ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

หลังจากสวดมนต์แล้วควรอุทิศบุญกุศลอย่างไร



ถาม – หลังจากสวดมนต์แล้ว ถ้าเราจะแผ่เมตตาและอุทิศบุญกุศล
แด่ เทวดาต่างๆ หรือญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว
เราควรระบุรายชื่อแบบเจาะจงไปเลย หรือให้ทุกท่านไปพร้อมๆ กันคะ


ในการสวดมนต์ ถ้าเกิดสมาธิชนิดที่มีพลังพอที่จะอุทิศให้เทวดาเกิดความยินดีได้
หรือจะช่วยปรับระดับยกระดับพวกเปรตที่มันมืดๆ อยู่
ให้มีความสว่าง มีกำลังขึ้นมาได้บ้าง
การสวดมนต์นั้นต้องมีสมาธิเป็นตัวตั้ง
การอุทิศส่วนกุศลนั้น กำลังของสมาธิยังควรดำรงอยู่
ยังควรมีสติ ยังควรมีลักษณะของอาการของใจที่มันแผ่
ที่มันนิ่ง ที่มันมีกำลังอยู่ อันนี้คือตัวหลัก

ทีนี้ถามว่า อันนี้เฉพาะคนนะ ถามว่าเรามานั่งจาระไนทีละคนๆ
ชื่อพ่อ ชื่อแม่ ชื่อเทวดา อยู่ชั้นนั้นชั้นนี้อะไรไป
จิตมันแคบลงหรือว่ามันกว้างขึ้น จิตมันฟุ้งซ่านมากขึ้น หรือว่าสงบเป็นปกติได้เท่าเดิม
จิตมีกำลังสมาธิที่ผ่องแผ้ว หรือว่าเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง
แบบจาระไนชื่อนี่ ลืม ว่ายกให้ใครไปบ้าง อุทิศให้ใครไปบ้าง
ถามตัวเองง่ายๆ แค่นี้ จิตในขณะอุทิศส่วนกุศลมีกำลังสมาธิมากหรือว่าน้อย
ผ่องแผ้วหรือว่าหม่นหมอง ยุ่งเหยิงไปด้วยคำในหัว หรือว่าปลอดโปร่ง โล่ง เกลี้ยงเกลา
ตรงนี้คือหลักว่าพลังของความเป็นกุศลเนี่ย มันจะไปถึงหรือไปไม่ถึงเจ้าตัว


หลักการ จิตนะยิ่งมีสมาธิมากขึ้นเท่าไหร่
ยิ่งจะไม่อยากไปนึกเป็นคำ อยากให้คำหายไปจากหัว
คือมันจะมีอาการน้อมนึกล่วงหน้าไว้ก่อนว่า
จิตที่มีกำลัง มีความสว่าง มีความเป็นกุศลนี้ ขอให้ได้แก่...
ถ้าน้อมนึกไว้ก่อนล่วงหน้าว่าใครก็ตามที่อยู่รอบๆ
อย่างนี้ถ้านึกนะว่าจิตของเรามีความสว่าง จิตของเรามีความเปิด
จิตของเรามีความเบิกบาน จิตของเรามีความเป็นกุศล
คือไม่ใช่นึกเป็นคำแบบนี้นะ แต่นึกถึงภาวะ
เอาแค่หนึ่งเดียวว่ามันว่าง มันสว่าง มันสบายอยู่ ด้วยอาการแบบนี้
ขอให้ความว่างความสว่าง ความสบายนี้ ที่เป็นบุญ ที่เป็นกุศล
จงได้แก่ใครก็ตามที่พร้อมจะอนุโมทนาอยู่


แค่นี้ ได้จริงๆ กับสิ่งที่อยู่รอบตัวเราแล้ว ไม่ต้องไปถึงชั้นฟ้าชั้นดินที่ไหน
เพราะมันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่จะเหมือนกับได้กันทุกคน ได้กันทั้งจักรวาล มันเป็นไปไม่ได้เลยนะ
แต่อย่างน้อยแค่เรานึกเท่านี้ มันได้แก่คนที่อยู่รอบเราชัวร์ๆ แล้ว
ถ้าเขาจ้องจะรออนุโมทนาอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่กำลังหม่นมืดอยู่
จิตนี่เห็นแล้วว่ามีความสว่างจ้าอยู่ตรงนี้
เสร็จแล้วคือเขาจะมาอนุโมทนาเอง แบบกำลังใจของเขามันไม่พอ มันเหมือนไม่รู้
แต่พอเราแค่คิดอุทิศว่าขอให้ใครก็ตามที่รออนุโมทนาอยู่ จงได้
เขาจะได้จริงๆ คือจิตเขาจะเปิดเลย เหมือนไปเปิดประตูให้เขา
ตอนที่เราคิดอุทิศ มันเป็นการไปเปิดประตูให้กับจิตวิญญาณที่ไม่มั่นใจในตัวเอง


แต่ถ้าหากว่าจิตของเราทำได้เป็นบุญเป็นกุศลจริงๆ สว่างจริงๆ
แล้วเป็นระดับเทวดาที่อยู่เหนือกว่าภูมิมนุษย์
ถ้าท่านเป็นบุคคลอันเป็นที่รัก เคยเป็นญาติเรา
เป็นพ่อเป็นแม่ เป็นลูก เป็นเพื่อน ที่เฝ้ามองเราอยู่
แค่เขาเห็นว่าใจเราเปิดแผ่เป็นกุศล เป็นบุญใหญ่
เขามีจิตนึกอนุโมทนาเองอยู่แล้ว เราไม่ต้องอุทิศให้ด้วยซ้ำ
แต่ถ้าเราแค่คิดว่าขอให้ได้กับใครก็ตามที่พร้อมจะอนุโมทนาอยู่
แค่นี้ได้จริงๆ เลย คือเขาก็จะใจเปิดมากขึ้น


ทีนี้อย่างถ้าเราคิดอยากอุทิศแบบเฉพาะเจาะจง
อย่างเช่นบุคคลอันเป็นที่รักที่ล่วงลับไปแล้ว เราค่อยมานึกถึงหลังจากตรงนี้
คือให้ใจมันเปิดก่อน ให้ใจมันคิดแผ่ออกไปแบบไม่มีจำกัด ไม่มีเลือกหน้า
ว่าใครก็ตามที่พร้อมจะรับส่วนบุญ ส่วนกุศล
ส่วนความสว่างที่มันเกิดขึ้นในเรา ณ บัดนี้
ก็ขอให้ยินดีเอาเองเถิด ขอให้อนุโมทนาเอาเองเถิด
คิดสั้นๆ คือไม่ใช่คิดเป็นคำยาวขนาดนี้นะ
คิดด้วยจิตในทิศทางนี้ว่าใครก็ตามที่สามารถรับได้ รับไปเลย ประมาณอย่างนี้


พอจิตเปิด แล้วเราค่อยเอาจิตที่เปิดนี้
ไปอุทิศให้กับบุคคลที่ล่วงลับ บุคคลอันเป็นที่รักที่เราต้องการ

แค่นึกภาพของบุคคลคนนั้นขึ้นมานิดเดียว ให้มันชัดขึ้นมานิดหนึ่ง ขณะหนึ่ง
แล้วบอกว่าขอให้ความสว่างนี้จงได้ไปถึง
ความสุขนี้ที่เรามีประมาณไหนก็ตาม จงได้แก่เขาด้วย
เท่านี้ถ้าเขาจะอยู่ในภาวะที่พร้อมจะรับ รับได้เลย
จิตเชื่อมจิตเลย นึกภาพแค่นิดเดียว

คือจิตมนุษย์ นึกถึงใครนี่ โฟกัสนะ
ถ้าเป็นสมาธิได้แค่แวบเดียว แล้วเขาตั้งรออยู่แล้ว
มันเหมือนเครื่องรับกับเครื่องส่งจูนตรงกัน มันก็ได้ มันก็จบ


จะไปนั่งจาระไนว่ากี่ชั้นฟ้ากี่ชั้นดิน อันนี้มาคิดกันทีหลังนะ
แล้วขอให้สังเกตดูเถอะว่าพอท่องอย่างนั้นจริงๆ เอาให้ครบแบบนั้น
ใจนี่มันเหลือแค่ไหน ความชุ่มชื่น ความสว่าง ความสงบ ความสบาย
ที่มันเป็นพลังบุญพลังกุศล มันเหลือนิดเดียว มันจะไปถึงได้อย่างไร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทที่เราจะอุทิศให้เทวดาชั้นฟ้า
คือบุญต้องใหญ่จริงๆ นะ ท่านถึงจะมีความรู้สึกพลอยปลื้ม พลอยยินดีตามไปด้วย
ไม่อย่างนั้นบุญเล็กๆ น้อยๆ กระปริบกระปรอย แล้วจะไปบอกขอให้ท่าน
มันจะเหมือนกับคนมีตังค์สองร้อยสามร้อย แล้วไปบอกให้เศรษฐีพันล้าน
บอกว่านี่ผมให้คุณ เขาหัวเราะเอานะ
นี่เป็นความเข้าใจแบบกว้างๆ นะครับ


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP