ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ประกอบอาชีพด้านกฎหมายอย่างไรจึงจะได้บุญ



ถาม – ผู้ที่มีอาชีพด้านกฎหมาย เช่น ผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ฯลฯ
หากการปฏิบัติหน้าที่ทำให้เป็นโทษแก่บุคคลอื่น เช่น ถูกจำคุก ยึดทรัพย์ ประหารชีวิต ฯลฯ
จะได้รับผลกรรมจากการทำหน้าที่นั้นอย่างไรครับ



อาชีพแต่ละอาชีพของฆราวาส พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าฆราวาสเป็นทางมาแห่งธุลี
ก็แปลว่ามันง่ายที่จะมีอะไรมาแปดเปื้อน ที่มีอะไรผิด
ที่มีอะไรที่มันทำให้จิตมันอยู่กับอกุศล
แม้กระทั่งว่าจริงๆ แล้ว อย่างเป็นตำรวจ
คืออย่ามองแค่ว่าต้องไปจับผู้ร้าย ต้องทำให้คนมาติดคุก
คือผลจากการที่มีผลกระทบด้านไม่ดีกับคนบางคน
มันเป็นผลดีกับคนอีกมหาศาล

ยุคของเรา พอพูดถึงอาชีพต้องห้าม หรืออาชีพที่เป็นมลทิน อาชีพที่เป็นบาป
ชอบไปยกเอาตำรวจหรือว่าผู้พิพากษา ทนาย อะไรมา มันเป็นการบั่นทอนกำลังใจกัน
แล้วทำให้คนเหล่านั้นพอมารับรู้นะก็จะไม่อยากหันเข้ามาหาธรรมะ
เพราะว่าหันเข้ามาหาธรรมะแล้วโดนว่า
โดนบอกว่าเป็นบาป เดี๋ยวจะต้องไปรับผล อะไรอย่างโน้นอย่างนี้



จริงๆ อยากให้มองกันกว้างๆ เลยนะ
เพราะอันนี้ผมเคยทราบว่ามีบุคคลอันน่าเชื่อถือทางศาสนา
เป็นคนพูดเองเลยนะบอกว่าอาชีพที่ไม่ควรทำ ทำแล้วเป็นบาป
อย่างเช่น ตำรวจ ทนายความ ผู้พิพากษา เพราะพวกนี้ต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อน
คนบางคนต้องติดคุกหรือว่าถูกประหารอะไรแบบนี้
คือไปตั้งต้นมอง มันผิดสามัญสำนึกของคนทั่วไปนะ



อย่างตำรวจได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เพราะอะไร
สันติราษฎร์ก็คือ คนดีๆ คนทั่วไปที่มีจำนวนมากมายมหาศาลเป็นแสนเป็นล้าน
ได้ถูกพิทักษ์ ได้ถูกปกป้อง ได้ถูกอารักขานะ
หรือว่าเอาคนเข้าคุกเพื่ออะไร เพื่อที่จะให้เขาไม่ต้องมาทำกรรมทำเวรต่อ
ไม่ต้องทำบาปให้กับตัวเขาเองเพิ่ม มันก็เป็นเรื่องดี
ไม่ใช่อยู่ๆ เอาคนธรรมดาทั่วไปไปยัดคุก แบบนั้นเป็นตำรวจเลว เราไม่ได้ไปพูดถึงนะ
เราพูดถึงตำรวจดีๆ ที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ด้วยหัวใจ ด้วยจิตวิญญาณความเป็นผู้พิทักษ์ ผู้อารักขาอภิบาลคนดีจริงๆ เขาทำดี
แล้วอาชีพเหล่านี้ อย่าไปเชื่อว่าทำแล้วจะตกนรกหรือว่าทำแล้วไปอบาย



คือเวลาที่เรามีอาชีพแบบฆราวาส มันมีสองด้านทั้งนั้นแหละ
ไปว่าทำไมว่าตำรวจ หรือว่าทนายความ ผู้พิพากษา
เป็นอาชีพที่ต้องทำบาป เป็นอาชีพที่ไม่ดี มันไม่ถูกเลยนะ คือไปพูดแบบนี้
อันนี้ไม่ได้พูดถึงเจ้าของคำถามนะครับ
พูดถึงคนอื่นที่เคยได้ยินมา เป็นบุคคลอันน่าเชื่อถือด้วย
แล้วก็ไปโจมตีราวกับว่าอาชีพเหล่านี้เป็นคนบาปอะไรแบบนั้น
ไม่ถูกต้องเลยนะครับ



ทีนี้มาตอบคำถามว่าผลกรรมจะบรรเทาเบาบางอย่างไร
ดูที่เจตนา ถ้าเป็นตำรวจดี เป็นผู้พิพากษาดี
มันก็ไม่ต่างจากอาชีพอื่นที่มีสิทธิ์ทำบุญอยู่ตลอดเวลา
เหมือนหมออย่างนี้ บอกว่าหมอกับครูเป็นอาชีพที่ได้รับความยอมรับนับถือ
เป็นบุคคลอันควรเคารพ เป็นปูชนียบุคคล เป็นแม่พิมพ์ของชาติ
หรือว่าเป็นผู้รักษาที่ให้คนได้หายจากโรคภัยไข้เจ็บอะไรต่างๆ
แต่หมอบางทีถ้าตัดสินใจผิดวินิจฉัยผิด
ก็ทำให้คนจากดีๆ กลายเป็นพิการได้เหมือนกันนะ มันก็มีพลาดมา
แล้วก็ถ้าเป็นหมอดีๆ ก็จะเจ็บปวดมากชั่วชีวิต
บางคนเลิกเป็นหมอเพราะว่าทำให้เกิดภัยเกิดอันตรายกับคนไข้
แต่ถ้าหมอไม่ดีหน่อยนี่คือบางทีตั้งใจเลยนะ
เพื่อที่จะได้ค่ารักษาเยอะๆ ได้เอ็กซ์ตร้า
(extra) อะไรแบบนี้
นี่มันอยู่ที่เจตนา เห็นไหมแม้แต่อาชีพที่ถูกสังคมยกย่อง
ว่าเป็นอาชีพที่เรียกว่าประดุจนักบุญ มันก็ทำบาปได้ มันก็ประมาทได้
มันก็ได้รับผลจากความผิดพลาด เป็นความรู้สึกผิดติดตัวไปตลอดชีวิตได้เหมือนกัน


ทีนี้ถ้าเป็นผู้พิพากษา เป็นตำรวจด้วยความตั้งใจ ด้วยเจตนาว่าเราไม่ใช่มาเก็บต๋ง
ไม่ได้มาเพื่อที่จะมากินตามน้ำ ไม่ได้มาเพื่อที่จะทำบาปทำกรรมอะไรจากอาชีพนี้
แต่มาเพื่อพิทักษ์สันติราษฎร์หรือว่าอภิบาลคนดี
แล้วทำให้คนเลวๆ ไม่ต้องมาอยู่ในวาระ อยู่ในโอกาสที่เขาจะทำเลวได้ต่อ
เป็นการจำกัดบาปเขา เอาเขาไปกันไว้อยู่อีกที่หนึ่ง
ที่เขาไม่ต้องมาทำเลวกับคนดีๆ คนบริสุทธิ์
ด้วยความคิดแบบนี้ ด้วยเจตนาแบบนี้
เวลารับผลของกรรมมันก็ต้องได้รับผลของเจตนาดีนี้ก่อน
ผลคืออะไร ผลคือได้รับการรักษา ได้รับการปกป้อง
ได้รับการปกปักให้อยู่รอดปลอดภัย
ส่วนที่ว่ามันจะเป็นทั้งในทางโลกทางธรรมด้วยหรือเปล่า
ก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนที่เรามีอำนาจหน้าที่ เราใช้ไปในทางไหนบ้าง
อย่างบางคนนะเป็นตำรวจ มีบางคนอันนี้ที่รู้จักเลยนะ
คือไปดูแลสอดส่องวัดของครูบาอาจารย์
ไปดูว่ามีนักเลงหัวไม้มาทำอันธพาลอะไรแถววัดไหม
นี่อย่างนี้ใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองในการสร้างบุญสร้างกุศลอันประเสริฐ
แต่ถ้าไม่เป็นตำรวจมันก็ทำไม่ได้
มันไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะไปปกป้องหรือปกปักรักษา



เห็นไหมอาชีพ ผมขอเลยนะอย่าไปพูดว่าอาชีพไหนเป็นบาป
ยกเว้นแต่เป็นพวกโจร พวกทุจริต มิจฉาชีพอะไรแบบนั้น
แต่ที่มันยอมรับกันอยู่ในสังคมทั่วๆ ไป อย่าไปพยายามพูดบั่นทอนกำลังใจกันเลย
เพราะว่าคนพวกนั้น เขาอยากจะหนีจากศาสนาพุทธกันหมดนะ
ไปด่าเขา บอกว่าพุทธศาสนานี่ว่าเขาเป็นคนบาป แล้ววันหนึ่งเขาก็จะต้องลงนรก
ใครมันจะไปอยากฟัง ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองเขารู้ว่าเขาตั้งใจดีอยู่นะ
มีความตั้งใจดีๆ กับสังคมอย่างไรอยู่



ก็สรุปแล้วคืออาชีพนี่ไม่ต้องทำใจนะ
แต่ดูเข้ามาที่ใจตัวเองว่ามันหวังอะไร คิดอะไร ตั้งใจอะไร เจตนาอะไร
นั่นแหละคือเส้นทางกรรมบนอาชีพนั้นๆ

ถ้าหากว่าตั้งใจดีต่อสังคม มันเป็นบุญนะ
ถึงแม้ว่าจะมีมลทินอะไรแปดเปื้อนเข้ามาบ้าง ตามความจำเป็นของอาชีพ
แต่โดยหลักแล้วมันก็อยู่ในเส้นทางของบุญนั่นแหละ
เพราะว่าเราอยู่ในทิศทางตั้งใจดีแก่สังคมนะครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP