ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer
คนที่ทำบาปมามากจะสามารถเปลี่ยนแปลงจากร้ายเป็นดีได้ไหม
ถาม - ในหนังสือของคุณดังตฤณเคยเขียนคำว่า
“วิญญาณมีรูปร้ายเป็นทุกข์กระสับกระส่ายอย่างยากที่จะเปลี่ยนแปลง
และกรรมจะรักษาเส้นทางเดิมไว้ด้วยความเคยชิน”
แบบนี้เราจะรู้อย่างไรว่าวิญญาณนั้นเป็นรูปร้ายมากหรือน้อย
และเส้นทางของคนคนนั้นจะสามารถเปลี่ยนแปลงจากร้ายเป็นดีได้หรือไม่คะ
อย่างนี้นะ พระพุทธเจ้าตรัสว่าอรุณรุ่งของกุศล อรุณรุ่งของธรรมะ
ก็คือการได้พบกับกัลยาณมิตร
กัลยาณมิตรในพระพุทธศาสนา
ก็มุ่งหมายสำคัญไปที่องค์พระศาสดาเอง ผู้ประกาศธรรมะที่ถูกต้อง
ที่เป็นความสว่าง ที่เป็นกติกาของธรรมชาติ กฎของกรรมวิบาก
คืออันนี้ต้องเข้าใจให้มันเป็นไปในทางกุศลนะ
ถ้าพระพุทธเจ้าไม่ได้ประกาศตัวเองไว้อย่างนี้ก็จะไม่มีใครประกาศให้นะ
เพราะพระองค์รู้ของพระองค์เองอยู่พระองค์เดียวว่าท่านตรัสรู้อะไรบ้าง
ก็จำเป็นต้องประกาศ
เมื่อท่านประกาศว่าการเป็นกัลยาณมิตร
หมายถึงการที่ท่านได้ชี้ทางถูกทางตรงไว้
เราก็สามารถสำคัญมั่นหมายได้ว่า
ถ้าหากเมื่อไหร่ ชาติใดที่เราพบพระพุทธศาสนา
นั่นคือโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุด
ในการเดินทางอันเป็นอนันตชาติในสังสารวัฏนี้นะครับ
เพราะว่าอะไรเพราะว่าเมื่อคนเราได้แรงบันดาลใจจากธรรมะที่มีความสว่างจัดจ้า
เมื่อคนเรามีความรู้สึกว่า เออ มันมีสิ่งที่ดีกว่าชีวิตของเรา
มันมีสิ่งที่ใหญ่กว่าชีวิตของเราอยู่
แล้วเราสามารถที่จะยอมทิ้งชีวิตแบบเดิมๆ เปลี่ยนเส้นทางมาสู่ชีวิตอีกแบบได้
นั่นแหละคือโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลง
ถ้าหากว่าไปพูดถึงเอาเฉพาะที่ผมเคยเขียนไว้
เอาง่ายๆ เลยนะ พูดอย่างนี้ก่อนก็แล้วกัน
คนที่สนใจพุทธศาสนาได้ อย่างนั้นไม่มีทางร้ายเกิน
อย่างนั้นไม่มีใครหรอกที่พอกบาปมาจนเกินกว่าจะแก้
คนที่สนใจพุทธศาสนาหรือว่าสามารถคลิกกับคำสอนใดคำสอนหนึ่งของพุทธศาสนาได้
ไม่ว่าจะได้ยินคำสอนหรือว่าหลักการทางพุทธมาจากใครก็ตาม
หรืออยู่ในช่วงไหนของชีวิตก็ตาม
ขอให้ทราบไว้เลยว่าคุณมีบุญมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
คุณไม่ได้พอกบาปมาหนาเกินกว่าที่จะแก้ไข
นี่อันนี้พูดอย่างนี้ไว้ก่อนนะ
ส่วนคนที่จิตวิญญาณยากจะคลิกกับธรรมะในพุทธศาสนา
อันนั้นในทางศาสนาเราเรียกว่าเป็นนิยตมิจฉาทิฏฐิ
คือมีความแน่นอน มีความมั่นคงมากๆ ที่จะเข้าใจพุทธศาสนาในทางร้ายไว้ก่อน
อย่างพวกที่ทำบาปไว้มากๆ
ประกาศศาสนาของตนไม่พอนะ มาเหยียบย่ำศาสนาคนอื่น
แล้วก็เอาพระพุทธเจ้ามาบิดเบือนทำให้เกิดความเข้าใจพระองค์ท่านผิดๆ
หรือว่าจะมีการใส่ร้ายนะ
บอกว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าจะนำไป บางทีมีเลยนะ มีอย่างนี้เลยนะ
บอกถ้ากราบไหว้พระพุทธเจ้านี่ไปนรกแน่ อะไรแบบนี้
เอาเรื่องไม่จริงมาขู่ เอาความคิดของตัวเองมาใส่เข้าไป
พวกนี้โอกาสที่จะเจอพุทธศาสนา หรือศาสนาที่มีเหตุมีผล
หรือศาสนาที่กล่าวถึงกรรมวิบาก
โอกาสที่จะเข้ามาได้นี่ไม่มีเลย บอกอย่างนี้เลยก็แล้วกันว่าไม่มีเลย
แล้วมันจะสืบเนื่องเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ไปเรื่อยๆ นะ
คือพอปักหลักที่จะเผยแพร่มิจฉาทิฏฐิแห่งตนไปแล้ว
ทำอยู่ทั้งชีวิตแล้ว มันจะเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ไป
เกิดใหม่ก็จะไปเกิดในตระกูลมิจฉาทิฏฐิ
พอต้องใช้กรรมในนรกเสร็จนะ ไปเป็นเปรต ไปเป็นอะไร
ขึ้นมาเป็นมนุษย์แล้วก็จะมีผู้นำทางมีครูที่เป็นมิจฉาทิฏฐิอีก
แล้วก็ร่วมครึกครื้นกันเฮฮากันในเรื่องของการทำบาปทำกรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเหยียบย่ำ
ความศรัทธาที่ถูกต้องที่ตรงทางสวรรค์นิพพานนี่นะ
จะชอบมากจะเป็นของโปรด จะรู้สึกเป็นขนมเลย
มันจะมีความรู้สึกคลิกเลย มันเชื่อมต่อกับตัวเองได้ว่านี่อย่างนี้เราชอบ
ถ้าจะไปด่าว่า ถ้าจะไปใส่ร้าย
ถ้าจะไปทำให้คนที่เขาดูดีมีความสะอาดได้แปดเปื้อนนี่จะชอบมากเลย
แล้วลักษณะของวิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นด้วยกรรมประเภทนี้ ด้วยบาปประเภทนี้
ก็จะออกแนวเหมือนกับปีศาจที่เราเห็นในหนังนะ
มีเขี้ยว มีเขา มีอะไรที่มันน่ากลัวมากๆ
ความกระสับกระส่ายที่ยากจะเปลี่ยนแปลงแบบนี้แหละ
ที่ผมหมายถึง ที่น่าจะเคยพูดถึงไว้ในหนังสือนะ
คนพวกนี้ถ้าจะเปลี่ยน มันมีทางเดียว
คือคนที่เขายึดถือเป็นหลักหรือว่าเป็นครู เป็นบรมครูของเขา
เกิดการเปลี่ยนใจแล้วก็ค่อยๆ หันเห มันไม่มีทางนะที่จะแก้ได้ในชาติเดียว
มันค่อยๆ หันเห ค่อยๆ สั่งสมความดี ค่อยๆ ทำความเข้าใจอย่างเป็นเหตุเป็นผล
เกี่ยวกับเรื่องของการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วนะครับ
< Prev | Next > |
---|