ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

กุศโลบายในการสร้างความเพียรในการปฏิบัติธรรม


 

ถาม – ปฏิบัติธรรมแบบไม่ต่อเนื่องค่ะ พอนึกขึ้นได้ทีหนึ่งก็ทำ พอมีงานก็ลืมไป พอนึกได้ก็ทำใหม่ เหมือนไม่ไปไหนสักที พอจะมีกุศโลบายให้มีความสุขในการปฏิบัติหรือกระตุ้นให้ไม่ขี้เกียจไปมากกว่านี้ไหมคะ


ก็เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คือการที่เราขี้เกียจบ้างแล้วก็ขยันบ้างเมื่อนึกได้นะ
ขอให้มองอย่างนี้ว่าอยู่ในระยะเวลาของการสะสมแต้ม สะสมไมล์ ในการเดินทาง
บนทางโลกุตระนี้ บนวิถีแห่งโลกุตระนี้
มันไปเร่งไม่ได้ ไปบังคับให้ขยันไม่ได้ แต่ทำเหตุให้เกิดความพอใจบนเส้นทางนี้ได้
นั่นก็คือทำให้ถูกทำให้ตรงเถอะ ดูเข้ามาที่กาย ดูเข้ามาที่ใจ
มีความคาดหวังเพียงแค่ว่าเราจะรู้ เราจะดู เราจะเห็น
อย่าคาดหวังให้มันมากไปกว่านี้

เมื่อไม่มีความคาดหวังอื่น นอกจากจะรู้ จะดู จะเห็นว่า
กายใจนี้ไม่เที่ยง กายใจนี้ไม่ใช่ตัวตนในแต่ละขณะ


อย่างเช่นขณะนี้กำลังฟังอยู่ แล้วเกิดความรู้สึกขึ้นมาว่า เออ ฟังแล้วเฉยๆ
หรือฟังแล้วมีความสุข หรือฟังแล้วเกิดปีติ หรือฟังแล้ว เออ ได้แนวทางในการปฏิบัติ
ไม่ว่าอาการทางใจจะเป็นปฏิกิริยาออกมาอย่างไรก็แล้วแต่
เราเห็นว่า เออ มันเกิดขึ้นนะ ด้วยเหตุด้วยปัจจัยอะไรอย่างหนึ่ง
แล้วอีกแป๊บหนึ่งพอไม่ได้ฟัง พอเลิกฟัง มันก็ลืมความรู้สึกนี้ไป
นี่ก็เรียกว่าเป็นการเห็นความไม่เที่ยง เห็นออกมาจากความจริง
เห็นออกมาจากสิ่งที่กำลังปรากฏอยู่ในขณะนี้เลย ไม่ได้สร้างเอา ไม่ได้วาดวิมานเอา



การที่เรารู้สึกถึงความไม่เที่ยงได้ในแต่ละขณะ มันจะเกิดปีติขึ้นมาอ่อนๆ
มันจะเกิดความรู้สึกดี มันจะเกิดความรู้สึกผ่อนคลายจากอาการยึดมั่นถือมั่น
การสะสมความสุขอันได้จากการเห็นความไม่เที่ยงนะ
มันจะเพิ่มตัวฉันทะหรือเพิ่มแรงดัน
ให้เกิดความพึงพอใจในการเจริญสติยิ่งๆ ขึ้นไปเอง

ไม่ใช่ไปบังคับว่าจงพอใจนะ จงมีสตินะ
แต่มันเกิดความพอใจที่มันเกิดขึ้นจากเห็นอย่างถูกต้อง ตั้งมุมมองไว้อย่างถูกต้อง
สรุปก็คืออย่าไปคาดคั้นให้ตัวเองขยัน เป็นฆราวาสต้องทำงานก็ทำไปเถอะ
มันจะหลงไปบ้างลืมไปบ้างนะ ที่จะดูเข้ามาในกายในใจ ช่างมัน
แต่ที่ไม่ช่างก็คือเราจะทำทุกครั้งที่นึกขึ้นได้





แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP