใครว่าอะไรก็ไม่ค่อยโกรธ บ้างเป็นคนมองโลกในแง่ดี ไม่ค่อยเก็บเรื่องร้อนๆ ไว้ในหัวใจนาน แต่บางคนเป็นประเภทฆ่าได้หยามไม่ได้ ถูกใครกระทำก็ต้องเอาคืนให้หายกันถึงจะสบายใจ เข้าทำนอง An eye for an eye, a tooth for a tooth (ตาต่อตา ฟันต่อฟัน) แถมเมื่อหลายปีก่อนได้ยินการล้อเลียนเป็นสำนวนใหม่ว่า An eye for eyes, a tooth for teeth (ถูกกระทำหนึ่งครั้ง เอาืคืนหลายเท่า - -‘) ทั้งตาต่อตา ฟันต่อฟัน และตาต่อหลายตา ฟันต่อหลายฟัน นี่ถือเป็นการจองเวรนะคะ เราชาวพุทธต้องยึดคติ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ให้อภัยกันไป จะได้ไม่ต้องร้อนอกร้อนใจเราเองค่ะ

ความสามารถในการอโหสิให้คนที่ทำไม่ดีกับเรา เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพจะทำได้ ถ้าเข้าใจและยอมรับเรื่องกฎแห่งกรรม ฝึกจิตใจให้มีความเมตตากรุณา นอกจากนี้ความโกรธในใจก็เป็นสภาวธรรมที่เอาไว้รู้เอาไว้ดูได้อีกด้วย มนุษย์ที่หัดฝึกฝนตน จึงสามารถพลิกจากอกุศลเป็นกุศลได้ แต่ในกรณีที่ยังไม่สามารถจะให้อภัยหรือดูความโกรธเฉยๆ ได้ เราจะจัดการกับตัวเองให้สามารถดับเพลิงในหัวใจได้อย่างไร มาติดตามจากชีวิตของลูกค้าหญิงสองท่านนี้กันนะคะ

ลูกค้าหญิงท่านแรก (ตั้งนามสมมุติว่าคุณหนึ่ง) เธอเป็นลูกค้าขาประจำที่ตรวจดวงกันมาหลายหนแล้ว พื้นฐานนิสัยจริงๆ แล้ว เป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบช่วยเหลือคน ตรวจดวงกันในคราวก่อนๆ เธอเคยถามว่าจะได้ขึ้นเงินเดือนสักกี่บาท จึงบอกไปว่า ไม่หกร้อยก็พันเจ็ด แต่สงสัยคงจะหกร้อยมากกว่า พันเจ็ดมันดูเยอะไปนะคะ ต่อมาไม่นานนักคุณหนึ่งกลับมาตรวจดวงอีกครั้งพร้อมแจ้งข่าวว่า ได้เงินเดือนขึ้น ๖๕๐ บาท เคืองนะเนี่ย ผู้ที่ถูกเคืองคือคนพิจารณาขึ้นเงินเดือน เหตุผลคือหากเทียบเป็นร้อยละแล้วละก็ ปรากฏว่าลูกน้องได้เงินเดือนเพิ่มมากกว่าเธอ แต่ถึงจะบ่นๆ ว่าโกรธๆ แต่ดูแล้วพอจะรู้ว่าอารมณ์ไม่พอใจที่มีก็ไม่ได้มาแนวจะอาฆาตมาดร้ายอะไร ทำนองเจ็บๆ คันๆ แบบนี้มากกว่า แต่ถึงจะเป็นเพียงความโกรธเล็กๆ เหมือนไฟกองน้อยๆ ก็ไม่ควรมองข้ามอยู่ดี

อันที่จริงแล้ว คุณหนึ่งเองฐานะดี มีบริษัทของตัวเองนอกเหนือจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน จึงไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับเงิน ๖๕๐ บาท ไม่ว่าจะเพิ่มขึ้นมาหรือไม่ก็ตาม แต่เธอเปิดเผยว่าเหตุผลที่เคืองก็คือ รู้สึกเสียหน้าเพราะว่าได้ขึ้นเงินเดือนน้อยกว่าคนอื่น (- __ -!) ฟังแล้วเลยบอกไปว่าคุณควรดีใจกับลูกน้องที่ได้เงินเดือนขึ้นมากกว่าค่ะ เพราะคุณเองมีอันจะกินแล้ว คิดแบบนี้ดีไหมว่าเขาเอาส่วนของเราไปเพิ่มให้ลูกน้อง จะได้สบายใจ แถมในขณะที่คนที่จัดการพิจารณาขึ้นเงินเดือนให้คุณน่ะลืมไปแล้วว่าขึ้นเงินเดือนคุณกี่บาท เขากลับบ้านไปนอนกอดภรรยากอดลูกเขาแล้ว แต่คุณกลับแบกเขาเอาใส่หัวใจกลับบ้านมาด้วย แล้วก็กอดเขาเอาไว้แบบนั้น ไม่วางเสียที เลยต้องเคืองอยู่แบบนี้ ลูกค้าฟังแล้วก็ยอมรับว่าจริง แต่วันนี้จะพอแล้ว เลิกเคืองแล้ว จึงอนุโมทนากับเธอด้วยที่เลือกไม่เก็บขยะอารมณ์เอาไว้อีกต่อไป การคุยกับคุณหนึ่งนี่ไม่เครียดนะคะ คุยไปขำไปมากกว่า เพราะลูกค้าเป็นคนมีอารมณ์ขันและมีน้ำใจค่ะ (^__^) แต่ว่าตรงโทสะนี่ไม่ต้องมีเลยดีกว่า กิเลสเล็กกิเลสน้อยก็ไม่ควรประมาทนะคะ

ลูกค้าหญิงอีกท่านหนึ่ง (ขอสมมุตินามว่าคุณสอง) เล่าให้ฟังว่ายังรู้สึกโกรธเพื่อนคนหนึ่งที่ทำให้เสียบรรยากาศในงานแต่งงานของเธอซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทย เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ ๑๐ เดือนที่แล้ว ตอนนี้คุณสองติดตามสามีมาอยู่ต่างประเทศ ฟังแล้วก็เข้าใจความรู้สึกของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกรบกวนในวันพิเศษของชีวิต แม้พื้นฐานนิสัยของคุณสองจะหงุดหงิดง่ายไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นคนใจไม้ไส้ระกำอะไร เป็นคนเต็มใจช่วยคนอื่นด้วยซ้ำไป เลยอยากให้เธอพ้นจากความโกรธที่สุมไว้ในอกสักที เพราะไฟโทสะนั้นเผาใจคนโกรธ ส่วนคนที่ถูกโกรธที่ตอนนี้อยู่คนละทวีปนั้น อาจจะลืมเรื่องราวเหล่านี้ไปแล้ว ไม่ได้ทุกข์ไม่ได้ร้อนไปด้วยเลยก็ได้

เลยยกข้อความที่เคยเขียนไว้ในบทความเรื่อง แก้ดวงอย่างไรให้เลิกคร่ำครวญ (คลิก) เพื่อให้สติแก่เธอ ใจความประมาณๆ นี้นะคะ ^^

ถ้ามองเป็นเรื่องของตัวบุคคลว่ามีใครคนใดคนหนึ่งทำให้เราทุกข์ ก็จะเป็นความรู้สึกที่รุนแรงมากกว่าการมองอย่างเข้าใจว่า แท้จริงแล้วที่เราได้ประสบเกิดจากผลของกรรมที่ทำไว้ คนหรือเหตุการณ์ที่มาทำให้เป็นทุกข์ก็คืออุปกรณ์ที่กฎแห่งกรรมใช้ในการแสดงผลให้เราได้เห็น แม้อาจจะเหมือนว่าการใช้ชีวิตของเราเป็นไปตามปกติ ทำหน้าที่ประกอบการงานตามกิจวัตรประจำวัน แต่ที่แท้แล้วสรรพสัตว์ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมตลอดเวลา ซึ่งเมื่อบาปส่งผลให้พบเรื่องไม่ชอบใจ เรามีทางเลือก ๒ ทาง คือการจมกับอกุศล ผูกใจโกรธหรือเศร้า หรือจะยอมรับตามจริงและให้อภัย ซึ่งถ้าเลือกทางที่สว่างคือการอภัย สิ่งที่จะได้แน่ๆ ตั้งแต่วินาทีแรกก็คือความสบายใจ แต่ถ้าเลือกแบกทุกข์เราก็จะต้องอยู่กับความไม่สบายใจตรงนี้ไปจนกว่ากรรมจะหมดแรงส่ง และยังเป็นการสร้างกรรมใหม่ด้วยใจที่เป็นอกุศลของเราเองด้วยค่ะ

คุณสองเล่าว่าตลอดเวลา ๑๐ เดือนที่ผ่านมา วางเรื่องนี้ไม่ลงจริงๆ ที่คิดมากก็เพราะรู้สึกว่าทำไมตัวเองดูคนไม่ออก ทั้งๆ ที่มีคนเตือนแล้วแต่กลับไม่ระวัง ดิฉันจึงให้กำลังใจไปว่า บางทีกรรมเก่าอาจจะทำให้ต้องมาพบอะไรแบบนี้ อาจจะบังตาทำให้มองคนผิดไปในวันก่อน แต่ตอนนี้คุณรู้แล้ว แล้วก็เลือกได้ด้วยกรรมปัจจุบัน ว่าจะกอดโทสะเอาไว้ หรือว่าจะวางเขาลงซะ แล้วมีความสุขโดยไม่มีเรื่องนี้มารบกวนจิตใจเสียที คุณสองบอกว่าบางทีทำงานๆ อยู่ ก็ยังมีใจลอยคิดถึงเรื่องนี้ ฟังแล้วต้องบอกลูกค้าไปว่า เขาทำให้บรรยากาศในงานแต่งงานคุณเสียไปแล้ว ยังจะปล่อยตัวเองให้คิดถึงเขาจนทำให้บรรยากาศในชีวิตเสียไปอีกหรือคะ อุตส่าห์แบกเขาเอาขึ้นเครื่องบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาด้วย พกเอาไว้ที่หัวใจคุณ ทั้งๆ ที่เรื่องราวมันจบลงในวันนั้นไปแล้ว เขาทำร้ายคุณทีเดียว แต่คุณทำร้ายตัวเองด้วยความคิดมากี่ครั้งแล้ว พอเถอะค่ะ

คุยมาถึงตรงนี้คุณสองบอกว่า ฟังแล้วหลุด (ออกจากความโกรธ) เลยนะเนี่ย ได้ยินแล้วดีใจกับเธอจังเลยนะคะ เพราะความโกรธนี่คือไฟ มันเผาไหม้ให้ใจเราร้อน แถมอาจจะไม่ใช่ร้อนแค่ชาตินี้ด้วย คิดอะไรร้ายๆ มากๆ สะสมนิสัยแบบไหนมากๆ ก็จะไปเกิดแถวๆ นั้น ซึ่งถ้าเก็บอกุศลมาก แนวโน้มจะได้เกิดในสุคติภูมิก็ลดลงนะคะ การอโหสิให้กับผู้อื่นได้จึงเป็นสิ่งที่ดีมากเลยค่ะ อภัยทานนั้นมีประโยชน์แก่ผู้ให้มากกว่าผู้รับ

เวลาที่มีคนมาทำร้ายเรา เขาทำให้เราเจ็บช้ำได้เพียงแค่ครั้งเดียวนะคะ แต่คนที่เลือกแช่หัวใจไว้ในความโกรธคือเราเอง ยิ่งแค้นเคือง โกรธเกรี้ยว หรือคิดสาปแช่งเขาเท่าไหร่ ใจตัวเองก็มืดลงเท่านั้น ให้เขาเป็นฝ่ายทำร้ายเราครั้งเดียวแล้วอโหสิให้เป็นอภัยทานไป ถือว่าใช้หนี้ และฉลาดพอที่จะไม่ก่อหนี้ใหม่ ด้วยการสละความความขุ่นใจหรืออาฆาตแค้นอันเป็นอกุศลจิตทิ้งไปเสีย อย่าทำร้ายตัวเองหลายๆ ครั้งด้วยความมืดและความร้อนของโทสะเลยค่ะ ถ้ารักตัวเองอย่างแท้จริงแล้วละก็ ให้อิสรภาพแก่หัวใจของเราเถิดนะคะ ทันทีที่สละความโกรธทิ้งไปได้ ความสุขก็มีเพิ่มขึ้นทันทีเดี๋ยวนั้นเลยค่ะ (^__^*)

ก่อนจะจากกันไปในฉบับนี้ ขอแนะนำ ห้องดับเพลิง (พิโรธ)” (คลิก)
ที่ได้รวบรวมบทความที่เกี่ยวกับความโกรธหลายๆ เรื่องไว้ ถ้าสนใจก็ตามไปอ่านได้เลยนะคะ

: )

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำหรับท่านที่สนใจดูดวงกับคุณ Aims Astro สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ http://sites.google.com/site/aimsastro/



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP