จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

บุคคลตาเดียว

งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

ในช่วงที่ผ่านมานี้ เราคงได้ทราบข่าวบรรดามิจฉาชีพที่หาเงินทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
โดยการหลอกลวงว่าจะนำเงินไปลงทุนและให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งมีอยู่มากมาย
ในกรณีนี้ เราไม่ควรจะเชื่อใครโดยง่ายครับ
โดยเราพึงเข้าใจเสียก่อนว่า การลงทุนที่จะได้เงินมาโดยง่ายนั้นไม่มีหรอกครับ
หากสามารถลงทุนและได้เงินมาโดยง่ายแล้ว ในโลกนี้ก็คงไม่มีคนยากจน
และถ้าคนที่มาชักชวนเราไปลงทุน เขามีวิธีการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงเช่นนั้นจริงแล้ว
เขาก็ย่อมสามารถจะลงทุนเอง และหาเงินไปลงทุนได้เองโดยง่าย
โดยที่ไม่ได้จำเป็นต้องมาป่าวประกาศเชิญชวนให้คนอื่นที่ไม่รู้จักไปร่วมลงทุนด้วย
ดังนั้นแล้ว ถ้าหากมีใครมาชวนเราไปลงทุนในเรื่องใด ๆ ก็ตาม
เราควรจะพิจารณาศึกษาให้ดี และพิจารณาให้รอบคอบก่อนครับ
อย่าหลงเชื่อง่าย อย่าปล่อยให้ผลตอบแทนสูงที่เขาเล่า มาหลอกเราได้
โดยหากยิ่งมีผลตอบแทนสูงเท่าไร ยิ่งควรต้องมองไว้ก่อนเลยว่า หลอกลวงแน่นอนครับ


ในบางกรณี มิจฉาชีพอาจจะไม่ได้มาชักชวนเราไปลงทุนด้วยเงินเราเอง
แต่อาจจะมาว่าจ้าง หรือชักชวนให้เราไปชักชวนคนอื่นให้ไปลงทุนด้วย
ในกรณีนี้ก็ต้องระมัดระวังอย่างมากเช่นกัน
เพราะว่าหากเราชักชวนคนอื่นไปลงทุนด้วยแล้ว
ก็ย่อมจะถือว่าเราเป็นผู้ร่วมกระทำผิดตามกฎหมายไปด้วย
(ดังที่เรา ๆ ท่าน ๆ ก็คงจะเห็นได้จากในข่าวนะครับ)
ซึ่งเราเองไม่ควรจะมองสั้น ๆ ว่า ได้เงินเยอะ และไม่น่าจะมีอะไรหรอก
เพราะว่าเวลาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว
เราก็จะทราบได้ว่าไม่คุ้มเลยด้วยประการทั้งปวง
นอกจากนี้ ก็ถือเป็นการทำบาปอกุศล ซึ่งเมื่อบาปอกุศลให้ผลแล้ว
ก็ย่อมจะเกิดโทษเสียหายร้ายแรงแก่ตนเอง


ใน “อันธสูตร” (พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต)
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแบ่งบุคคลออกเป็น ๓ จำพวก โดยทรงสอนว่า
“ภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก
๓ จำพวกเป็นไฉน คือ คนตาบอด ๑ คนตาเดียว ๑ คนสองตา ๑
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลตาบอดเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้
ไม่มีนัยน์ตาอันเป็นเหตุได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น
ไม่มีนัยน์ตาเครื่องรู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มีโทษ
รู้ธรรมที่เลวและประณีต รู้ธรรมที่มีส่วนเปรียบด้วยธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว
ภิกษุทั้งหลายนี้เรียกว่าคนตาบอด


ภิกษุทั้งหลาย บุคคลตาเดียวเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้
มีนัยน์ตาอันเป็นเหตุได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น
แต่ไม่มีนัยน์ตาเป็นเครื่องรู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มีโทษ
รู้ธรรมที่เลวและประณีต รู้ธรรมที่มีส่วนเปรียบด้วยธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว
ภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าคนตาเดียว


ภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลสองตาเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้
มีนัยน์ตาเป็นเหตุได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ทำ หรือโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น
ทั้งมีนัยน์ตาเป็นเครื่องรู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มีโทษ
รู้ธรรมที่เลวหรือประณีต รู้ธรรมที่มีส่วนเปรียบด้วยธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว
ภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าคนสองตา


โภคทรัพย์เห็นปานดั่งนั้น ย่อมไม่มีแก่คนตาบอดเลย
และคนตาบอดย่อมไม่ทำบุญอีกด้วย
โทษเคราะห์ ย่อมมีแก่คนตาบอดเสียจักษุในโลกทั้งสอง
คนตาเดียวนั้นเป็นผู้คลุกเคล้ากับธรรมและอธรรม
แสวงหาโภคทรัพย์โดยการคดโกง และการพูดเท็จ
อันเป็นส่วนแห่งความเป็นขโมยทั้งสองอย่าง
มาณพผู้บริโภคกาม ย่อมเป็นคนฉลาดที่จะรวบรวมโภคทรัพย์
เขาผู้เป็นคนตาเดียว จากโลกนี้แล้วไปนรกย่อมเดือดร้อน
คนสองตาเป็นบุคคลที่ประเสริฐสุด
คนสองตานั้น ย่อมให้ทรัพย์ที่ตนได้มาด้วยความหมั่นเป็นทาน
แต่โภคะที่ตนหาได้โดยชอบธรรม เพราะเป็นผู้มีความดำริประเสริฐสุด
มีใจไม่สงสัย ย่อมเข้าถึงฐานะอันเจริญ ซึ่งบุคคลไปถึงแล้วไม่เศร้าโศก
บุคคลควรเว้นคนตาบอด กับคนตาเดียวเสียให้ห่างไกล
แต่ควรคบคนสองตา ซึ่งเป็นบุคคลผู้ประเสริฐสุด”
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=20&A=3373&Z=3405&pagebreak=0


ดังนั้นแล้ว แม้ว่าการหลอกลวงเงินจากผู้อื่นจะได้เงินมามากก็ตาม
แต่ว่าก็ย่อมถือเป็นบุคคลตาเดียว
ซึ่งเมื่อจากโลกนี้แล้ว ย่อมไปอบายภูมิและได้รับความเดือดร้อน
เราจึงควรประพฤติตนเป็นบุคคลสองตา
และพยายามคบหากับบุคคลสองตา ก็ย่อมจะเป็นประโยชน์มากที่สุดครับ

---

แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ