ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer
การได้พบครูที่ดีหรือได้ทำบุญกับพระอรหันต์เกิดจากกรรมดีใด
ถาม – การมีโอกาสได้พบครูดีหรือได้ทำบุญกับพระอรหันต์อย่างไม่คาดฝัน
เกิดจากความบังเอิญหรือเป็นเพราะกรรมดีที่เคยสร้างมาแต่หนหลังคะ
อันนี้พระพุทธเจ้าก็เคยตรัสไว้นะครับ การที่เราได้ครูดีไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะ
ต้องเคยมีการยอมรับนับถือ แล้วก็มีศรัทธาในสายทางแบบนั้นๆ มาก่อน
หรือไม่ก็เคยมีความผูกพันกับครูดีที่ว่านี้มาก่อนนะครับ
การผูกสัมพันธ์ การผูกพันกับครูดี
หลักการก็คือว่าท่านสั่งสอนอะไรมา เราพิจารณาโดยดีแล้วก็เชื่อตามนะ
หัวอ่อนให้กับความดี หัวแข็งให้กับความชั่ว
แล้วตัวที่จะเป็นเครื่องวัดว่าเราเจริญรอยตามครูแบบไหนนะ
ก็คือเราฟังคำสอนแล้ว เรายอมรับนับถือในตัวท่านแล้ว
เราปฏิบัติตามท่านแค่ไหน
คือบางคนบอกว่า ฉันเป็นลูกศิษย์คนโน้นคนนี้นะ แต่ไม่ปฏิบัติตามเลย
คืออยากได้ชื่อแค่ว่าเป็นลูกศิษย์ของครูดัง
หรือว่าไปคุยกันจะได้ไม่ตกเทรนด์ (trend) กับเพื่อนๆ
บอกว่า เออ ฉันก็ฟังอยู่เหมือนกัน ฉันก็อ่านอยู่เหมือนกัน
หรือว่าฉันเคยไปพบท่านมาแล้ว อะไรต่างๆ นี่นะ
เป็นเหมือนกับแฟชั่น ไม่ใช่เป็นลักษณะของการนับถือด้วยใจจริงๆ นะ
ข่าวมาแบบไหนก็เฮเข้าไปตามนั้นนะ ข่าวมาทางลบก็เฮทางลบไปตามเขา อะไรต่างๆ
อย่างนี้ไม่เรียกว่านับถือนะ ไม่เรียกว่าเป็นเชื้อสายของครูบาอาจารย์ที่เราเอามาอวดอ้าง
แต่ว่าจะต้องมีความศรัทธา มีความเคารพรัก แล้วก็ปฏิบัติตามแก่นคำสอนของแต่ละท่าน
คือไม่ใช่ว่าบอกเคารพพระพุทธเจ้าแล้ว จะนับถือพระสงฆ์องค์เจ้ารูปไหนก็ได้นะ
เพราะพระสงฆ์แต่ละรูปก็มีแนวการสอนแตกต่างกัน
แล้วก็จริตนิสัยที่เคยให้วาสนากันมาก็แตกต่างกันนะครับ
หรือแม้กระทั่งว่าลัทธินิกายหรือว่าความเชื่อที่ตรงหรือไม่ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้านะ
มีความเห็นแตกแยกกันไปต่างๆ นานา ที่สุดแท้แต่ว่าจะเป็นไปในทิศทางไหนนะ
ตรงที่เราจะผูกอยู่กับครูบาอาจารย์ท่านไหน
ก็คือตัดสินตรงที่ว่าเราปฏิบัติตามแบบอย่างที่ดีของท่านองค์ไหนนะ
แล้วก็ส่วนที่ว่าจะเป็นเชื้อสาย เป็นสานุศิษย์ของพระพุทธเจ้า
อันนี้ก็คือต้องวัดกันที่ศรัทธาโดยรวมเลยว่าเรานับถือศาสนาอะไร
ถ้าหากว่านับถือศาสนาพุทธจริงๆ
หมายความว่าเราเชื่อในเรื่องของผลของกรรมและการกระทำ กรรมและวิบาก
ตลอดจนมีความรู้มีความเข้าใจว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไรอันเป็นที่สุดของพระพุทธศาสนา
ต้องตอบให้ถูกนะว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่สอนเรื่องของทุกข์และการดับทุกข์
ถ้าตอบตรงนี้ไม่ได้ โอกาสที่จะอวดอ้างว่าเป็นชาวพุทธนี่ค่อนข้างจะลางเลือนนะ
การที่เราจะได้ไปพบพระอรหันต์ก็ตรงนี้เหมือนกัน
ถ้าหากว่าดูตามที่ในพระคัมภีร์บอกไว้นะ ก็คือว่าเราจะทำบุญมาตามลำดับขั้น
อย่างถ้าหากว่ามีความประพฤติดี มีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา
ก็มีโอกาสที่จะไปนับถือหรือว่าไปใคร่ในธรรม ธรรมะอันเกี่ยวข้องกับกรรมและวิบากนะ
ถ้าหากว่าพุทธศาสนาไม่อุบัติ ก็อาจจะมีศาสนาอื่นที่สอนเรื่องกรรมวิบากได้
หรือว่าฤๅษีชีไพรที่ท่านมีอภิญญา ๕ แล้วก็สามารถระลึกชาติได้
สามารถเห็นการจุติและอุบัติของสัตว์ต่างๆ ในภพภูมิทั้งสาม
ก็อาจจะมาสั่งสอนเรื่องของกรรมวิบาก
แล้วก็เรียนรู้เรื่องกรรมวิบากในขณะที่ไม่มีพุทธศาสนาได้
แล้วทีนี้พอเริ่มสะสมบุญในเรื่องของการเชื่อ แล้วก็การเลื่อมใสในเรื่องกรรมวิบากนะ
ตลอดจนการพยายามพิสูจน์ด้วยตัวเอง แล้วก็จะได้มีโอกาสพบพุทธศาสนา
มีโอกาสพบพุทธศาสนาก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้ได้ทำบุญกับพระดี พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
แล้วถ้าหากว่าทำบุญกับพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วนะ
ก็มีโอกาสเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ได้พบกับพระโสดาบันหรือว่าทำบุญกับพระโสดาบัน
แล้วปัจจัยนั่นก็จะเป็นปัจจัยให้ได้พบและทำบุญกับพระสกทาคามี
พบและทำบุญกับพระอนาคามี
จนกระทั่งได้มีโอกาสพบและทำบุญกับพระอรหันต์นะครับ
อันนี้ก็ว่าตามตำรานะ นี่พูดตามตำรานะว่ามีปัจจัยเป็นขั้นๆ ไป
แล้วการพบพระอรหันต์ ขอให้สังเกตนะ
คือบางคนเอาแค่อย่างนี้ก่อนก็แล้วกัน
ตอนนี้เราไม่รู้จะชี้ว่าใครเป็นพระอริยบุคคล ใครเป็นพระอรหันต์
ไม่สามารถที่จะเอาเครื่องยืนยันที่ชัดเจนมาบอกกล่าวกันได้
เนื่องจากว่าพระพุทธเจ้าท่านสิ้นแล้ว
ผู้ที่เราจะเชื่อได้เพียงพระองค์เดียว ไม่อยู่แล้วนะที่จะยืนยัน
เราเอาแค่ตรงนี้ก็แล้วกันว่า ใครมีโอกาสที่จะอยู่ใกล้
แล้วก็ได้ทำบุญกับพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ รักษาศีล รักษาวินัยยิ่งชีพ
เอาแค่นี้ก่อน คือถ้าเอาแค่นี้ได้นะ
รู้ว่าท่านรักษาศีลดี รักษาวินัยดี แล้วก็ปฏิบัติถูกปฏิบัติตรงนะ
แล้วก็มาสั่งสอนมาเทศนากับญาติโยม ตรงตามที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้
เรารู้ด้วยการสอบทานนะ เปรียบเทียบกับพระไตรปิฎก
อย่างนี้เรียกว่ามีบุญมากๆ แล้วนะ
ไม่ต้องเอาถึงขั้นที่ว่าเราจะได้ไปทำบุญกับพระอรหันต์หรือว่าพระอริยเจ้ารูปไหนนะ
ตรงนั้นน่ะเราไม่สามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง ถ้าหากว่าเรายังไม่ใช่ระดับเดียวกันกับท่าน
เอาเป็นว่าถ้าหากเรามีโอกาส ที่จะทำบุญกับพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
วันหนึ่งเราต้องมีโอกาสที่จะทำบุญกับพระอรหันต์
แล้ววันหนึ่งเราจะต้องมีโอกาสได้ทำกับพระปัจเจก
แล้วก็พระพุทธเจ้าอย่างแน่นอนนะครับ
ก็เป็นเรื่องของปัจจัยที่ไล่กันมาเป็นขั้นๆ ตามตำรานะ อันนี้พูดตามตำรา
แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
| < Prev | Next > |
|---|
