ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta
วิตถตสูตร ว่าด้วยกำลัง ๕ โดยพิสดาร
กลุ่มไตรปิฎกสิกขา
[๑๔] ภิกษุทั้งหลาย กำลัง ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
กำลังคือศรัทธา ๑ กำลังคือวิริยะ ๑ กำลังคือสติ ๑
กำลังคือสมาธิ ๑ กำลังคือปัญญา ๑
ภิกษุทั้งหลาย ก็กำลังคือศรัทธาเป็นไฉน อริยสาวกในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้มีศรัทธา ย่อมเชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคตว่า
แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ
ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก
ไม่มีผู้อื่นจะยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม นี้เรียกว่า กำลังคือศรัทธา.
ก็กำลังคือวิริยะเป็นไฉน ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย
เพื่อยังกุศลธรรมให้ถึงพร้อม เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง
ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย นี้เรียกว่า กำลังคือวิริยะ.
ก็กำลังคือสติเป็นไฉน ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้มีสติ ประกอบด้วยสติและปัญญาเครื่องรักษาตน ระลึก
ระลึกตามแม้สิ่งที่ทำแม้คำที่พูดไว้นานได้ นี้เรียกว่า กำลังคือสติ.
ก็กำลังคือสมาธิเป็นไฉน ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้
สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร
มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ เพราะวิตกวิจารสงบไป บรรลุทุติยฌาน
อันเป็นความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่ เพราะปีติสิ้นไป เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ
เสวยสุขด้วยนามกาย บรรลุตติยฌานที่พระอริยะทั้งหลายสรรเสริญว่า
ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข บรรลุจตุตถฌานอันไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข
เพราะละสุขและทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อน ๆ ได้
มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ นี้เรียกว่า กำลังคือสมาธิ.
ก็กำลังคือปัญญาเป็นไฉน ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้มีปัญญาประกอบด้วยปัญญาที่หยั่งถึงความเกิดและความดับ เป็นอริยะ
ชำแรกกิเลสเป็นเครื่องให้ถึงความสิ้นไปแห่งทุกข์โดยชอบ นี้เรียกว่า กำลังคือปัญญา.
ภิกษุทั้งหลาย กำลัง ๕ ประการนี้แล.
วิตถตสูตร จบ
(วิตถตสูตร พลวรรคที่ ๒ ปฐมปัณณาสก์
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๖)
< Prev | Next > |
---|