โหรา (ไม่) คาใจ Astro FAQ

คำสารภาพของหนุ่ม (ใหญ่) ใจแตก

Aims Astro

ถาม - ตอนนี้อายุผมก็เลขสี่นำหน้าแล้วครับ เดิมทีปฏิบัติธรรมรักษาศีลห้า ซื่อตรงกับภรรยามาตลอด ถึงจะมีปัญหากันแค่ไหนก็ไม่คิดจะนอกใจ เพราะตั้งใจจะไปนิพพาน แต่ช่วงปีสองปีมานี้กลับมีความรู้สึกว่าชอบมองสาวๆ วัยรุ่นอยู่เรื่อย จนบางทีก็อดใจไม่ไหว เข้าไปสานความสัมพันธ์ซะอย่างนั้น ศีลที่รักษา ภาวนาที่เคยมีก็ลืมไปหมด ที่เป็นแบบนี้เพราะดวงมันต้องมีเมียน้อยหรือเปล่าครับ

ดวงส่งให้คนเราเจอคนที่ถูกใจได้ในวันที่มีคู่แล้ว แต่การตัดสินใจสานสัมพันธ์กันจนผิดศีล เป็นการตัดสินใจของเราเอง โทษกรรมเก่าไม่ได้ เรื่องของการนอกใจคู่สมรส ได้ยินอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ยิ่งในช่วงอายุประมาณ ๔๐-๖๐ ปี นี่เป็นกลุ่มใหญ่ของลูกค้าที่มาตรวจดวงก็ว่าได้ เรื่องนี้ทำให้คิดถึงคำว่า "mid-life crisis" (วิกฤตในวัยกลางคน) ซึ่งคุณ Elliott Jaques นักจิตวิทยาและนักวิเคราะห์สังคม ชาวแคนาดา ได้ผูกคำนี้ขึ้น ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๐๘ (ค.ศ. ๑๙๖๕) สรุปความเท่าที่พอจะหาข้อมูลได้ก็คือ ในช่วงวัยนี้จะต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งเรื่องของบิดามารดาเสียชีวิต ความสัมพันธ์กับคู่ครองที่อยู่กินกันมาหลายปี สุขภาพร่างกายของตนเองที่เสื่อมลงจนเห็นได้ชัด หน้าที่การงานที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ฯลฯ เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมหลายคนถึงมีอาการ “ใจแตก” เอาตอนวัยกลางคนกันได้ ทั้งๆ ที่สมัยยังหนุ่มออกจะเป็นคนดี ลูกค้าชายจำนวนหนึ่งเคยบอกว่าความรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะแก่ ทำให้เกิดความอยากจะเป็นหนุ่มอีกครั้ง เลยทำให้ไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่น คงต้องขอเวลาเก็บข้อมูลสักพัก (^__^) แล้วจะได้มาเขียนในโอกาสที่เหมาะสมค่ะ

พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็อยากเล่าชีวิตของลูกค้าชายท่านหนึ่ง สมมุติว่าชื่อ “คุณ ฮ.” ก็แล้วกันนะคะ คุณ ฮ. อยู่ในช่วงกลางคน อายุเลข ๔ นำหน้าแล้ว เป็นคนสนใจธรรมะ (อยาก) รักษาศีลและปฏิบัติธรรม ตรวจดวงหลายรอบแล้วจึงรู้จักมักคุ้นกันอย่างดี เมื่อไม่นานมานี้ คุณ ฮ.นัดดูดวง โดยบอกว่า “ช่วยด่าให้สติผมที” อ่านดวงชะตาของคุณ ฮ. ได้ความว่าช่วงปีนี้จะมีความคิดเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เยอะ ประกอบกับจะมีผู้หญิงอายุน้อยเข้ามาปฏิสัมพันธ์เรื่อยๆ ผ่านทางหน้าที่การงานและสังคม ประกอบกับความสัมพันธ์กับภรรยาก็ไม่เลิกราจากกันง่ายๆ แต่อยู่กันไปแบบไม่ค่อยมีรสหวาน เรื่องทางเพศก็ห่างเหิน ปีนี้จึงจะเกิดอาการหวั่นไหวหัวใจเจ้าชู้ได้ง่าย กรรมไม่ดีให้ผลคราวนี้ลากยาวไปอีกเป็นปีเชียว ต้องคอยหลบหลีก ระวังยั้งกิเลสให้ดีค่ะ

คุณ ฮ. เล่าให้ฟังว่าคราวที่แล้วดิฉันเตือนเรื่องการนอกใจภรรยา แต่ก็อดไม่ไหวไปทำเรื่องเข้าจนได้ คือไปหวานใส่น้องในที่ทำงาน (ลืมถามอายุน้อง แต่คาดว่าน่าจะไม่เกิน ๒๒ ปี) ก่อนหน้านี้เคยจีบมาแล้วหนึ่งคนแต่ไม่สำเร็จ มาคนที่สองนี้ทีแรกฝ่ายหญิงก็ดูมีใจให้อย่างดี ถึงหน้าตาจะไม่ต้องรสนิยมเท่าไหร่แต่คุณ ฮ. กลับหลงใหลใฝ่ฝันมาก บอกว่า “ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ชอบขนาดนั้น ผมยอมเลยนะ ยอมผิดศีลเพื่อเด็กคนนี้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน” จึงอธิบายไปว่า “จริงๆ คุณไม่ได้สนใจหน้าตาน้องคนนี้ แต่ชอบความรู้สึกที่เหมือนได้เป็นหนุ่มอีกครั้ง เกิดความกระชุ่มกระชวย มีสาวๆ มาสนใจ ทำนองนี้ละนะคะ” คุณ ฮ. ฟังแล้วหัวเราะก่อนตอบว่า “ก็คงจะอย่างนั้นแหละครับ”

เขาเล่าต่อไปว่าสุดท้ายแล้วความรักครั้งนี้ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน (หรืออีกนัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่ายังไม่ถึงฝั่งนรก - -‘) เพราะสาวน้อยปฏิเสธแถมบอกว่า “พี่ไม่ต้องมายุ่งกับหนูแล้วนะ” ทำให้คุณ ฮ. รู้สึกอายมาก ซึ่งหมอดูก็เสนอความคิดไปว่า “จริงๆ คุณน่าจะอายตอนผิดศีลมากกว่า แต่ว่าแบบนี้นับว่ามีบุญนะคะ จะได้ไม่ต้องปีนต้นงิ้ว ถ้าน้องเขาเล่นด้วย คุณคงยอมตกนรกแน่เลย” เขาตอบว่า “ผมก็คิดเหมือนกันว่าบุญช่วยไว้ แต่ว่าตอนนั้นกิเลสบังตา มันคิดอะไรไม่ออกเลย อยากได้อย่างเดียว แล้วก็ยอมตกนรกจริงๆ” เลยถามไปว่า “ตกลงไม่ไปนิพพานแล้วนะ จะไปแค่เชิงสะพานใช่ไหมคะ” (-_-‘’) คุณ ฮ.เปิดใจว่า “ตอนนั้นมันยอมทุกอย่าง ยอมผิดศีล ยอมไม่ไปนิพพานก็ได้ ยอม” ถามคุณ ฮ. ต่อไป “ถ้าอย่างนั้นคุณจะไปกราบครูบาอาจารย์ยังไง” แล้วก็เล่าให้เขาฟังว่าเคยมีลูกค้าชายท่านหนึ่งที่เดิมปฏิบัติธรรม แต่แพ้กิเลสจนในที่สุดก็มีภรรยาน้อย แล้วไม่กล้าไปกราบครูบาอาจารย์อีกเลยเพราะละอายใจ คุณ ฮ. ฟังแล้วก็บอกว่า “ถ้าได้น้องคนนั้น ผมก็ไม่ไปกราบแล้วแหละ อาย” (T.T)

กิเลสนี่น่ากลัวนะคะ ขนาดคนรักษาศีลและสนใจภาวนา ประพฤติตนเป็นคนธรรมะธรรมโมต่อหน้าใครๆ มาตลอด กลับเปลี่ยนผันไปได้เพราะแพ้กิเลสนี่แหละ ถามไปว่าคุณไม่อายหรือ ที่พูดธรรมะสอนคนอื่น แต่แล้วกลับประพฤติเรื่องที่คนไม่ได้เข้าวัดบางคนเขายังไม่ทำกัน ทำให้ภาพลักษณ์นักปฏิบัติดูแย่ลงมากเลย ต่อไปนี้ขอเสนอทางเลือก ๒ ข้อ คือ ๑. เลิกทำตัวเป็นคนปฏิบัติธรรม แบบมือถือสากปากถือศีลเสียที จะได้ไม่มีใครว่าเอาได้ว่าทำตัวแย่กว่าคนไม่เข้าวัดเสียอีก หรือ ๒. ทำตัวให้สะอาดผุดผ่องในศีล ปฏิบัติให้ดี อย่างที่คุณนำเสนอตัวเองไว้ ซึ่งอยากให้เลือกข้อ ๒. มากกว่านะคะ คุณ ฮ. ตอบว่า “อายครับ ผมอายมาก ก็เลยโทรมานัด จริงๆ ก็คืออยากให้เตือนสติผมนั่นแหละ”

ฟังแล้วก็ขอร้องไปว่าให้เลิกเสพสื่อลามกได้แล้ว เพราะมันจะยิ่งเร้าอารมณ์เข้าไปใหญ่ ถึงไม่ผิดศีล แต่การหมกมุ่นในกามไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เพราะคุณก็มีปัญหากับภรรยาอยู่ ยิ่งไปกระตุ้นราคะ จะทำให้ยิ่งอยากไปเสพกับคนอื่น คุณ ฮ.ยอมรับว่ามีสื่อลามกในครอบครองจริงๆ “มันเป็นวิธีหาทางออกของผม” (- -‘’) บอกเขาไปใจความประมาณว่ามีพุทธภาษิตกล่าวว่า “ความอิ่มด้วยกามไม่มีในโลก” จึงเสนอไปว่าลองถือศีลข้อ ๓ ของศีล ๘ ดูไหมคะ แค่ ๑ หรือ ๒ วันต่อสัปดาห์ก็ยังได้ แต่วันอื่นๆ ก็ต้องรักษาศีลห้าก็ให้ครบนะ

ขออธิบายความแตกต่างเผื่อมีบางท่านไม่ทราบนะคะ (-/\-) คือกาเมสุมิจฉาจาร (ศีลข้อ ๓ ของศีล ๕) ห้ามประพฤติผิดในกาม (เรื่องศีลห้า อ่านได้จากหนังสือ “ผิดที่ไม่รู้” ของคุณดังตฤณ หรือกระทู้เบญจศีล ส่วนอพรหมจริยา (ศีลข้อ ๓ ของศีล ๘) จะเป็นการเว้นการกระทำที่เป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ ส่วนจะมีขอบเขตแค่ไหนอย่างไร ลองอ่านคุณดังตฤณเคยอธิบายไว้ค่ะ

อพฺรหฺมจริยา เวรมณี รวมถึง Masturbation ด้วยหรือไม่?

ตอบโดยพี่ดังตฤณ:
รวมสิครับ ศีล ๘ นั้นมีไว้ทำให้กายสะอาดจากเรื่องทางเพศทุกชนิดอยู่แล้ว
เมื่อกายสะอาด ปราศจากมลทินทางกาม ใจก็จะเริ่มมีเชื้อบารมีทางเนกขัมมะ (การออกจากกาม, การออกบวช, ความปลอดโปร่งจากสิ่งล่อเร้าเย้ายวน) ขึ้นมา
ถ้าไม่ตั้งใจงดเลย พออยากก็ตามใจความอยากไปเรื่อย
แต่เมื่อไม่ตามใจ ก็ได้ขันติบารมีเพิ่มขึ้นทีละน้อย
(ที่มา http://aomjai.blogspot.com/2005/07/3.html)

คุณ ฮ. ฟังแล้วบอกว่าจะลองปฏิบัติดู ก่อนจะวางสายจากกัน เขาบอกว่าโอกาสหน้าจะโทรมาให้เตือนใหม่ ส่วนในใจหมอดูนั้นไม่อยากมีโอกาสให้ต้องเตือนเรื่องนี้อีก อยากให้เขาผ่องแผ้วด้วยศีล ไม่ต้องมาใช้บริการบ่อยๆ ก็ได้ เพราะไม่อยากเห็นเพื่อนร่วมสังสารวัฏ แถมเป็นลูกค้าผู้มีอุปการคุณต้องแพ้กิเลสซึ่งเป็นของน่ากลัว เพราะไม่ว่าจะได้รับการเตือนสักเท่าไหร่ รู้ทั้งรู้ว่าผิดแค่ไหน แต่ถ้าใจอยากจะทำ ก็อุตส่าห์หาลู่ทางให้กับตัวเองจนล่วงศีลในที่สุด ก็ขอเอาใจช่วยให้คุณ ฮ. อยู่รอดปลอดภัยไม่ผิดศีลนะคะ

ก่อนจะลาจากขอฝากความห่วงใย ถึงคุณผู้ชายที่รักษาศีลและปฏิบัติธรรม ว่าอย่าไว้ใจตัวเองหากต้องใกล้ชิดกับหญิงอื่น บางครั้งในตอนแรกอาจจะแค่เมตตากรุณาปรารถนาดีอยากให้ธรรมะ เห็นเป็นเพื่อนเป็นน้องสาว แต่ราคะไม่เข้าใครออกใคร ใกล้ชิดกันมากๆ อาจจะกลายเป็นศีลขาดร่วมกันไปจนได้ อย่าไว้ใจกิเลสตัวเองค่ะ

ส่วนคุณผู้หญิงก็ขอฝากไว้ด้วยใจห่วง ว่าอย่าวางใจคนที่เหมือนจะสนใจธรรมะ คิดไว้เสมอว่าเขายังเป็นปุถุชนคนธรรมดา กิเลสตัณหาเต็มหัวใจไม่ต่างจากเรา วันนี้รักษาศีล ๕ ได้ครบ วันพรุ่งนี้ก็ไม่รู้จะเหลือกี่ข้อ ถึงพูดธรรมะได้สละสลวยแค่ไหน แต่ก็อาจจะไม่มีธรรมะในใจจริงๆ ก็ได้ ต้องใช้เวลาดูดีๆ นะคะ

ก่อนจะทำผิดศีลไป อย่าลืมคิดถึงเป้าหมายที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนานะคะ เพราะเพียงหนึ่งก้าวที่พลาดพลั้ง อาจหมายถึงความมืดมนอันแสนนานก็ได้ ขอเป็นกำลังใจแด่ทุกดวงใจ ให้สามารถเอาชนะต่อสิ่งยั่วยวนต่างๆ รักษาตัวรอดจนพร้อมด้วยทาน ศีล ภาวนา ตราบจนถึงฝั่งอันปลอดภัยจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏนี้ค่ะ (-/\-)

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำหรับท่านที่สนใจดูดวงกับคุณ Aims Astro สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ http://sites.google.com/site/aimsastro/

---

แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ