ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

คนเรามีลางสังหรณ์ได้จริงหรือ + ทำอย่างไรให้คนที่คิดฆ่าตัวตายล้มเลิกความคิดได้

ถาม : ดิฉันมักจะฝันต่อเนื่องกันหลายวัน ถ้าจะได้ย้ายงานหรือจะได้เดินทางไกล
อยากรู้ว่าคนเราสามารถมีลางสังหรณ์ได้จริงหรือไม่คะ

ลางสังหรณ์เป็นเรื่องจริง
เพราะว่าจิตของคน มันไม่ได้มีความจำกัดอยู่แค่มิติของปัจจุบัน
จิตของคนมันสามารถเห็นเหตุผลของปัจจุบัน ต้นเหตุของปัจจุบันนะ
การเห็นเหตุที่มาของสภาวะอันเป็นปัจจุบันนี้ เรียกว่าเห็นอดีต
การเห็นว่าปัจจุบันนี้เป็นราก ของอนาคตอย่างไร นั่นเรียกว่าญาณหยั่งรู้อนาคต
ส่วนลางสังหรณ์นี่ที่มันเกิดขึ้นแบบวูบๆ วาบๆ จริงบ้าง ไม่จริงบ้างนี่นะ
ถ้าหากว่าคนมีสมาธิทั่วไป ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับเราทำจิตที่ขุ่น
จิตที่เป็นน้ำขุ่นๆ ให้มันใส เราก็สามารถเห็นทะลุลงไปได้
ว่าใต้ผิวน้ำมันมีอะไรซ่อนอยู่นะครับ
พูดง่ายๆ ว่าลางสังหรณ์ ถ้าเกิดขึ้นในแบบที่เราไม่รู้เหตุรู้ผล
ไม่สามารถสืบเหตุสืบผลได้ อย่าเพิ่งไปเชื่อ
ถึงแม้ว่ามันจะจริง แต่ก็อย่าไปใช้ตัดสิน
ว่าเมื่อใดที่มีลางสังหรณ์แบบนี้ มันจะต้องเป็นจริงเสมอไป

แต่ถ้าเมื่อไหร่ คุณสามารถรู้สึกตัวเข้ามา
ในภาวะของกายของใจ อันเป็นปัจจุบันแบบนี้
แล้วสามารถเห็นได้ว่าที่มาของกายใจแบบนี้ สภาวะแบบนี้ มันมาจากไหน
ตรงนั้นเชื่อได้ระดับนึงว่าคุณเห็นจริงในอดีต
แล้วถ้าหากว่าคุณเห็นโดยความเป็นนิมิตนะ
ว่ากายแบบนี้ใจแบบนี้ที่กำลังตั้งอยู่ในวินาทีนี้
เป็นรากของอะไรที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า
อันนั้นค่อยเชื่อว่าคุณรู้อนาคตได้นะครับ

ถาม : ทำอย่างไรให้คนที่คิดฆ่าตัวตายตลอดเวลา ล้มเลิกความคิดได้ครับ

คนฆ่าตัวตายเนี่ย ถ้าเป็นจิตแพทย์นั่งอยู่ในนี้นี่คงเข้าใจดีเลย
คุณอย่าไปห้ามเขา อย่าไปพูดกับเขาเลย ไม่มีประโยชน์
ถ้าหากคุณไม่สามารถหาสิ่งที่ทำให้เขามีความหวัง
หรือมีความสุขอะไรขึ้นมา ชุ่มชื่นขึ้นมาได้ในขณะนั้น
มันไม่มีทางเปลี่ยนใจ ถ้าเขาอยากฆ่าตัวตายจริงนะ
แต่ถ้าเขาอยู่ในภาวะครึ่งๆ กลางๆ ไม่ค่อยเห็นค่าของชีวิต
อันนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณ
ว่าจะทำให้เขาเห็นว่าโอกาสของชีวิต
ที่มีชีวิตอยู่นี่คือโอกาสทอง เป็นขุมทองขนาดไหน
ยิ่งคุณรู้จักพุทธศาสนาลึกซึ้งมากขึ้นเท่าไหร่ คุณจะยิ่งพูดได้สมจริงสมจัง
แล้วก็ชักจูงเหนี่ยวนำให้เขาเห็นเหตุเห็นผลได้มากขึ้นเท่านั้น

พูดง่ายๆ ถ้าคุณทำให้เขารู้สึกได้ว่าชีวิตมนุษย์คือการเปลี่ยนแปลง
คือการเลือกทางใหม่ได้ แล้วทุกอย่างมันไม่ต้องเป็นแบบนี้นะ
เขาจะเห็นค่าของชีวิตว่าค่าของชีวิตที่เหลือ มันก็เพื่อการเปลี่ยนแปลง
ไม่ใช่เพื่อการตั้งอยู่อย่างไร้ความหวังนะครับ

---

แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ