บทความรัก Lite Love

อยากอยู่เป็นโสดแต่ก็ยังอยากมีความรัก


Love

โดย mayrin

หลายๆ ท่านคงจะเคยมีความรู้สึกสับสน
ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ เพราะอยากที่จะอยู่เป็นโสด
แต่ในขณะเดียวกันก็อยากจะมีความรักด้วย

ดิฉันก็เคยคิดเหมือนกันเลยค่ะ ไม่อยากแต่งงาน
ไม่มั่นใจในชีวิตในวันข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร
ถ้าต้องไปอยู่บ้านสามี จะเข้ากับครอบครัวเขาได้หรือเปล่านะ
ต้องทำทั้งงานข้างนอกและดูแลคนในบ้าน ซึ่งก็ไม่รู้จะทำได้ดีแค่ไหน
ถูกใจพวกเขาหรือเปล่า คงน่าเหนื่อยมากเลย

เราเคยอยู่ตัวคนเดียว มีอิสระ สบายๆ ทำอย่างไรก็ได้
แต่อยู่คนเดียวนานๆ ก็ชักจะเหงาๆ อยากให้มีใครไว้สักคนหนึ่ง ไว้คอยคิดถึง
มีคนคอยเป็นห่วงเรา ไปรับ ไปส่ง เป็นเพื่อนเวลาเดินไปไหนมาไหน
ในเวลาที่เราต้องการบ้าง แต่ก็ไม่อยากอยู่ใกล้ชิดกันมาก

ดิฉันพบว่า การที่ตัวเองคิดแบบนี้
ก็เพราะกลัวอนาคต วิตกกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
และที่ไม่กล้าจะอยู่ใกล้ชิดคนที่ตัวเองชอบ
เนื่องจากกลัวว่า อิสรภาพที่เคยมีอยู่เต็มที่
จะเริ่มเหมือนมีห่วงมาร้อยรัด

และก็จะเกิดความรู้สึกผูกพัน
ในแบบที่เราขาดเขาไม่ได้
ในวันหนึ่งเราสูญเสียเขาไป เราคงต้องเสียใจมาก

แต่ถ้าเราไปกำหนดกำแพงกั้น หรือบล็อกตัวเอง ว่าต้องมีหรือไม่มีแฟน
จิตมันก็เครียด จะเกิดคำถาม อยู่ก็ไม่ได้ ไปก็กลัวไปไม่ถึง
ก็เลยพะว้าพะวง เดินเป็นวงกลมเวียนไปเวียนมาอยู่ที่เดิม

เหมือนคนที่จะบวชก็กลัวไม่บรรลุ
จะมีครอบครัว ก็กลัวทุกข์จากการครองเรือน

ปัจจุบันคือเหตุใกล้ของอนาคตค่ะ
ถ้าเราทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุดแล้ว
อนาคตข้างหน้า เราก็ย่อมได้รับผล
ตามเหตุปัจจัยที่ได้กระทำไว้ดีแล้วนั้นค่ะ

เรื่องคู่ครองจะแต่งหรือไม่แต่งอย่างไร
ก็มองให้เรื่องปกติธรรมดาของชีวิตมนุษย์ทั่วๆ ไป
บางคนเขาก็มี บางคนก็ไม่มี
เป็นเรื่องของเหตุปัจจัยของคนสองคน
ที่เคยร่วมสืบสานสายสัมพันธ์กรรมกันมา

ถ้ามีใครเข้ามาในชีวิต
คบกันแล้วสบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข
มีศีล ศรัทธา จาคะ ปัญญา เสมอกัน
จะพัฒนาไปถึงขั้นแต่งงาน
ก็ให้เป็นเรื่องที่จะดำเนินไปตามวิถีทางที่มันควรจะเป็น
แล้วเราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
หมั่นทำแต่กุศลกรรมสม่ำเสมอ
เราก็จะเหมือนมีเบาะนุ่มไว้คอยช้อนรับเบื้องหน้า

ในอนาคตไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นก็ตาม
เราก็ใช้สติปัญญาของเราค่อยๆ พิจารณาแก้ไขไป
ถือเป็นบทเรียน เป็นการเก็บเกี่ยว
เรียนรู้เพื่อที่เราจะได้พัฒนาตนในอัตภาพมนุษย์นี้ต่อไป

แต่ถ้าไม่มีใครเข้ามา หรือไม่มีใครเหมาะสมกับเรา
เราก็อยู่คนเดียวของเราไปแบบสบายๆ
ดำเนินชีวิตของเราไปตามปกติ
ทำการงาน หาเวลาพักผ่อน ไปเที่ยวชมธรรมชาติ
มีเวลาก็ไปวัด ไปทำบุญ ปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตใจผ่องใส

ถ้าอยากมีใครเป็นที่ปรึกษา เป็นคนพิเศษ
ถูกอัธยาศัยใจคอใคร
เราก็วางจิตเราไว้ รักษาสัมพันธ์
เป็นกัลยาณมิตร เกื้อกูลซึ่งกันและกันในทางกุศล
ดิฉันมั่นใจว่ามีคนที่พร้อมจะเป็นเพื่อน ให้กำลังใจคุณอยู่มากมายค่ะ

มีสติอยู่กับปัจจุบัน หมั่นสังเกต รู้ทันกายใจไปเรื่อยๆ
ปล่อยวางอดีต อนาคต อันเป็นเครื่องร้อยรัดกังวลทั้งหลาย
เราก็จะพบทางสว่างที่มั่นใจ เลือกได้โดยไม่ลังเลใจในเบื้องหน้าค่ะ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP