สารส่องใจ Enlightenment

ศีลธรรมสำหรับครอบครัว (ตอนที่ ๔)



พระธรรมเทศนา โดย พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน)
วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
เทศน์อบรมฆราวาส ณ กรมทหาร ร. พัน. ๓ อุดรธานี
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๑๙



ศีลธรรมสำหรับครอบครัว (ตอนที่ ๑) (คลิก)
ศีลธรรมสำหรับครอบครัว (ตอนที่ ๒) (คลิก)
ศีลธรรมสำหรับครอบครัว (ตอนที่ ๓) (คลิก)



ข้อที่ห้า สุราฯ สุราคืออะไร สุราก็คือเครื่องดองของเมา
และทำผู้ดื่มให้ลดคุณภาพแห่งความสมบูรณ์มาเป็นคนบกพร่อง
คนไม่เต็มตาเต็งตาชั่ง คนขาดบาทขาดสลึง
ดื่มมากเท่าไรยิ่งขาดบาทลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นคนบอคนบ้าได้อย่างสดๆ ร้อนๆ
เราเกิดมาพ่อแม่ไม่เคยเอาน้ำเมาคือสุราเมรัยมาให้เราดื่มเรากินมาเลี้ยงดูเรา
มีแต่ของดิบของดี ข้าวต้มขนม อาหารหวานคาวมีแต่ของดีๆ
ถ้าน้ำก็เป็นน้ำนมแม่ ดูดเลือดดูดเนื้อแม่ซึ่งมีแต่ของดีๆ บริสุทธิ์ทั้งสิ้น
เราเติบโตขึ้นมาด้วยน้ำนมของแม่ ด้วยข้าวต้มขนม
เป็นของดิบของดีมีราคามากมาย พ่อแม่นำมาเลี้ยงดูจนเป็นผู้เป็นคนขึ้นมา
เมื่อเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาจากของดิบของดีมีค่ามากแล้ว
กลับมาเอาน้ำสุรายาเมาเข้ามาเบื่อตัวเองให้มึนเมา
นี่เป็นสิ่งที่เพิ่มคุณค่ามนุษย์ให้มีศักดิ์ศรีดีเด่นที่ตรงไหน ยังมองไม่เห็น


เราลองคิดดูซิ สมมุติว่าเรานั่งอยู่ด้วยกันนี่ มีกี่คนด้วยกันนี่ ล้วนแต่คนเมาสุรา
นับตั้งแต่หลวงตาบัวลงไปเมาด้วยกันหมด นอนร่ายบ้าเกลื่อนอยู่ตามถนนหนทาง
ไปที่ไหนมีแต่คนเมาสุรา ขี้แตกเยี่ยวราดอยู่ตามถนนหนทาง
ไม่มียางอายตามมรรยาทของมนุษย์เลย ดูได้ไหมพิจารณาซิ
ถ้าหากว่าสุรามันดีจริงดังที่ชอบเสกสรรกัน คนมีสมบัติผู้ดีจะชมไหมว่า
พวกขี้เมานอนเกลื่อนกลาดขี้ราดเต็มตัวเต็มถนนหนทางอยู่เขาดีนะ
ขี้ไม่ต้องหาที่ทะลักออกเต็มผ้าก็ยังได้ คนธรรมดาทำไม่ได้ นี่เขาดีนะ อย่างนี้มีไหม
ไปที่ไหนมีแต่คนเมาสุราเต็มถนนหนทาง แล้วดูได้ไหม
มีแต่คนบ้าเต็มถนนดูได้ยังไง จะมีคนดีที่ไหนพอใจมาดูคนบ้า
เพราะมันเป็นคนบ้าด้วยกันหมดแผ่นดิน
มนุษย์เราก็หมดราคา มีแต่คนบ้าเต็มบ้านเต็มเมือง
สุรามันดียังงั้นเหรอ มันดีแต่ทำคนให้เป็นบ้าเท่านั้น สุราเองไม่ได้ดี
คนบ้าก็จะเอาความดีมาจากไหน โลกนี้ใครจะอยากมาอยู่ล่ะ
เมื่อมีแต่บ้าสุราจับจองนอนเกลื่อนอยู่หมดแล้ว


นี่ละพระพุทธเจ้าจึงห้าม ห้ามไว้อย่างนี้
เพราะไม่อยากให้คนเป็นบ้ากันทั้งบ้านทั้งเมืองทั้งแผ่นดิน
เสียจริตนิสัยที่ดีงามของมนุษย์ เสียหน้าที่การงาน
เพราะคนเมาสุราก็เหมือนคนตาย
จะทำงานอะไรได้นอกจากคุยโม้เท่านั้น ตัดทอนกำลังปัญญา
คนที่เมาสุรานี่เป็นสาเหตุให้ทำได้ทุกอย่าง
หิริโอตตัปปะ ความละอายต่อบาปต่อกรรม ต่อบุคคล ต่อที่สูงที่ต่ำไม่มี
ไปที่ไหนพูดอะไรได้หมดไม่มียางอายเพราะหมดยางอาย
พูดวันยังค่ำไม่มีจบก็คือคนเมาสุรา
พูดไม่มีจบ วกวนไปมาอยู่นั่นแลจนผู้ฟังเบื่อจะตาย
เดี๋ยวก็ลาละครับ เดี๋ยวคุยอีกไม่จบสิ้น เดี๋ยวลาละครับ ได้เวลาแล้วลาละครับ
เดี๋ยวคุยอีกอยู่อย่างนั้นวันยังค่ำ ลาละครับวันยังค่ำแต่ไม่ไปก็คือคนเมาสุรา
พูดไม่มีสถานี ไม่มีจุด ไม่มีหมายไม่มีสาระ ไม่สนใจว่าดีหรือชั่ว ถูกหรือผิด
พล่ามได้ตลอด ไม่สนใจกับเวล่ำเวลาเป็นยังไง
นี่ก็คือความเมาสุรา หาสติสตังไม่ได้ คนโง่ที่สุดก็คือคนเมาสุรา
แต่คนที่อวดฉลาดที่สุดก็คือคนเมาสุรานั่นเอง คนเมาก็คือคนบ้านั่นแหละ


น้ำนี้เขาเรียกน้ำบ้า ใครอยากเป็นคนดีจงพากันเว้น สุราไม่ใช่ของดี
เราเป็นคนดีจะเอาของชั่วของมึนเมามาเสกให้เป็นคนดีขึ้นมาได้อย่างไร
นี่อธิบายเพียงย่อๆ ให้ท่านทั้งหลายฟัง
คือ ตั้งแต่ ปาณาฯ มาถึง สุราฯ นี้เรียกว่า ศีลธรรม
เป็นธรรมประจำมนุษย์เราผู้มีคุณสมบัติ ผู้มีภูมิอันสูงที่เรียกว่ามนุษย์ฉลาด
คือฉลาดรักษาศีลรักษาธรรม ไม่ได้ฉลาดด้วยสุรายาเมามาเสกสรร
ไม่ได้ฉลาดด้วยการจองกรรมจองเวร
ไม่ได้ฉลาดเที่ยวระรานคนอื่นให้ได้รับความกระทบกระเทือนเสียหาย
นั้นเขาเรียกพาลชน ไม่ได้เรียกว่าเป็นคนฉลาด
วันนี้ได้อธิบายเรื่องศีลห้าให้ท่านทั้งหลายฟัง


และวันนี้มาแสดงใน ร. พัน. ๓ ซึ่งเป็นค่ายของทหารเรา
คำว่า ทหาร นี้หมายความกว้างขวางมาก
หลักของประเทศชาติบ้านเมืองจะตั้งอยู่ได้เพราะทหาร ทหารเป็นคนของชาติ
ชาติไว้ใจให้ทหารเป็นผู้รักษาทุกสิ่งทุกอย่าง
บำรุงบำเรอทหารด้วยความพออกพอใจ ฝากเป็นฝากตายไว้กับทหาร
เพราะฉะนั้นเราเป็นคนของชาติ เราเป็นทหารของชาติ เป็นผู้รักษาสมบัติของชาติ
จงคำนึงถึงศักดิ์ศรีของตนด้วยดี จะทำอะไรลงไปพึงคำนึงถึงศักดิ์ศรีของชาติเสมอ
เพราะชาติมีชีวิตจิตใจอยู่กับทหาร ทหารพาเป็นก็เป็น ทหารพาตายก็ตาย
ชาติบ้านเมืองถ้าไม่มีทหารรักษาแล้วก็อยู่ไม่ได้
หากทหารเป็นผู้เหลวแหลกแหวกแนวไปเสีย ชาติบ้านเมืองก็ล่มจม
ไม่มีอะไรที่จะล่มจมฉิบหายยิ่งกว่าบ้านเมือง ที่ไส้ของตัวเป็นหนอน
นี่เป็นหลักสำคัญ ให้ต่างคนต่างมีความสุจริตต่อหน้าที่
หน้าที่ของทหารทำอย่างไร มีกฎมีเกณฑ์มีวินัยเป็นเครื่องดำเนิน
ให้พึงประพฤติปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของชาติ
อย่าได้ฝ่าฝืนทำลายซึ่งเท่ากับทำลายชาติไปพร้อมๆ กัน


การปกครองกันให้คำนึงถึงหลักและกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับนำมาปกครองกัน
อย่าเอาอารมณ์มาปกครองกัน อย่าเอาอำนาจวาสนาศักดานุภาพ
ว่าเราเป็นผู้ใหญ่มีอำนาจมาก อยากทำอะไรก็ทำได้มาปกครองกัน
โดยหาหลักเกณฑ์ หาระเบียบกฎข้อบังคับไม่ได้ นั้นเป็นความผิด
ปกครองกันด้วยฐานะพ่อแม่กับลูก โดยมีกฎเกณฑ์มีระเบียบมีข้อบังคับเป็นเครื่องปกครอง
ต่างคนต่างก็ให้อภัยซึ่งกันและกัน นายทหารก็เท่ากับพ่อแม่ของทหาร
ทหารก็เท่ากับลูกๆ เท่ากับน้องๆ ลูกหลานของเรา
ผู้ปกครองต่างคนต่างปกครองในฐานะพ่อแม่กับลูก จะมีความร่มเย็นเป็นสุข


สิ่งใดที่เป็นอำนาจหน้าที่ของตน พึงทำตามหน้าที่
อย่าหลบๆ หลีกๆ อย่ามีซ่อนๆ ลับๆ อย่ามีที่แจ้งที่ลับ
ให้ทำตามหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองจริงๆ
เพราะทหารทั้งมวลก็คือลูกของชาติอันเป็นรากฐานของแผ่นดิน
สิ่งใดที่เป็นสมบัติของชาติ เราปกครองเรารักษาอยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของเรา
เช่น ร.พัน.๓ นี้มีอะไรบ้างที่เราใช้เป็นเครื่องมือของการรักษาชาติ
เช่น ปืนผาหน้าไม้ กระสุนดินดำหรืออะไร ทัพสัมภาระที่มีอยู่ในนี้เป็นสมบัติของกลาง
เราอย่านำออกไปใช้ในกิจส่วนตัว และนำออกจำหน่ายขายกิน
นั่นเป็นการขายชาติ เป็นการฆ่าชาติ เป็นการทำลายชาติ เพราะความเห็นแก่ตัว
ชาติย่อมล่มจมได้เพราะความเห็นแก่ตัวเป็นผู้ทำลาย จึงกรุณาพากันระมัดระวัง
และช่วยกันรักษาสมบัติของชาติให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงและปลอดภัย


ความเห็นแก่ตัวนั้นไปไม่รอด ถ้าชาติไปไม่ตลอดเราต้องจมไปด้วยชาติ
เราจะเห็นแก่ตัวว่าเอาตัวรอดเป็นยอดดี
การคิดเอาตัวรอดแบบนั้นแลเป็นยอดที่เลวที่สุด เป็นยอดที่จมหาทางฟื้นฟูไม่ได้
เพราะคนคนหนึ่งอยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยกันหลายคนเช่นประเทศไทยเรานี้
ทั้งประเทศมีความเกี่ยวโยงกันอยู่เหมือนตาแหตาข่าย
ตาหนึ่งขาดก็เกี่ยวเนื่องไปถึงตาแหตาข่ายทั้งหลาย ปลาก็ลอดออกไปที่นั่นได้
ถ้าดีเสียทุกตาแหตาข่ายแล้วนำไปทอดปลา ปลาก็ติด
นี่ถ้าบ้านเมืองเราต่างรักษากันไม่ให้มีช่องโหว่ที่ไหลเข้าไหลออกแห่งภัย
บ้านเมืองย่อมปลอดภัย ปราศจากภัยต่างๆ จะเข้าแทรกสิงได้
ฉะนั้นจึงให้ต่างคนต่างมีความจงรักภักดีต่อชาติ ต่างคนต่างมีความสามัคคีต่อชาติ
ต่างคนต่างมีความซื่อสัตย์สุจริตต่อชาติ ต่อหน้าที่การงานของตน
ชื่อว่าทุกคนต่างรักษาตาแหตาข่ายไว้ได้ด้วยดี


อันใดที่เป็นสมบัติของกลางอย่านำออกไปขาย เช่น นำไปขายกระสุนดินดำ
หรือปืนหรือเครื่องทัพสัมภาระต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน
ให้รักษาเป็นส่วนกลางไว้อย่างเข้มงวดกวดขัน เหมือนกับรักษาชีวิตคือชาติของตนไว้
ให้ถือเป็นข้อปฏิบัติอย่างเข้มงวดกวดขันตลอดไป
นั้นแลชื่อว่าเป็นผู้รักษาชาติ เป็นผู้รักษาศาสนาไปในตัวด้วย เป็นผู้รักษาส่วนรวมไว้
คำว่าเอาตัวรอดเป็นยอดดีนั้นเป็นไปไม่ได้
ขออย่านำมาใช้จะเป็นการทำลายตนไปในตัวนั่นแล
ถ้าชาติได้ล่มจมไปเสีย เราจะเอาตัวรอดด้วยวิธีใด
นอกจากเราต้องจมไปกับชาติเท่านั้น ชาติจมเราต้องจม ชาติอยู่ได้เราก็อยู่ได้
เมื่อเป็นเช่นนั้น เราต้องรักษาเพื่อความอยู่รอดของคนทั้งชาติ
ไม่ใช่รักษาเพื่อความอยู่รอดเฉพาะเรา
นั้นเป็นความคิดผิดของบุคคลผู้เห็นแก่ตัวมาก คิดเพื่อความร่ำรวย
แต่หารู้ไม่ว่าความคิดนั้นคือเพชฌฆาตสังหารตนและชาติให้ล่มจม


ท่านจึงสอนว่า สามัคคี ความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
เป็นความเกี่ยวโยงกันไปหมด คนในชาติรักคนในชาติ
ไม่มีใครที่จะรักยิ่งกว่าคนไทยรักคนไทย
ไม่มีใครที่จะรับผิดชอบยิ่งกว่าคนในชาติจะรับผิดชอบคนในชาติของตน
และไม่มีใครจะรับผิดชอบยิ่งกว่าเราจะรับผิดชอบในขอบเขตของเรา
ดังนั้นจงพากันตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบของตน
เพื่อความปลอดภัยไร้ทุกข์ และเพื่อความเจริญรุ่งเรืองแห่งชาติ
และเพื่อความจีรังถาวรชั่วกัลปาวสาน
และให้มีศีลธรรมเป็นเครื่องรักษาจิตใจเสมออย่าได้ประมาท


กลางค่ำกลางคืนเวลาจะหลับจะนอนก็ควรเจริญภาวนาบ้าง
กราบพระ อิติปิ โส ภควา หรือ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธฯ สามจบ
แล้วนอนภาวนา พุทโธๆ ให้หลับกับพุทโธบ้าง
จะดีกว่าหลับกับความเพลิดเพลิน ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมด้วยอารมณ์ค้างต่างๆ
ซึ่งเป็นสิ่งก่อกวนจิตใจให้เกิดความเดือดร้อนโดยหาที่สิ้นสุดยุติไม่ได้
เวลาหลับก็ไม่สนิทเพราะความนึกคิดกวนใจ
ผิดกับผู้ที่หลับด้วยบทธรรมคำภาวนาอยู่มาก


(โปรดติดตามเนื้อหาต่อในฉบับหน้า)


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


ที่มา https://bit.ly/3O1UBbm


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP