ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ผู้ที่เลือกการุณยฆาตตัวเอง มีสิทธิ์ไปสู่สุคติไหม



ถาม - ถ้าผู้ป่วยเลือกทำการุณยฆาต (euthanasia) เพื่อที่จะจบความทรมานลง
ในขณะสิ้นลมหากเขามีสติ ทำสมาธิ ไม่เศร้าหมอง
อย่างนี้จะสามารถพ้นวิบากกรรมจากการฆ่าตัวตายได้ไหมคะ


อันนี้ก็คำถามยากอีกคำถามหนึ่งนะ คือเวลาจะตอบคำถามประเภทนี้
ผมจะบอกทุกครั้งนะว่ามันเอาแน่เอานอนไม่ได้ มันเป็นอจินไตย
คือเรื่องของกรรมและผลแห่งกรรม พระพุทธเจ้าตรัสนะครับ
เรื่องผลแห่งกรรมเป็นอจินไตย เราคิดคำนวณเอาไม่ได้
เราเห็นคนหน้าตาแบบหนึ่ง เราเห็นว่าน่าจะจิตใจดีอะไรต่างๆ
แต่เขาซ่อนอะไรไว้ เราไม่รู้
หรือว่าบางคนดูภายนอกเหมือนกับไม่ค่อยจะเอาใครเท่าไหร่
พูดไม่ค่อยจะมีหางเสียงอะไรแบบนี้ แต่จิตใจข้างในเขามีเมตตา
มีแต่ความปรารถนาจะให้ทุกคนมีความสุขอะไรแบบนั้น
เราไม่สามารถไปรู้เขาได้ว่าความซับซ้อนของจิตวิญญาณ
หรือว่าของกรรมที่เขาอยู่บนเส้นทางนั้นมามันมีอย่างไรอยู่บ้าง


ทีนี้มาตอบคำถามนี้ว่า “การเลือกทำการุณยฆาต หากผู้ป่วยมีสติ ทำสมาธิ ไม่เศร้าหมอง
ตอนไปนี่เขาเลือกที่จะจบความเจ็บปวดทรมานลง
อย่างนี้สามารถพ้นวิบากกรรมจากการฆ่าตัวตายได้ไหม”

มีเรื่องอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะฟัง
ในพระไตรปิฎกมีการบันทึกไว้ เกี่ยวกับเรื่องของพระโคธิกะซึ่งฆ่าตัวตาย
แล้วพระพุทธเจ้าให้คำรับรองว่าเป็นพระอรหันต์
เรื่องนี้คือบางทีมันพูดยากนะ มันแล้วแต่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อด้วย
เพราะว่าพระไตรปิฎกอย่างไรก็เป็นบันทึก
ที่เราไม่สามารถเอาบุคคลผู้บันทึกมาแสดงความจริงอะไร
ให้เราในยุคนี้ได้รับรู้ตามนะครับ


เอาเป็นว่ามีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎกว่าพระโคธิกะท่านฆ่าตัวตาย
คือท่านป่วยแล้วก็ทนกับสภาพความทรมานทางกายไม่ไหว
แล้วในสำนวนพระไตรปิฎกบอกว่าหยิบศาสตรามา
ก็คือพูดง่ายๆ ว่าเอาของมีคมมาฆ่าตัวตายนั่นเอง มาจิ้มตัวเองนั่นเอง
แล้วพอมีคนรู้ ไปทูลกับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอกว่า
ท่านโคธิกะได้ดูเวทนาดูทุกขเวทนาในขณะที่ตาย แล้วก็เห็นว่ามันไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน
คือก่อนอื่นต้องเข้าใจนะว่าท่านเจริญสติมาอยู่แล้ว เป็นพระที่เก่งในการเจริญสติ
ส่วนที่ว่าท่านบรรลุก่อนหรือหลังจากที่ได้เอาศาสตรามา
ไม่ได้มีแจกแจงไว้ในชั้นเดิม ในชั้นพระไตรปิฎกไม่ได้บอกไว้
บอกไว้แค่ว่าพอท่านฆ่าตัวตายแล้วมีคนมาบอกพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าตรัสรับรองว่านั่นน่ะคือเจริญสติ ณ ขณะตาย แล้วก็เป็นพระอรหันต์


ทีนี้พอผมพูดอย่างนี้ อย่าถือว่าผมชี้โพรงให้กระรอก
อย่าเข้าใจว่าคุณจะทำแบบท่านได้นะ
การเจริญสติมันต้องใช้เวลา
แล้วที่จะเข้าใจจริงๆ ว่าตัวสภาพกาย สภาพเวทนา สภาพจิตนี้
มันแยกเป็นส่วนๆ จากกัน เป็นต่างหากจากกัน ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน แล้วก็ไม่เที่ยง

อันนี้ไม่ใช่วันเดียวบอกว่าฉันจะฆ่าตัวตายวันนี้ ฉันเจริญสติวันนี้
แล้วจะได้แบบท่านโคธิกะ ไม่ใช่แบบนั้นนะ มันต้องเจริญสติมา
อย่างตัวคำถามบอกว่า “...หากผู้ป่วยมีสติ ทำสมาธิ...”
ถ้าหากมีจริง แล้วจิตไม่เศร้าหมองก็มีสิทธิ์ไปดี หรือกระทั่งมีสิทธิ์ที่จะบรรลุธรรมเลยก็ได้
เพราะว่าช่วงจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มใกล้อยู่ใกล้ไป
จังหวะนั้นจิตมีความหนักแน่นกว่าปกติ

เหมือนตอนถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ประเภทที่ว่าเข้าห้องผ่าตัดอะไรแบบนี้
จิตมันจะล็อกอยู่กับภาวะหนึ่ง ตอนที่ภาวะทางกายมันเริ่มไม่ทำให้กระสับกระส่ายแล้ว
โดนบล็อกหลังโดนอะไรก็แล้วแต่ มันจะเหมือนกับนิ่งแช่ของมันอยู่ในสภาพนั้น
เพียงแต่ว่าถ้าเราโดนยาสลบ หรือโดนบล็อกหลังอะไรไปครึ่งตัว
มันจะแช่นิ่งแบบฟรีซ (
freeze) แบบที่เอาไปใช้อะไรไม่ได้


แต่ถ้าหากว่าเราเจริญสติมาก่อน แล้วก็มีสมาธิจริงๆ
ก่อนจะเข้าสู่ช่วงที่ร่างกายมันเริ่มเข้าสู่กระบวนการดับ
จังหวะนั้นจิตจะรวมลงเป็นสมาธิ แล้วเคยฝึกเคยรู้อะไรมามากๆ
มันก็จะมาปรากฏผลงอกเงยออกดอกออกผลเอาตอนนั้น
อย่างถ้าคนเอาแต่แค่ท่องภาวนาพุทโธ
มันก็จะมีแต่คำว่าพุทโธ แล้วก็อาจจะได้ไปสวรรค์
แต่ถ้าหากว่าฝึกรู้ลมหายใจจนชำนาญ
จนเกิดความเคยชินที่จะรู้ลมเป็นอัตโนมัติ
รู้เข้ามาว่าลมหายใจเข้ามาในร่างนี้ แล้วร่างนี้กำลังจะดับไป
ร่างนี้จะไม่ใช่มโนภาพของตัวเราอีกต่อไป
แบบนี้นะเวลาที่จิตใกล้จะดับ มันจะล็อกอยู่กับความรับรู้
ว่ากายไม่ใช่เรา ลมหายใจไม่ใช่เรา จิตไม่ใช่เรา แล้วก็บรรลุธรรมได้
คือจิตรวมเป็นฌาน รวมในแบบที่มันโพล่งออกรู้นิพพาน


ซึ่งมันจะต่างกันกับตอนที่จิตนิ่งเหมือนตอนโดนบล็อกหลัง
หรืออะไรที่เราจะอยู่ในสภาพที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัวนะแบบนั้น
พูดง่ายๆ ว่าถ้ามีพื้นฐานความเป็นกุศลมามากพอ เขาก็ไปได้ของเขา ไปดีได้ของเขา
แต่ผมไม่ได้พูดนะว่าการฆ่าตัวตายทำให้ไปดี
ผมพูดว่าแต่ละคนมีเงื่อนไขมีเหตุปัจจัยไม่เหมือนกัน
มันแล้วแต่ว่าใครมีพื้นมาอย่างไร ซึ่งเส้นทางกรรมของเขา วิบากจะรู้
ตัววิบากที่มันจะสนองคืนกลับมาบนเส้นทางหนึ่งๆ
เขาจะรู้ของเขา ว่าเขาจะให้ผลอย่างไร
แต่เราไปคิดเอา คะเนเอา เดาเอาไม่ได้
ยกเว้นแต่เราจะเป็นผู้มีอภิญญา เป็นผู้มีตาทิพย์
สามารถล่วงรู้ ชั่งน้ำหนักได้ว่าด้วยกรรมแบบหนึ่งๆ ผลมันจะงอกเงยอย่างไร
ถ้าหากทำการุณยฆาตหรือว่าทำอัตวินิบาตกรรม


เพราะบางคนคือกรรมหลักทำบุญมาทั้งชีวิต
พอไปทำการุณยฆาต มันเหมือนกับมีสติตั้งอยู่ได้ แล้วก็ไปดีได้
แต่บางคนจะเอาที่มันดีเฉพาะตอนที่กำลังจะตาย แต่ว่าที่ผ่านมามันร้ายตลอด
อย่างนี้บางทีผลมันก็มาตัดรอนคุณงามความดีในช่วงท้ายๆ ได้เหมือนกัน
คือถ้าดีไม่จริง พูดง่ายๆ นะ มันจะถูกตัวที่มันร้ายจริงๆ มาเอาชนะไป
แล้วแต่คนนะครับ


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP