จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

ถึงแม้ไม่มีมือที่สาม


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it



367 destination



สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม ๒๕๖๗ นี้
หลายท่านคงได้ทราบหรือได้ติดตามข่าวของนักร้องคนหนึ่ง
ที่ได้มีปัญหาทะเลาะกับเฟซบุ๊กเพจแห่งหนึ่ง
ในเรื่องที่นักร้องคนนั้นได้จูบกับผู้ชายคนหนึ่งที่มีแฟนแล้วในงานเลี้ยงงานหนึ่ง
ซึ่งทั้งนักร้องคนนั้นก็โต้เถียงไปมากับเฟซบุ๊กเพจรวมไปถึงแฟนสาวของผู้ชายคนนั้นด้วย
จนต่อมานักร้องคนนั้น ก็ได้กล่าวว่า ถึงแม้จะไม่มีตนเองมาจูบกับผู้ชายคนนี้ก็ตาม
ผู้ชายคนนี้ก็จะไม่ไปกลับไปคบกับแฟนสาวของเขาเพราะเหตุผล ฯลฯ ที่ผู้ชายเล่ามา
หลังจากมีข่าวเรื่องนี้แล้ว บางท่านก็ให้ความเห็นในโซเชียลมีเดียว่า
สังคมไทยควรจะหันกลับมาให้ความสำคัญในเรื่องศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร
ซึ่งในบทความคราวนี้ เราจึงจะมาสนทนากันในเรื่องของศีลข้อกาเมสุมิจฉาจารครับ


ในพระสุตันติปิฎก อรรถกถา ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค มหาวรรค ญาณกถา
ได้อธิบายว่า คำว่า “กาเมสุ” ได้แก่ การประพฤติในเมถุน
(ซึ่งแปลว่าการร่วมประเวณี หรือการร่วมสังวาส)
คำว่า “มิจฺฉาจาโร” ได้แก่ ประพฤติลามกที่ถูกติเตียนโดยส่วนเดียว
แต่โดยลักษณะเจตนาที่จะก้าวล่วงฐานะหญิงที่ไม่ควร
ถึงเป็นไปในกายทวารโดยประสงค์จะประพฤติชั่ว จึงชื่อว่า “กาเมสุ มิจฉาจาร”


ในส่วนของหญิงที่ไม่ควรของบุรุษนั้น ในอรรถกถาได้กล่าวถึงหญิง ๒๐ จำพวก
คือ หญิงอันมารดาคุ้มครองเป็นต้น ๑๐ จำพวก และ
หญิงที่ได้มาด้วยทรัพย์เป็นต้น ๑๐ จำพวก
โดยที่ หญิงอันมารดาคุ้มครองเป็นต้น ๑๐ จำพวก ได้แก่
มารดาคุ้มครอง ๑ บิดาคุ้มครอง ๑ มารดาบิดาคุ้มครอง ๑ พี่ชายคุ้มครอง ๑
พี่สาวคุ้มครอง ๑ ญาติคุ้มครอง ๑ โคตรคุ้มครอง ๑ ธรรมคุ้มครอง ๑
มีผู้อารักขา ๑ มีโทษทัณฑ์ ๑
ส่วนหญิงที่ได้มาด้วยทรัพย์เป็นต้น ๑๐ จำพวก ได้แก่
หญิงได้มาด้วยทรัพย์ ๑ อยู่ด้วยความพอใจ ๑ อยู่ด้วยโภคะ ๑ อยู่ด้วยให้ผ้า ๑
หิ้วถังน้ำ ๑ เทินภาชนะบนศีรษะ ๑ ภริยาที่เป็นทาสี ๑ ภรรยาที่เป็นกรรมกร ๑
นำมาด้วยธง ๑ อยู่ชั่วคราว ๑
หญิงทั้งหลายเหล่านี้ได้ชื่อว่า “อคมนียฐาน” คือ ฐานะหญิงที่บุรุษไม่ควรถึงของบุรุษทั้งหลาย
ทั้งนี้ กาเมสุมิจฉาจารนั้นมีโทษน้อยในหญิงที่เป็นอคมนียฐานผู้ไม่มีคุณธรรมมีศีลเป็นต้น
และมีโทษมากในหญิงผู้สมบูรณ์ด้วยคุณธรรมมีศีลเป็นต้น


องค์ประกอบของกาเมสุมิจฉาจารนั้นมีองค์ ๔ ได้แก่
๑. “อคมนียวตฺถุ” คือ วัตถุที่ไม่ควรถึง (กล่าวคือหญิงที่ไม่ควรเข้าถึงของบุรุษนั้น)
๒. “ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ” คือ จิตคิดจะเสพในวัตถุที่ไม่ควรถึงนั้น
(กล่าวคือ จิตคิดที่จะร่วมประเวณีกับหญิงที่ไม่ควรเข้าถึงของบุรุษนั้น)
๓. “เสวนปฺปโยโค” คือ พยายามที่จะเสพเมถุน
(กล่าวคือมีความพยายามที่จะร่วมประเวณี)
๔. “มคฺเคน มคฺคปฏิปตฺติอธิวาสนํ” คือ มรรคจดมรรค
(กล่าวคือการทำให้อวัยวะเพศของทั้งสองฝ่ายจรดถึงกัน)
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=31&i=86&p=4
ทั้งนี้ ในกรณีของบุรุษที่ไม่ควรของหญิงนั้น
ก็สามารถนำกรณีของหญิงที่ไม่สมควรของบุรุษไปเทียบเคียงกลับกันได้ครับ


ในกรณีนี้มีข้อสังเกตว่า ในกรณีของชายและหญิงที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน
หรือแต่งงานกันถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม แต่ว่าหากได้อยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาแล้ว
ก็ควรถือได้ว่าเป็นหญิงที่มีสามีคุ้มครองหรือมีญาติคุ้มครองแล้ว
หรือในกรณีที่ไปเที่ยวตามสถานเริงรมย์ และร่วมประเวณีกับโสเภณีก็ตาม
ก็ควรถือได้ว่า เป็นหญิงได้มาด้วยทรัพย์ หรือเป็นหญิงที่อยู่ด้วยโภคะก็ได้


ในองค์ประกอบของกาเมสุมิจฉาจารนั้น ไม่ได้มีข้อยกเว้นไว้ว่า
หากหญิงนั้นทะเลาะกับสามี หรือไม่ถูกกันแล้ว บุรุษก็จะไปล่วงละเมิดได้
ไม่มีข้อยกเว้นเช่นนั้นนะครับ โดยย่อมจะถือว่าผิดกาเมสุ
มิจฉาจารอยู่ดี
ซึ่งถ้าจะให้ไม่ผิดกาเมสุ
มิจฉาจารแล้ว ก็ต้องรอให้เขาหย่าหรือเลิกกันเสียก่อนครับ
ในกรณีของหญิงที่จะไปยุ่มย่ามกับบุรุษที่ทะเลาะหรือไม่ถูกกันกับภรรยา
ก็คือทำนองเดียวกันครับว่า จะต้องรอให้เขาเลิกกันก่อน


กรณีตัวอย่างที่เราเคยเห็นตามข่าวบ่อย ๆ นั้น
มักจะเป็นกรณีที่ฝ่ายชายอ้างว่า ตนเองไม่ถูกกับภรรยาหรือไม่สนใจภรรยาแล้ว
แยกกันอยู่แล้ว กำลังจะเลิกกัน หรืออีกสักพักหนึ่งก็จะเลิกกับภรรยาแล้ว
อะไรทั้งหลายเหล่านี้ ก็สรุปได้เหมือนกันว่า ชายนั้นยังไม่ได้เลิกกับภรรยา
และยังเป็นบุรุษที่มีภรรยาอยู่ ก็ถือว่าเป็นบุรุษที่มีภรรยา หรือญาติคุ้มครอง
เท่ากับว่า เป็นบุรุษที่ไม่ควรแก่หญิงอยู่ดีครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP