วรรณกรรมนำใจ Lite Literature

ทางยมทูต ๑๘



way cover




ชลนิล



(ต่อจากฉบับที่แล้ว)



            ตั้งแต่พบธนนท์ครั้งนั้น ขุนคีรียังไม่มีโอกาสเข้าถึงตัวเจ้าของแบล็ก มูนอีกเลย

            ข่าวเมย์ มายาวีเสียชีวิตได้ข้อสรุปว่าเกิดจากอาการหลอนยาเสพติดชนิดหนึ่ง แบล็ก มูนต้องสงสัยเป็นแหล่งค้ายา จึงถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นละเอียด

            ธนนท์โดนเรียกตัวสอบสวนเคร่งเครียด เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อสงสัยและเมื่อไม่พบหลักฐานใด ๆ อีกทั้งมีผู้ใหญ่หนุนหลังก็ได้รับการปล่อยตัวในเวลาไม่นาน แต่ยังถูกจับตาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอด

            นั่นทำให้เขาระวังตัวอย่างยิ่ง ปิดโทรศัพท์ไม่รับสายใคร เข้าออกดูแลกิจการแบบไม่เป็นเวลา รอบข้างมีบอดี้การ์ดระแวดระวังตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง คนจะเข้าพบต้องผ่านการซักถามธุระ เหตุจำเป็นจากเลขาฯก่อน

            เมื่อเข้าถึงตัวธนนท์ยุ่งยากขนาดนี้ ขุนคีรีไม่อยากใช้บารมีบิดาพร่ำเพรื่อได้แต่สงบนิ่งดูเหตุการณ์ หาจังหวะเหมาะสมอีกที

            ส่วนเรื่องดาบตำรวจพนา หลังจากฟังคำบอกเล่าจากเข้มก็คิดหาวิธี ‘สะกิด’ เจ้าตัวแบบอ้อม ๆ อยู่วันสองวัน สุดท้ายเลือกวิธีง่ายสุด นำรูปสอดซองแล้วใส่ในตู้จดหมายตอนกลางดึก

            รุ่งเช้าวิ่งออกกำลังกายตามปกติค่อยแอบสังเกต พบว่าเจ้าตัวเห็นรูป ‘คำเตือน’ แล้วนิ่งงันก่อนรีบเข้าบ้านทันที

            งานจากยมทูตหินผายังไม่ลุล่วง ปัญหาบิดาบัวบุษราเพิ่งเริ่มต้น ชายหนุ่มหาวิธีสะสางให้สมบูรณ์พร้อมไม่ได้ง่าย ๆ ทำได้แค่ปล่อยวางชั่วคราว เฝ้าดูเหตุการณ์แบบใจเย็น



            งานเก่ายังไม่เรียบร้อย งานชิ้นใหม่ก้าวเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว

            ยามบ่าย ลูกค้าข้าวแกงยายปันเริ่มซา อาหารเหลือไม่กี่อย่าง โต๊ะว่าง ขุนคีรีเก็บจานชามไปไว้หลังร้านแล้วกลับมาก้มหน้าเช็ดโต๊ะทำความสะอาดพื้นตามหน้าที่ รู้สึกกระไอร้อนอันคุ้นเคยแผ่กระทบ พอเงยหน้าต้องตะลึงงันพูดอะไรไม่ออก

            “ข้าวแกงจานนึง ราดอะไรมาก็ได้” ลูกค้าสั่งอาหารง่ายดาย

            ขุนคีรียืนมองนิ่ง ๆ ไม่กล้าปริปาก ไม่มั่นใจสิ่งที่เห็น จนยายปันอยู่หน้าตู้กับข้าวหันมาตะโกนถาม

            “ขุน...ลูกค้าสั่งอะไร”

            ตอนนั้นค่อยได้สติ กะพริบตาแรง ๆ เผื่อภาพตรงหน้าจะเลือนหาย

            “ข้าวราดแกงอะไรก็ได้จานนึง” คราวนี้ลูกค้าหันไปบอกแม่ค้าเอง

            “ได้จ้า” ยายปันตอบรับแล้วบอกลูกจ้างตัวเอง “เช็ดโต๊ะ กวาดร้านแล้วรีบไปล้างจานสิ รออะไรอยู่”

            “ครับ”

            ชายหนุ่มทำงานตามคำสั่ง ออกมาอีกครั้งลูกค้าคนเดิมยังอยู่ กับข้าวในตู้ขายหมดแล้ว ยายปันหันมาสั่งลูกน้องอีก

            “วันนี้ขายดีของหมดเร็ว เก็บถาดเก็บร้าน รอรับเงินลูกค้าให้ทีนะ เดี๋ยวจะไปเตรียมของขายตอนเย็น แล้วเข้าไปดูไอ้แก่มันหน่อย นอนอยู่ในบ้านทั้งวันไม่รู้ตายหรือยัง”

            พอยายปันกลับเข้าในบ้าน ขุนคีรีค่อยนั่งบนเก้าอี้เผชิญหน้าลูกค้ารายเดียวที่เหลือ

            “ท่าน...มาได้ยังไง แล้วทำไมมนุษย์ทั่วไปถึงมองเห็น”

            ลูกค้ารายนั้น...ยมทูตหินผา

            “เดี๋ยวช่วยจ่ายค่าข้าวให้หน่อยนะ ฉันไม่มีเงินหรอก” อีกฝ่ายพูดอีกเรื่อง

            “เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ท่านตอบคำถามผมก่อนดีกว่า”

            “จะสงสัยทำไม บัวบุษราเคยเห็นเธอในร่างมนุษย์ไปพูดคุยช่วยเจ้าเต้ หนุ่มมอเตอร์ไซค์นั่นแล้วยังไม่สงสัยเลยสักนิด”

            ขุนคีรีอึ้ง จำได้ว่าตอนนั้นหญิงสาวเข้าใจว่าเขาแปลงร่างเป็นคนได้ชั่วคราว ไม่คิดว่ายมทูตจะสามารถทำเช่นนั้นได้จริง ๆ

            “ถ้าอย่างนั้น ท่านมาที่นี่ด้วยเรื่องอะไร”

            “มีงานชิ้นใหม่ให้ทำ”

            “ผมยังพาผีสามตนออกจากหอไม่ได้เลย”

            “พวกนั้นรอมาสิบกว่าปีแล้ว รออีกหน่อยก็ได้ ส่วนรายนี้ต้องไปพาออกมาวันนี้เลย”

            “ใครครับ”

            “เมย์ มายาวี อยู่ที่คอนโด...” ยมทูตบอกชื่อดวงวิญญาณพร้อมสถานที่ไปรับตัว

            “นางแบบคนที่เป็นข่าวนี่” ชายหนุ่มพึมพำแล้วถามรายละเอียด “ให้ไปรับออกจากห้องที่เกิดเหตุอย่างเดียว...หรือต้องทำอะไรอย่างอื่นให้เธอด้วย”

            ขุนคีรีเริ่มทราบแล้วว่างานของตนไม่ง่ายดายแค่รับดวงวิญญาณมาส่งยมทูตอย่างเดียว

            “ถามวิญญาณดวงนั้นเองสิว่ายังมีอะไรค้างคาใจอยู่หรือเปล่า”

            ฟังแล้วถอนใจเฮือกใหญ่ ถ้าผีพวกนี้ ‘รู้ใจ’ ตัวเองง่าย ๆ ก็ดี จนบัดนี้เขายังไม่ทราบเลยว่า หากพาธนนท์ไปหาผีสามตนแล้ว พวกนั้นต้องการอะไรจาก ‘ต้นเพลิง’ กันแน่

            “ครับ” ไม่มีทางเลือกนอกจากรับปาก

            “อ้อ...” นัยน์ตายมทูตหินผาฉายรอยยิ้มจาง ๆ “สิ่งหนึ่งที่เธอน่าจะรู้ไว้... ‘พลังยมทูต’ จากสะเก็ดหินนิรยภูมิ นอกจากจะช่วยให้มีกลิ่นอายยมทูตติดตัว ภูตผีรับรู้เกรงกลัว เธอยังมีความสามารถพิเศษบางอย่างติดตัวเหมือนกันเช่น...หายตัว!”

            “หายตัวได้จริงหรือครับ” ย้อนถามไม่แน่ใจ

            “แค่ชั่วเวลากลั้นลมหายใจ” ยมทูตขยายความ “เหมือนอย่างฉันปรากฏตัวให้พวกมนุษย์เห็นชั่วคราวแบบนี้ไง...เธอก็หายตัวหลบเร้นสายตาผู้คนได้ครั้งละหนึ่งชั่วเวลากลั้นลมหายใจเหมือนกัน”

            “ทำยังไงครับ”

            ยมทูตหินผาจ้องตาผู้ช่วยฯ ถ่ายทอดกระแสความรับรู้แบบจิตสู่จิตโดยไม่ต้องเอ่ยวาจา พอทราบว่าอีกฝ่ายเข้าใจวิธีการแล้วค่อยพูดออกมา

            “วิธีไม่ยากสำหรับเธอ...เก็บไว้ใช้เอาตัวรอดตอนจำเป็นแล้วกัน”

            “ขอบคุณครับ”



--------------- ------------ --------------



            เมย์ มายาวีไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย ชีวิตกำลังรุ่งมีชื่อเสียงจนได้รับโอกาสเป็นนางเอกมิวสิควิดีโอศิลปินดังระดับเอเชีย งานดี ๆ กำลังไหลเข้ามากมาย ไม่มีเหตุผลใดเลยต้องตาย

            สิ่งที่ตามมากับชื่อเสียงเงินทอง คือผู้คนเข้าหามากมายทั้งชื่นชมหวังดี และมาร้ายหวังผลประโยชน์ พาให้หลงใหลเพลิดเพลินแสงสี ประมาทพลาดพลั้งจนกลายเป็นเช่นนี้

            เธอรู้จักแบล็ก มูนตั้งแต่เพิ่งเปิดใหม่ ๆ ทดลองใช้ยา V ตอนเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักระดับหนึ่ง

            พบว่าสถานบันเทิงแห่งนี้เหมือนสรวงสวรรค์ ยาที่ชื่อแสนสั้นให้ความสนุกสุดเหวี่ยงยามรื่นเริง ปล่อยกายปล่อยใจเต็มที่ อีกทั้งยังช่วยให้การแสดงเข้าถึงบทบาททุกอารมณ์ เสียแต่ว่าฤทธิ์ยาหมดเร็วเกินไป กินติดต่อกันไม่นานเกิดอาการ ‘เสพติด’ ไม่รู้ตัว

            วันเกิดเหตุเธอเพิ่งตกลงด้วยวาจารับแสดงภาพยนตร์สองเรื่อง ละครหนึ่งเรื่อง และถ่ายโฆษณาอีกสามชิ้น ดีใจนึกครึ้มอยากเสพยาพร้อมชมภาพยนตร์บีบคั้นอารมณ์ผ่านสตรีมมิ่ง...จากนั้นเธอกลายเป็นหนึ่งในตัวละคร ไม่เป็นตัวของตัวเองเลย

            พอยาหมดฤทธิ์รู้สึกตัวในอ่างเห็นน้ำเป็นสีแดงฉาน ตกใจสุดขีดพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด ทว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรง คล้ายเป็นอัมพาตขยับนิ้วมือยังไม่ได้ รู้สึกแค่เลือดกำลังไหลออกจากตัวเรื่อย ๆ เรี่ยวแรงพลังชีวิตเหือดหาย มรณภัยคืบคลานช้า ๆ

            สติที่หลงเหลือทำได้เพียงดูร่างกายกำลังตายด้วยใจหวาดหวั่น นึกเสียใจเรื่องราวมากมาย เธอยังมีโอกาสดี ๆ รออยู่ข้างหน้า เหลือสิ่งอยากทำอีกนับไม่ถ้วน ยังไม่ได้ใช้ชีวิตวัยสาวให้คุ้มค่า

            สุดท้าย...โทษตัวเอง ไม่ควรประมาทต่อชีวิตขนาดนั้นเลย

            ดวงวิญญาณเฝ้าร่างที่เสียชีวิต ร้องไห้คร่ำครวญเมื่อศพถูกนำออกไปโดยไม่อาจติดตามไปได้ คล้ายห้องและคอนโดเป็นกรงขัง ต้องรับโทษทัณฑ์จนกว่ามีการเปลี่ยนแปลง

            เมย์ยังมีเรื่องต้องสะสาง ค้างคาใจมากมาย ใจกลัดกลุ้มกังวลไม่อาจติดต่อบอกใคร กระทั่งจิตสัมผัส ‘กลิ่นกุศล’ จากมนุษย์คนหนึ่ง เธอชักจูงมายังห้องแล้วปรากฏร่างส่งข้อความสำคัญ

            ...ฉันไม่ได้ฆ่าตัวตาย...หลักฐานอยู่ในห้องนี้...

            โอกาสมีแค่ครั้งเดียว ไม่สามารถบอกข้อความอื่น มนุษย์ผู้นั้นก็จากไปไม่กลับมาอีก

            เธอต้องการความช่วยเหลือ มีข้อความต้องการบอกต่อ ‘คนสำคัญ’ เมื่อไม่มีใครสามารถติดต่อสื่อสารง่ายดายเช่นรายแรก จำเป็นต้องพยายามหาทางติดต่อมนุษย์รายอื่นให้ได้โดยเร็วที่สุด

            นี่คือสาเหตุให้ลิฟต์ทุกตัวต้องเปิดประตูชั้นนี้ ห้องข้าง ๆ ได้ยินเสียงเรียกขานร้องไห้ เสียงน้ำไหล แม่บ้านมองเห็นเงาวอบแวบพร้อมเสียงแว่วในหูอย่างต้องการขอความช่วยเหลือ

            ...น่าเสียดาย ไม่มีมนุษย์คนใดเข้าใจ...

            จนกระทั่งวันนี้...ประตูห้องเปิดอ้า กระไอร้อนผะผ่าวแผ่มากระทบ ความหวั่นกลัวลึก ๆ ปรากฏในใจ เมย์ทราบว่าผู้ก้าวเข้ามามีลักษณะเหมือนมนุษย์ธรรมดาทั่วไป ทว่ากลิ่นอาย...เปลวร้อนบาง ๆ แฝงอยู่นั้นค้านว่าไม่น่าใช่

            นั่นคือกลิ่นอายยมทูต!

            หรือว่า...เธอต้องลงนรกไปพบท่านพญามัจจุราชแล้ว

            ไม่นะ...ฉันยังไม่อยากไปไหน มีธุระสำคัญต้องทำ...อย่าเพิ่งเอาตัวลงนรกเลย

            เสียงคร่ำครวญในใจไม่อาจหยุดยั้งร่างสูงผู้ก้าวมายืนกลางห้อง ดวงตาคมกริบแลตรงมาอย่างมั่นใจว่าเธอหลบอยู่จุดไหน

            ...ยมทูตมาแล้วจริง ๆ...











บทที่ ๑๑



            ‘พลังยมทูต’ มีประโยชน์ต่อขุนคีรี อย่างน้อยทำให้มายืนกลางห้องที่เกิดเหตุโดยปราศจากสายตาผู้พบเห็น อีกทั้งยังทราบว่าดวงวิญญาณซ่อนอยู่จุดใด

            “เมย์ มายาวี” เรียกเบา ๆ สายตาจ้องยังมุมห้องหลังผ้าม่าน

            วิญญาณเพิ่งเสียชีวิตยังติดนิสัยตอนเป็นมนุษย์ คิดว่าซ่อนหลังผ้าม่าน มีสิ่งปิดบังตนแล้วจะไม่มีผู้ใดพบเห็น

            ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น กระแสดึงดูดจากสายตารวมทั้งกลิ่นอายยมทูต ทำให้หวาดกลัวยอมปรากฏตัวไม่มีทางเลี่ยง

            “อย่าเพิ่งเอาตัวฉันไปได้มั้ย” วิญญาณดวงนั้นรีบร้องขอ

            “ผมมีหน้าที่แค่พาคุณไปพบยมทูตหินผา เจอเขาแล้วค่อยคุยกันเองแล้วกัน” ขุนคีรีตัดบทอยากทำงานให้เสร็จเร็ว ๆ

            “ฉันมีเรื่องต้องทำก่อนจะไปไหนได้...นะคะ...คุณยมทูต...ขอเวลานิดเดียว”

            “คุณไม่มีเวลาเหลือแล้ว...มันหมดลงตั้งแต่ตอนที่ตายนั่นแหละ” ชายหนุ่มไม่คิดว่าตนจะเริ่มพูดจาคล้ายผู้มาจากนรกมากขึ้น

            “มันเป็นเรื่องสำคัญ ฉันต้องช่วย ‘จอห์น’ ให้รอดก่อนถึงจะไปได้อย่างสบายใจ”

            ขุนคีรีถอนใจเฮือกใหญ่ คาดแล้วไม่ผิด ยมทูตหินผาไม่ให้ทำงานง่าย ๆ แน่

            “ลองบอกมาสิ คุณจะช่วยคนรักตัวเองยังไง”

            วิญญาณดวงนั้นค่อยมีรอยยิ้มความหวัง เอ่ยปากบอกสิ่งต้องการกระทำ...เธอพยายามขอความช่วยเหลือจากมนุษย์หลายคนแล้วแต่ไม่สามารถสื่อสารกันได้

            ช่วงเวลานั้นเกิดเสียงดังก๊อกแก๊กไม้เท้ากระทบพื้น อาคันตุกะไม่ได้รับเชิญกำลังก้าวเข้ามา

            ขุนคีรีหันไปทางประตูห้อง พบบัวบุษราเปิดประตูออกกว้างโดยมีพี่สาวตามมาไม่ห่าง และผู้หญิงแปลกหน้าอีกคนยืนรอหน้าห้อง

            บัวบุษรามองไม่เห็นไม่มีปัญหา พี่สาวเธอตาไม่บอดย่อมเจอผู้อยู่ในห้องจัง ๆ ยากอธิบายแก้ตัว!



--------------- ------------ --------------



            เพียงแค่สัมผัสบานประตู กระไอเย็นแผ่กระทบ แฝงคลื่นความร้อนจาง ๆ แสดงให้รู้ว่าภายในไม่ว่างเปล่า อาจมีสองบุคคลอยู่ข้างใน

            บัวบุษรารับอนุญาตให้ยืนอุทิศส่วนกุศลตรงหน้าห้อง เมื่อมือสัมผัสบานประตู ใจต้องการเปิดมันออก มีกระแสเรียกร้องเชิญชวนจากด้านใน

            เลื่อนมือลงมาตรงบานจับ แล้วเปิดออกง่ายดายราวกับมีใครเตรียมให้ล่วงหน้า

            “บัว ไหนบอกว่าจะยืนแค่หน้าประตูไง” พรไพลินดุทันที

            “ขอเข้าไปนิดเดียวเอง แถวนี้ไม่มีใครเห็นหรอกพี่พร”

            “อย่าเข้าไปเลย เดี๋ยวไปทำหลักฐานที่เกิดเหตุเสียหาย”

            “เอ่อ...ไม่หรอกมั้ง” หญิงสาวพยายามหาเหตุผลค้าน โชคดีมีผู้ช่วยขอร้องแทน

            “ให้น้องบัวเข้าไปเถอะค่ะ ตำรวจเก็บหลักฐานเกลี้ยงห้องแล้ว เดี๋ยวเหมยดูต้นทางให้...ไม่ต้องกลัวใครเห็นหรอก คนแถวนี้กลัวผีน้องเมย์จะตาย”

            ‘แฟนตำรวจ’ เชียร์ขนาดนี้ พรไพลินหมดวาจาคัดค้าน คนอื่นกลัวผีแทบตาย น้องสาวเธอกลับอยากเข้าไปหาผีเสียอย่างนั้น

            บานประตูเปิดกว้าง ภายในโล่งว่างวังเวง บัวบุษราปลอดโปร่งเบากลางอก นัยน์ตามองไม่เห็นสิ่งใด สัมผัสภายในแสดงภาพ ‘เจ้าของห้อง’ และอาคันตุกะผู้มาก่อนเป็นนิมิตชัดเจน

            ผู้ช่วยยมทูตขุนคีรี กับเมย์ มายาวี

            “มาถึงนี่ก็พอแล้ว รีบอุทิศส่วนกุศลเร็ว ๆ จะได้ออกไปเสียที” พรไพลินยืนข้างน้องสาว รู้สึกหนาวแปลก ๆ

            “พี่พรออกไปก่อนก็ได้ เค้าขออยู่คนเดียวแป๊บนึง”

            “เรานี่ไม่กลัวอะไรเลยหรือไง ห้องโล่งวังเวงขนาดนี้ยังกล้าอยู่คนเดียวอีก”

            “ในนี้ไม่มีใครเลยหรือคะ” อดถามไม่ได้

            “นอกจากพี่กับเราแล้วยังจะมีใครอีกล่ะ ห้องโล่งแบบนี้ขโมยขโจรซ่อนตัวไม่ได้หรอก”

            บัวบุษราอมยิ้ม ภาพในหัวชัดเจนว่าผู้ช่วยยมทูตกับเจ้าของห้องอยู่ห่างแค่สองสามก้าว จึงพยายามรีบไล่พี่สาว

            “ถ้าไม่มีคนร้ายที่ไหนพี่พรไม่ต้องห่วงเค้าหรอก ไปก่อนเถอะแค่แป๊บเดียวเค้าก็ตามออกไปแล้วล่ะ”

            พรไพลินถอนใจเฮือกใหญ่ยอมทำตามคำขอ ระอากับความดื้อดึงน้องสาว อีกทั้งในใจยามนี้เกิดอาการพรั่นลึก ๆ ต้นคอหนาววูบ คล้ายเจ้าของห้องขับไล่ไม่ต้อนรับ

            พอแน่ใจว่าพี่สาวออกจากห้อง บัวบุษราเอ่ยปากเบา ๆ ยืนยันภาพในหัวตน

            “คุณผู้ช่วยอยู่ที่นี่ด้วยใช่มั้ยคะ”

            ผู้ช่วยยมทูตพยักหน้า เดินเข้ามาใกล้ กระซิบข้างหู

            “พี่สาวเธอพูดถูกนะ จะอุทิศส่วนกุศลให้เขาก็รีบทำเร็ว ๆ ผมต้องพาวิญญาณดวงนี้ไปทำธุระเหมือนกัน”

            “ค่ะ” ตอบรับพร้อมผลิรอยยิ้มยินดี



            พรไพลินออกมายืนนอกห้องกับเหมยลี่ไม่นาน บัวบุษราก็เสร็จธุระ เปิดประตูกว้างกว่าปกติ กระแสลมวูบใหญ่พัดนำหน้าจนคนยืนรอหนาวยะเยือก เคาะไม้เท้าก๊อกแก๊กตามมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข

            “คนอื่นเข้าห้องผีสิงมีแต่ตกใจหน้าซีด น้องสาวฉันกลับยิ้มดีใจยังกับเจอแฟนงั้นแหละ”

            พี่สาวอดเหน็บแนมไม่ได้

            “ห้องนี้ไม่มีผีสิงแล้วค่ะ” คนเพิ่งออกมาพูดง่าย ๆ

            “เอ๋...น้องบัวว่าอะไรนะคะ” เหมยลี่แปลกใจ

            บัวบุษราไม่ขยายความวาจา บางเรื่องเป็นสิ่งรู้เฉพาะตน บอกไปไม่มีใครเชื่อ

            เธอมั่นใจ นับจากวันนี้ห้องพักบริเวณใกล้เคียงจะไม่ได้ยินเสียงเรียกแปลก ๆ ไม่มีเสียงน้ำไหลกลางดึก ลิฟต์ทุกตัวจะไม่เปิดชั้นนี้โดยไม่มีใครกด และแม่บ้านเดินผ่านจะไม่เห็นเงาวอบแวบ ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบ สายตาประหลาดมองมาจากมุมมืดอีกเลย

            เพราะ ‘เธอ’ จากไปแล้ว



--------------- ------------ --------------



            ‘จอห์น’ พยายามหาทางหนีแต่ประตูทุกบานปิดสนิท จิตใจดิ้นรนพลุ่งพล่านเหมือนหนูติดจั่น ต่อให้ได้รับการปล่อยตัวพ้นข้อสงสัย เนื่องจากไม่มีหลักฐานพยานว่าตนเป็นผู้เสพ ผู้ขายยา V ไม่เกี่ยวข้องการตายคนรัก ตำรวจก็ไม่ปักใจเชื่อคำให้การร้อยเปอร์เซ็นต์

            เขารู้จักเมย์ มายาวีครั้งแรกที่แบล็ก มูน แล้วสานสัมพันธ์จนถึงขั้นคบหาดูใจกันเกือบปี คอยช่วยเหลือสนับสนุนด้านการงานจนเธอเริ่มมีชื่อเสียงทีละน้อย กระทั่งโด่งดังจากมิวสิควิดีโอเพลง Shadow

            เรื่องที่ไม่บอกตำรวจและยังไม่มีหลักฐานมัดตัวคือ เขาเป็นหนึ่งในทีมเอเย่นต์ส่งสินค้ายา V ชวนคนรักทดลองใช้ยาเพื่อผลในการแสดง การทำงาน ไม่คิดว่าเธอจะเสพติดถึงขั้นประสาทหลอนกรีดข้อมือฆ่าตัวตายแบบนั้น

            เขารู้สึกผิด อยากสารภาพความจริงกับตำรวจ แต่ธนนท์ เจ้าของแบล็ก มูน แหล่งปล่อยยา V สั่งห้ามเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะโดนฆ่าตัดตอนทันที

            จอห์นทราบว่ายาเสพติดชนิดนี้มีสายการผลิต การขนส่ง การขายเกี่ยวเนื่องกับเจ้าพ่อค้ายาคนสำคัญ หากจุดใดมีช่องโหว่รูรั้วให้ตำรวจสืบสาว ขบวนการทั้งหมดจะถูกลากออกมาในคราวเดียว

            เมื่อหลักฐานพยานถูกเก็บกวาดเรียบร้อยก่อนตำรวจตรวจค้น ตนเองจึงรอดพ้นคดี

            ตำรวจทำอะไรตอนนี้ไม่ได้ก็จริง ‘ผู้ใหญ่’ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไม่มีทางปล่อยเบี้ยตัวเล็กอย่างเขาเป็นจุดอ่อนช่องโหว่เนิ่นนาน เชื่อว่าชั่วโมงใดที่ตำรวจเผลอละสายตา เมื่อนั้นจอห์นคงสาบสูญหาศพไม่เจอแน่นอน

            ตั้งแต่เข้าวงการสีเทาเขาเตรียมตัวรับสถานการณ์นี้อยู่แล้ว แผนการหนีถูกวางไว้เผื่อเหตุฉุกเฉิน บัญชีเงินฝากต่างประเทศ พาสปอร์ต หลักฐานปลอมแปลงตัวตนถูกเตรียมไว้ พร้อมเงินสดอีกก้อนใหญ่ น่าเสียดายกุญแจตู้เซฟธนาคาร รหัสผ่านฝากไว้กับเมย์ มายาวี เพื่อไม่ให้ผู้เป็นนายระแคะระคายสงสัย กระทั่งเขายังไม่รู้ว่าเธอซ่อนกุญแจเซฟกับรหัสผ่านไว้ที่ไหน

            นั่นคือข้อผิดพลาดไม่อาจให้อภัย!

            ห้องพักเธอถูกตรวจค้นละเอียด พบแค่ยาเสพติดซุกซ่อน ไม่พบกุญแจเซฟธนาคาร รหัสผ่านใด ๆ

            จอห์นไม่กล้าทำอะไรโจ่งแจ้งเพราะอยู่ในสายตาตำรวจและมาเฟีย ต่อให้ตำรวจยังไม่มีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศ เขาก็เดินทางลำบากเพราะเงินส่วนใหญ่อยู่ในบัญชีซุกซ่อน เอกสารสำคัญอยู่ในตู้เซฟธนาคาร หนีไปไม่อาจซ่อนตัวเนิ่นนานอยู่ดี

            สุดท้ายได้แต่นอนกังวล สมองดิ้นพล่านหาทางเอาตัวรอดในห้องพักลับส่วนตัว



            ไม่ทราบเวลาเท่าใด ร่างบนเตียงนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ เริ่มหนาวยะเยือก ความเย็นผิดปกติไม่ได้เกิดจากเครื่องปรับอากาศทำงานผิดพลาด

            ประตูห้องเปิดออกเชื่องช้า ไอขาว ๆ เย็นจัดไหลเข้ามาราวกับอยู่ขั้วโลก จอห์นไม่สามารถขยับตัว ทั้งร่างนิ่งค้างเหมือนถูกผีอำ สายตามองเห็นหญิงสาวเดินเข้าห้องด้วยลักษณะลอย ๆ เท้าไม่ติดพื้น

            “เมย์...”

            เขาร้องเรียกเธอในใจ ค่อยขยับปลายนิ้ว แข้งขาทีละน้อย เธอ ‘ลอย’ มาใกล้เตียงแล้วหยุดตรงด้านข้าง สายตามองมาเปี่ยมด้วยความรักอาวรณ์

            “จอห์น”

            คำเรียกขานปลุกสติให้ตื่น ขยับตัวลุกขึ้นนั่งห้อยขา พยายามเอื้อมมือโอบกอด เธอกลับถอยห่างสีหน้าหดหู่

            “อย่า...ตอนนี้เมย์ไม่เหมือนเดิมแล้ว”

            ชายหนุ่มชะงัก...ระลึกได้ว่าเธออยู่สภาวะใด ไม่มีความหวาดกลัวบังเกิดในใจ มีแค่ความรู้สึกผิด เสียใจรุนแรง

            “ขอโทษจริง ๆ ผมเป็นต้นเหตุให้คุณตาย...ผมไม่น่าให้คุณใช้ยาบ้า ๆ นั่นเลย”

            “ช่างมันเถอะค่ะ เรื่องผ่านไปแล้ว...เมย์เต็มใจลองเอง คิดว่ามันเป็นของดี ช่วยให้สนุกสนานตอนเที่ยวด้วยกัน ช่วยให้เมย์เป็นนักแสดงเข้าถึงทุกบทบาทอย่างไม่มีใครทำได้...”

            “ผมน่าจะห้าม...ตอนคุณถลำใช้มันเกินความจำเป็น...ถ้าย้อนเวลาได้พวกเราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับแบล็ก มูนตั้งแต่แรก...”

            “อย่าลืมสิคะ...เราเจอกันที่แบล็ก มูนนะ”

            คำพูดอ่อนเบา ซ่อนรอยหวานปนขมขื่นยิ่งบีบคั้นหัวใจเกินกว่าจะเอ่ยคำใดออกมา

            “นี่ผมอยู่ในฝันใช่มั้ย” จอห์นพูดเมื่อรู้สึกตนเองกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น

            “ค่ะ...เมย์มาลาคุณ...และ...มีบางอย่างมาฝาก” พูดพลางชี้มือทางโต๊ะข้างหัวเตียง

            ชายหนุ่มมองตามมือนั้น พบกล่องเล็ก ๆ ใบหนึ่ง ขยับจะถามว่าในนั้นมีสิ่งใด หญิงสาวส่งรอยยิ้มเศร้าสร้อยเสียก่อน

            “หมดเวลาต้องไปแล้ว เมย์รักจอห์นนะ...”

            “ผมก็รักคุณ...เมย์”

            วาจาทิ้งท้ายราวสายลมอบอุ่นแทรกขึ้นท่ามกลางบรรยากาศหนาวเหน็บ ภายในห้องคลายความยะเยือก กระไอเย็นจางหายพร้อมกับชายหนุ่มรู้สึกตัวลืมตาตื่น

            มันไม่ใช่ความฝัน!

            จอห์นยืนยันกับตัวเองเมื่อเหลือบเห็นกล่องเล็ก ๆ นั้นยังอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง มือเอื้อมไปหยิบแล้วเปิดออกมาดูก่อนเบิกตากว้างไม่อยากเชื่อ

            กุญแจเซฟธนาคารและรหัสผ่านอยู่ในนั้น



(โปรดติดตามต่อฉบับหน้า)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP