จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

ฉีดวัคซีนให้ได้บุญ

งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

ในช่วงนี้ประเทศไทยก็ยังอยู่ในการของการระบาดเชื้อไวรัส Covid-19 ระลอกที่ ๓
ซึ่ง ณ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา ได้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุด
ถึง ๙,๖๓๕ ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อทั่วไป ๒,๗๘๒ ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ ๖,๘๕๓ ราย
และก็ยังมีคลัสเตอร์กระจายเชื้อไวรัส Covid-19 เกิดขึ้นอีกหลายแห่ง
ดังนั้นแล้ว สถานการณ์ระบาดในระลอกนี้จึงยังดำเนินต่อไปและไม่ได้จบลงโดยเร็ว


ในสถานการณ์เช่นนี้ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา
คณบดีของคณะแพทยศาสตร์ ๓ สถาบัน ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ได้ร่วมกันแถลงว่าการฉีดวัคซีนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส Covid-19 นี้
และแนะนำให้ประชาชนได้ร่วมกันฉีดวัคซีน เพื่อจะช่วยลดอัตราการติดเชื้อ
และช่วยลดภาระงานของแพทย์ ที่ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยกำลังจะเกินกำลังรองรับแล้ว
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/937306
https://www.thaipost.net/main/detail/102580


ในเรื่องการฉีดวัคซีนนี้ รัฐบาลได้ขอความร่วมมือจากประชาชน
และได้รณรงค์ให้ประชาชนได้เข้ารับการฉีดวัคซีน
โดยท่านนายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ
ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดแผนการกระจายวัคซีนใน ๓ ช่องทาง ได้แก่
ช่องทางแรกคือ ผ่านระบบหมอพร้อม
ช่องทางที่สอง คือลงทะเบียนที่จุดบริการฉีดวัคซีน (On-site Registration)
สำหรับในกรณีที่มีวัคซีนสนับสนุนเพียงพอ ณ จุดบริการนั้น
และช่องทางที่สาม คือการกระจายวัคซีนเชิงยุทธศาสตร์
กล่าวคือการจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับ กลุ่มเฉพาะ คือประชาชนกลุ่มเฉพาะเสี่ยง
กลุ่มที่มีความจำเป็นพิเศษ หรือมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ
และการดำเนินชีวิตของประชาชน เช่น บุคลากรทางการแพทย์
บุคลากรด่านหน้า อสม. ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ พนักงานด้านการบิน
ครู อาจารย์ ผู้ขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์สาธารณะ
พนักงานรถไฟและรถไฟฟ้า พนักงานในโรงแรม เป็นต้น
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/938713


ดังนี้แล้ว การช่วยกันไปฉีดวัคซีนจึงเป็นวิธีการที่เหล่าบรรดาแพทย์แนะนำว่า
เป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้ประเทศไทยผ่านวิกฤติการณ์นี้ไปได้
แต่เราก็คงได้เห็นข่าวปลอม (Fake News) จำนวนมาก
ที่พยายามโจมตีความน่าเชื่อถือของวัคซีนและการฉีดวัคซีนนี้เช่นกัน
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000045814


ในเวลานี้ บางท่านที่ต้องการจะช่วยไปรับการฉีดวัคซีน
แต่อาจจะไม่ค่อยสบายใจ หรือกังวลในเรื่องความเสี่ยงวัคซีนก็ตาม
เราพึงทราบว่าข้อมูลทั่วโลก และในประเทศไทยนั้นสอดคล้องตรงกันว่า
ความเสี่ยงจากวัคซีนมีต่ำมาก และต่ำกว่าความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสมาก
ดังนั้นแล้ว เราก็ควรจะช่วยกันไปฉีดวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน
โดยหากเราแต่ละคนมัวแต่กลัววัคซีนมากกว่ากลัวเชื้อไวรัสแล้ว
(ในขณะที่ข้อมูลทั่วโลกชัดเจนมากว่าไวรัสอันตรายกว่าวัคซีน)
ก็ย่อมจะทำให้การแก้ไขปัญหาการระบาดเชื้อไวรัส Covid-19 ไม่ประสบผลสำเร็จ
และก็ย่อมจะมีการแพร่กระจายเชื้อไวรัส Covid-19 กันต่อไป


ในเรื่องนี้ การที่เราไปรับการฉีดวัคซีน เราก็สามารถได้บุญด้วยนะครับ
โดยเราพึงระลึกว่า เราไปฉีดวัคซีนนี้ เพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่น และส่วนรวม
เราฉีดวัคซีนเพื่อไม่ให้เราติดเชื้อและไปแพร่แก่คนในครอบครัว และคนอื่น ๆ
เราฉีดวัคซีนเพื่อไม่ให้เราป่วยอาการหนักเป็นภาระแก่แพทย์ เป็นต้น
ยิ่งหากเรารู้สึกว่า เรากลัววัคซีนมาก หรือกลัวผลข้างเคียงจากวัคซีนมาก
แต่เรายอมเสียสละตนเองไปรับการฉีดวัคซีน
โดยระลึกว่า เราทำเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น และส่วนรวม
การฉีดวัคซีนของเรานั้นก็ย่อมถือเป็นการเสียสละช่วยเหลือผู้อื่น และได้บุญกุศลครับ

---

แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ