สารส่องใจ Enlightenment

เราปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร (ตอนที่ ๑)



พระธรรมเทศนา โดย พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
วัดอรัญญบรรพต อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย



เด็กๆ เขาไปภาวนาอยู่โรงยาวโน่น มันมีคนไปหลอกหลอนเค้า
สงสัยพระเณรเราจะไปกัน หรือยังไงน่ะ
พวกชาวบ้านคงจะไม่มีใครมาหลอกหลอนอย่างนั้นนะ
มันต้องคนอยู่ในวัดนี่แหละ ผีหลอกไม่มีแน่ คนนี่นะมันหลอกคนน่ะ
อันนี้ก็อันหนึ่งนะ ถ้าเราจับได้แล้วต้องลงโทษหนักเลยทีเดียว
จะบอกให้เน้อ จะไม่ให้อยู่ด้วยซ้ำเลย จะว่าเป็นความผิดเบาๆ ไม่ได้นะ
ทำลงไปอย่างนั้นแล้วน่ะ มันมีจิตปฏิพัทธ์ กลับมาสู่ทางโดยตรงเลยมันจึงไป
ถ้าไม่มีจิตปฏิพัทธ์อย่างนั้นมันไม่ไปกันหรอก
ต้องสังวรณ์ให้ดีนะ ผู้ใดก็ดีนำความเสื่อมเสียมาให้แก่วัดวาอาราม ไม่ใช่น้อยนะ
เราต้องพิจารณาถึงความเสื่อมสิ ไม่ใช่เสียแต่ตัวผู้เดียวนะ เสียหมดทั้งหมู่เลย
ถ้าเรื่องมันปรากฏขึ้นน่ะ ใครก็ไม่อยากมาแล้ว มานี่แล้วถูกรังแก อย่างนี้
แต่ถ้าใครไม่ได้ทำอย่างนั้นแล้วก็แล้วไป แต่ถ้าใครทำนะ รู้ตัวแล้วรีบสังวรณ์ระวัง
ถ้าหากว่าจับได้ในกาลต่อไปล่ะ ก็มีหวังไม่ได้อยู่กับหลวงปู่นะ จะบอกให้


อันนี้มันบางวัดที่เพิ่นจึงไม่รับแม่ชี มันเป็นอย่างนี้แหละ
เรามันต้องรู้ว่าหนทางความเสื่อม ทางความเจริญ ต้องเรียนรู้สิ
ถ้าหากว่าจะใฝ่ฝันเรื่องพรรค์นั้นอยู่นะ อย่ามาบวช บอกแล้ว
หรือว่าบวชมาแล้วทนไม่ไหว ลาสึกเดี๋ยวนี้ก็ได้ เราไม่ห้ามเลย
ถ้าใครยังพอใจประพฤติพรหมจรรย์อยู่แล้ว ต้องสำรวมตนให้ดี
ความมุ่งหมายนะ การปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนานี่
พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ทุกคนพึ่งตนเองให้ได้ อย่าไปคิดพึ่งแต่ผู้อื่นกันอยู่
หมายความว่าจะคอยให้แต่ผู้อื่นตักเตือน จนเราไม่เตือนตน ไม่สอนตน
ทำไปตามอำนาจของกิเลส อย่างนี้เรียกว่าคนไม่คิดพึ่งตัวเอง
คำว่าพึ่งตัวเองในที่นี้หมายถึง เราเอาความดีเป็นที่พึ่ง
หมายความว่าอย่างนั้น อย่าไปเอาความชั่วมาเป็นที่พึ่ง


ก็เคยพูดให้ฟังอยู่ แต่ครั้งพระพุทธเจ้าน่ะ
แต่ทีแรกสำนักนางภิกษุณีก็อยู่ห่างไกลจากวัดพระสงฆ์
อันต่อมานี่พวกอันธพาลมันเกิดไปรังแกนางภิกษุณีเข้า
พระศาสดาจึงทรงรับสั่งให้พระเจ้าปเสนทิโกศล
ให้ย้ายสำนักนางภิกษุณีเข้ามาอยู่ใกล้กันกับภิกษุสงฆ์
ดังนั้นวัดของนางภิกษุณีจึงอยู่ใกล้กันเลย เขตแดนติดต่อกันเลยอย่างนั้น
แล้วต้องให้นางภิกษุณีนั้นมาฟังโอวาทของภิกษุสงฆ์ทุกวัน
คงหมายเอานางภิกษุณีที่ยังไม่บรรลุมรรคผลธรรมวิเศษนั้นแหละที่บวชมาใหม่
นางภิกษุณีที่เป็นพระอรหันต์ โสดา สกิทาคา อนาคา แล้วคงไม่เกี่ยว
ก็จะมีระเบียบมีธรรมเนียมอย่างนั้นมา เราก็เอาระเบียบอันนั้นมาใช้กัน
ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงอำนวยการมา
มีอะไรเราจึงมาพูดกันในที่ประชุมนี้ ประกาศให้รู้เรื่องกัน ทางแห่งความเสื่อมมันมี


ลองคิดดูซิ ถ้าไม่มีแม่ชีมาอยู่ด้วย ใครจะเป็นแม่ครัวล่ะ มาทำอาหารให้ฉันอยู่
นั่น ต้องคิดดูให้ละเอียดถี่ถ้วน จริงอยู่ บางวัดเพิ่นไม่รับแม่ชี
เพราะว่าวัดมันอยู่ใกล้บ้าน เพิ่นบิณฑบาต ชาวบ้านก็ไปจังหัน ไม่ต้องยุ่งกับโรงครัว
แต่นี่เราอยู่ป่า ห่างไกลจากบ้าน ชาวบ้านก็มาจังหันไม่ไหว
เขามีอะไรเขาก็ถวาย อย่างทุกวันนี้แหละ มันก็ไม่เพียงพอกัน
ลำพังแต่ชาวบ้านถวายอาหารมา ต้องอาศัยโรงครัวเป็นส่วนใหญ่
นี่แม่ครัวนะ ไม่ใช่น้อยนะ ทำอาหาร มันง่ายเมื่อไหร่ การทำอาหาร
ต้องคิดเห็นคุณของแม่ชีให้มาก อย่าไปเกิดปฏิวัติ ปฏิพัทธ์รักใคร่เข้า
แล้วอำนาจความสนิทสนมกัน ไปทางไม่ถูกต้อง อย่างนั้นน่ะ มันใช้ไม่ได้


ต้องให้นึกทุกคนนะ ทั้งชี ทั้งพระ ทั้งเณร เรามาประพฤติพรหมจรรย์น่ะ
ต้องทำตัวเป็นคนผู้เดียว ไม่ได้มุ่งหวังว่าจะมาเป็นคนคู่ มาอยู่ในวัดวาอารามน่ะ
ถ้าต้องการอย่างนั้นไม่ต้องมาบวช เยอะแยะ ไปหาเอา
พุทธศาสนาน่ะ เป็นของสะอาด ของบริสุทธิ์ แต่มันจะบริสุทธิ์ได้ก็อยู่ที่คน
แต่คำสอนนั้นดีอยู่ แต่ถ้าคนไม่ปฏิบัติตาม คนผู้นั้นก็ไม่บริสุทธิ์


เหมือนอย่างสบู่อย่างนี้แหละ มันก็เป็นสบู่อยู่อย่างนั้นน่ะ
ถ้าคนไม่เอามันไปถูกาย มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
มันก็ทำความสะอาดแก่ร่างกายคนก็ไม่ได้ ถ้าคนไม่เอาไปถู
พระธรรมคำสอนก็เหมือนกัน ถ้าอยู่แต่ตำรับตำรา
ถ้าคนไม่เรียน ไม่จำและไม่นำเอาไปปฏิบัติตาม ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรแก่คนเลย
แต่พระธรรมก็เป็นของดีอยู่อย่างนั้นน่ะ
เหมือนอย่างทองคำธรรมชาติ แม้จะจมอยู่ในดินในหิน
มันก็รักษาคุณภาพของมันได้อยู่อย่างนั้น มีสีสดใส เลื่อมประภัสสรอยู่อย่างนั้น
แต่ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใด ต่อเมื่อขุดค้นเอาจากดินจากหิน
มาแปรรูปเป็นเครื่องประดับตกแต่งเข้าไปแล้ว มันจึงเกิดมีคุณค่าขึ้นมา
พระธรรมคำสอนก็เช่นเดียวกันนั้นแหละให้เข้าใจ


เพราะฉะนั้น เรามีศรัทธากันทุกคนแล้วจึงได้มาบวช
ดังนั้น เมื่อมีศรัทธาเช่นนี้ เราก็ตั้งใจทำจริงๆ สำรวมตนจริงๆ
อย่าไปทำเล่น มันจำเป็นอย่างที่ว่านั่นแหละ ขอให้เข้าใจ
ผู้หญิงเขาก็อยากพ้นทุกข์เหมือนกัน ไม่ใช่อยากพ้นทุกข์แต่ผู้ชาย
เห็นว่าการอยู่ครองเรือนเป็นทุกข์เหมือนกันกับผู้ชายน่ะแหละจึงได้หนีมาบวช
ถ้าเราจะไม่รับผู้หญิงอย่างนี้ มันก็เป็นการลำเอียง ไม่ยุติธรรม


อย่างนั้นต้องให้พากันเข้าใจ ให้ถือว่าเป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน
หรือว่าเป็นสหธรรมมิกด้วยกัน แปลว่าผู้ประพฤติธรรมปฏิบัติธรรมร่วมกัน
ให้เข้าใจอย่างนั้น ไม่ใช่มาเป็นคู่รักคู่แค้นกันอย่างทางโลกของเขานั้น ไม่ใช่
ทุกคนอย่าไปคิดอย่างนั้น มันผิดจุดประสงค์ของพุทธศาสนา
เราต้องพร้อมใจกันประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ด้วยดี
สำรวมจิตใจรักษาจิตของตน อย่าให้ความยินดียินร้ายเข้าครอบงำ
เจริญอสุภกรรมฐานบ่อยๆ


ธรรมดาคนหนุ่ม มันต้องเป็นอย่างนั้นแหละ คนหนุ่มรักสวยรักงาม
อันนี้เป็นสัญชาติกิเลส มันติดตัวมาตั้งแต่อเนกชาตินู่น
และเมื่อมาชาตินี้เราบุญบารมีแก่กล้า ส่งให้เราเข้ามาบวช
แล้วอย่างนี้เราก็ต้องมาพิจารณาให้เห็นโทษของกิเลสเหล่านี้ให้มันเต็มที่เลย
มันเป็นอย่างนั้น ให้เข้าใจ ให้เตือนตนเอง
ว่าตนน่ะตกเป็นทาสของกิเลส ราคะ ตัณหานี้มานับชาติไม่ถ้วนแล้ว
ตั้งแต่เป็นสัตว์เดรัจฉานโน่นแน่ะ
มาดูซิว่า สัตว์เดรัจฉานมันก็มัวเมาอยู่ในกามคุณนั่นแหละ
แต่เมื่อมันเทียวเกิดเทียวตาย นานเข้า อินทรีย์มันแก่กล้าเข้าไปมันก็เลยเกิดมาเป็นคน
เกิดมาเป็นคนก็มามัวเมาอยู่ในกามของเก่านั้นแหละ มันเป็นอย่างนั้น
ที่เทียวไปตกนรกเพราะกามคุณนี่ไม่รู้ว่ากี่ชาติกี่ภพมาแล้ว
แต่เราระลึกชาติหนหลังไม่ได้นี่แหละ


ถ้าระลึกชาติหนหลังได้ เราจะสังเวชสลดใจตัวเองเหมือนอย่างพระพุทธเจ้า
พระองค์ระลึกชาติหนหลังของพระองค์ได้
พระองค์ก็เคยไปตกนรกมาหลายชาติแล้วเหมือนกัน แต่ว่าพระโพธิสัตว์นั้นไม่ไปอเวจี
อเวจีนั้นถือว่าเป็นนรกอันร้อนจัดแล้วก็มีอายุยืนนานมาก
แต่พระโพธิสัตว์ไม่ได้ตกในอเวจีมหานรก คือตกนรกที่ตื้นขึ้นมากว่านั้น
ในตำราท่านกล่าวว่า เช่น อุสสทนรก อย่างนี้ และไม่นานก็พ้นไปได้
เพราะว่าพระโพธิสัตว์ไม่ทำอนันตริยกรรม ๕ อย่าง
ไม่ฆ่าพ่อ ไม่ฆ่าแม่ ไม่ฆ่าพระอรหันต์
ไม่ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงยังพระโลหิตห้อขึ้นไป ไม่ทำสงฆ์ให้แตกจากกัน
พระโพธิสัตว์ไม่ทำกรรมหนัก ๕ อย่างนี้
แต่คนธรรมดาสามัญไม่แน่ เมื่อลุอำนาจแห่งความโกรธขึ้นมา จนลืมตัว
อาจฆ่าพ่อฆ่าแม่เมื่อไรก็ได้ ฆ่าพระผู้ที่ท่านได้มรรคได้ผลแล้วก็มี
โดยที่ไม่รู้ว่าท่านผู้นั้นเป็นพระอรหันต์ ก็ไปฆ่าเขามาอย่างนี้
ก็ไม่พ้นจากอนันตริยกรรมนะ ไม่พ้นจากอเวจีมหานรก
ของพรรค์นี้ ถ้าไม่มี พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงแสดงไว้เลย
เพราะพระองค์เห็นแจ้งแล้ว จึงได้นำมาแสดง
นี่เราต้องเชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
เราได้ปฏิญาณตนเป็นสาวกของพระองค์แล้ว


(โปรดติดตามเนื้อหาต่อในฉบับหน้า)

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


จาก ธรรมโอวาท หลวงปู่เหรียญ ๗
ที่ระลึกงานทอดกฐินสามัคคี วัดป่าพิชัยวัฒนมงคล อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
วันอาทิตย์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๕. จัดพิมพ์โดยชมรมกัลยาณธรรม



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP