ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta

สุภูติสูตร ว่าด้วยลักษณะแห่งศรัทธา


กลุ่มไตรปิฎกสิกขา



[๒๒๑] ครั้งนั้นแล ท่านพระสุภูติกับสัทธภิกษุ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถามท่านพระสุภูติว่า “สุภูติ ภิกษุนี้ชื่อไร.”
ท่านพระสุภูติกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุนี้ชื่อว่าสัทธะ
เป็นบุตรอุบาสกผู้มีศรัทธา ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา พระเจ้าข้า.”


ภ. สุภูติ ก็สัทธภิกษุนี้ เป็นบุตรของอุบาสกผู้มีศรัทธา ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา
ย่อมเห็นพร้อมในลักษณะของผู้มีศรัทธาทั้งหลายแลหรือ.


สุ. ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า บัดนี้เป็นการสมควรทรงแสดงลักษณะของผู้มีศรัทธานั้น
ข้าแต่พระสุคต บัดนี้เป็นกาลสมควรแสดงลักษณะของผู้มีศรัทธานั้น
ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธาเถิด
ข้าพระองค์จักทราบบัดนี้ว่า ภิกษุนี้จักเห็นพร้อมในลักษณะของผู้มีศรัทธาทั้งหลายหรือไม่.


ภ. สุภูติ ถ้าอย่างนั้น เธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว.
ท่านพระสุภูติทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า สุภูติ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล
สำรวมแล้วในปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร
มีปกติเห็นภัยในโทษทั้งหลายมีประมาณน้อย
สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
สุภูติ ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีศีล ฯลฯ
สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
แม้นี้ ก็เป็นลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา.


อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มีสุตะมาก ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ
เป็นผู้ได้สดับมามาก ทรงไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฏฐิ
ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด
ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง

สุภูติ ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีสุตะมาก ฯลฯ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฏฐิ
แม้นี้ ก็เป็นลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา.


อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้มิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี
สุภูติ ข้อที่ภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี
แม้นี้ ก็เป็นลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา.


อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ว่าง่าย ประกอบด้วยธรรมเครื่องกระทำให้เป็นผู้ว่าง่าย
เป็นผู้อดทน เป็นผู้รับอนุสาสนีโดยเคารพ
สุภูติ ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ว่าง่าย เป็นผู้ประกอบด้วยธรรมเครื่องกระทำให้เป็นผู้ว่าง่าย
เป็นผู้อดทน เป็นผู้รับอนุสาสนีโดยเคารพ
แม้นี้ ก็เป็นลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา.


อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้าน
ในกรณียกิจทั้งสูงและต่ำของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาอันเป็นอุบายในกรณียกิจนั้น อาจทำ อาจจัดได้
สุภูติ ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้าน ฯลฯ อาจทำ อาจจัดได้
แม้นี้ ก็เป็นลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา.


อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ใคร่ธรรม กล่าวคำเป็นที่รัก
เป็นผู้มีความปราโมทย์อย่างยิ่งในธรรมอันยิ่ง ในวินัยอันยิ่ง
สุภูติ ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ใคร่ธรรม เป็นผู้กล่าวคำอันเป็นที่รัก
มีความปราโมทย์อย่างยิ่งในธรรมอันยิ่ง ในวินัยอันยิ่ง
แม้นี้ ก็เป็นลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา.


อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม
เพื่อยังอกุศลธรรมให้ถึงพร้อม เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรม
สุภูติ ข้อที่ภิกษุปรารภความเพียร ฯลฯ
แม้นี้ ก็เป็นลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา.


อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก
ซึ่งฌาน ๔ อันมีในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน
สุภูติ ข้อที่ภิกษุเป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก
ซึ่งฌาน ๔ อันมีในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน
แม้นี้ ก็เป็นลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา.


อีกประการหนึ่ง ภิกษุระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก คือ
ระลึกได้ชาติ ๑ บ้าง ๒ ชาติบ้าง ๓ ชาติบ้าง ๔ ชาติบ้าง ๕ ชาติบ้าง
๑๐ ชาติบ้าง ๒๐ ชาติบ้าง ๓๐ ชาติบ้าง ๔๐ ชาติบ้าง ๕๐ ชาติบ้าง
๑๐๐ ชาติบ้าง ๑,๐๐๐ ชาติบ้าง ๑๐๐,๐๐๐ ชาติบ้าง ตลอดสังวัฏกัปเป็นอันมากบ้าง
ตลอดวิวัฏกัปเป็นอันมากบ้าง ตลอดสังวัฏวิวัฏกัปเป็นอันมากบ้างว่า
ในภพโน้น เราได้มีชื่ออย่างนั้น มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น
มีอาหารอย่างนั้น เสวยสุขเสวยทุกข์อย่างนั้น ๆ มีกำหนดอายุเพียงเท่านั้น
ครั้นจุติจากภพนั้นแล้ว ได้ไปเกิดในภพโน้น แม้ในภพนั้น เราก็ได้มีชื่ออย่างนั้น
มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น
เสวยสุขเสวยทุกข์อย่างนั้นๆ มีกำหนดอายุเพียงเท่านั้น
ครั้นจุติจากภพนั้นแล้ว ได้มาเกิดในภพนี้ ดังนี้
เธอย่อมระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศ ด้วยประการฉะนี้
สุภูติ ข้อที่ภิกษุระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก คือ
ระลึกได้ชาติ ๑ บ้าง ๒ ชาติบ้าง ฯลฯ
เธอย่อมระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศ ด้วยประการฉะนี้
แม้นี้ ก็เป็นลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา.


อีกประการหนึ่ง ภิกษุเห็นหมู่สัตว์กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลวประณีต
มีผิวพรรณดี ผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์
ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรมว่า

สัตว์เหล่านั้นประกอบด้วยกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต
ติเตียนพระอริยเจ้า เป็นมิจฉาทิฏฐิ ยึดถือการกระทำด้วยอำนาจมิจฉาทิฏฐิ
เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก จึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ส่วนสัตว์เหล่านี้ประกอบด้วยกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ไม่ติเตียนพระอริยเจ้า
เป็นสัมมาทิฏฐิ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก จึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ดังนี้
เธอย่อมเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต
มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์
ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม ด้วยประการฉะนี้
สุภูติ ข้อที่ภิกษุเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต
มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ ฯลฯ
ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม ด้วยประการฉะนี้
แม้นี้ ก็เป็นลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา.


อีกประการหนึ่ง ภิกษุทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่
สุภูติ ข้อที่ภิกษุทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่
แม้นี้ ก็เป็นลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา.


เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วอย่างนี้
ท่านพระสุภูติ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ลักษณะศรัทธาของผู้มีศรัทธา ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสนี้นั้น
มีพร้อมอยู่แก่ภิกษุนี้ และภิกษุนี้ย่อมเห็นพร้อมในลักษณะศรัทธาของผู้มีศรัทธาเหล่านี้
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุนี้เป็นผู้มีศีล สำรวมแล้วในปาติโมกขสังวร
ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร มีปกติเห็นภัยในโทษทั้งหลายมีประมาณน้อย
สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
ภิกษุนี้เป็นผู้มีสุตะมาก ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ เป็นผู้ได้สดับมามาก
ทรงไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฏฐิ
ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด
ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง

ภิกษุนี้เป็นผู้มิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี
ภิกษุนี้เป็นผู้ว่าง่าย ประกอบด้วยธรรมเครื่องกระทำให้เป็นผู้ว่าง่าย
เป็นผู้อดทน เป็นผู้รับอนุสาสนีโดยเคารพ
ภิกษุนี้เป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้าน ในกรณียกิจทั้งสูงและต่ำของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
เป็นผู้ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาอันเป็นอุบายในกรณียกิจนั้น อาจทำ อาจจัดได้
ภิกษุนี้เป็นผู้ใคร่ในธรรม กล่าวคำเป็นที่รัก
เป็นผู้มีความปราโมทย์อย่างยิ่ง ในธรรมอันยิ่ง ในวินัยอันยิ่ง
ภิกษุนี้เป็นผู้ปรารภความเพียร มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรม
ภิกษุนี้เป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก
ซึ่งฌาน ๔ อันมีในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน
ภิกษุนี้ย่อมระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก คือ
ระลึกได้ชาติ ๑ บ้าง ๒ ชาติบ้าง ๓ ชาติบ้าง ฯลฯ
เธอระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศ ด้วยประการฉะนี้
ภิกษุนี้พิจารณาเห็นหมู่สัตว์กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว
ประณีต
มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ ฯลฯ
เธอย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม ด้วยประการฉะนี้
ภิกษุนี้ย่อมทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ลักษณะศรัทธาของผู้มีศรัทธาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้วนี้
มีพร้อมอยู่แก่ภิกษุนี้ อนึ่ง ภิกษุนี้จักปรากฏในลักษณะศรัทธาของผู้มีศรัทธาเหล่านี้ พระพุทธเจ้าข้า.”


ภ. ดีละ ดีละ สุภูติ ถ้าเช่นนั้น เธอพึงอยู่กับสัทธภิกษุนี้เถิด สุภูติ
อนึ่ง เธอพึงหวังจะมาเยี่ยมเยียนตถาคตในกาลใด
ในกาลนั้น เธอกับสัทธภิกษุนี้ พึงเข้ามาเยี่ยมเยียนตถาคตเถิด.


สุภูติสูตร จบ



(สุภูติสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๘)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP