ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta
อาทิตตสูตร ว่าด้วยสิ่งที่ถูกไฟเผา
กลุ่มไตรปิฎกสิกขา
[๑๓๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี
ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว
เทวดาองค์หนึ่ง มีวรรณะงาม ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นแล้วจึงอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
[๑๓๖] เทวดานั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าวคาถาเหล่านี้
ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
เมื่อเรือนถูกไฟไหม้แล้ว เจ้าของเรือนขนเอาภาชนะใดออกไปได้
ภาชนะนั้นย่อมเป็นประโยชน์แก่เขา ส่วนสิ่งของที่มิได้ขนออกไป
ย่อมไหม้ในไฟนั้น ฉันใด.
โลก (คือหมู่สัตว์) อันชราและมรณะเผาแล้ว ก็ฉันนั้น
ควรนำออก (ซึ่งโภคสมบัติ) ด้วยการให้ทาน
เพราะทานที่บุคคลให้แล้ว ได้ชื่อว่านำออกดีแล้ว.
ทานวัตถุที่บุคคลให้แล้วนั้นย่อมมีสุขเป็นผล
ที่ยังมิได้ให้ย่อมไม่มีผลเช่นนั้น โจรยังปล้นได้ พระราชายังริบได้
เพลิงยังไหม้ได้ หรือสูญหายไปได้.
อนึ่ง บุคคลจำต้องละร่างกายพร้อมด้วยสิ่งเครื่องอาศัยเพราะตายจากไป
ผู้มีปัญญารู้ชัดดังนี้แล้ว ควรใช้สอยและให้ทาน.
เมื่อได้ให้ทานและใช้สอยตามควรแล้ว จะไม่ถูกติเตียน
เข้าถึงสถานที่อันเป็นสวรรค์.
อาทิตตสูตร จบ
(อาทิตตสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๒๔)
< Prev | Next > |
---|