ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

เมื่อเริ่มปฏิบัติธรรมจริงจังแล้วรู้สึกเหมือนมีเรื่องมาทดสอบจิตใจมากขึ้น ควรทำอย่างไร



ถาม - ผมพบว่ายิ่งปฏิบัติธรรมจริงจังมากขึ้น ก็มักมีอุปสรรคมาขวาง
หรือมีสิ่งต่างๆ มาพิสูจน์ใจอยู่เรื่อยๆ แบบนี้ผมควรทำอย่างไรดีครับ


คืออย่างบางคนบอกว่าตั้งใจถือศีล
คือตอนไปวัด เวลาที่พระบอกว่าตั้งใจสมาทานศีลนะ
แล้วก็ท่านก็นำ ปาณาติปาตาเวรมณี
เราก็สวดตามเป็นนกแก้วนกขุนทองไปอย่างนั้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชีวิตก็ยังดีๆ
นั่นเพราะว่าเรายังไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
คือท่านให้ว่าตามอย่างไร เราก็ว่าตามไปอย่างนั้น ใจไม่ได้เอาด้วย
ความตั้งใจจริงๆ ที่ออกมาจากส่วนลึกก้นบึ้ง มันแค่บอกว่าท่านให้สวดเราก็สวด


แต่ตอนที่นอนๆ อยู่ นั่งๆ อยู่ เออ เริ่มกลัวบาปกลัวกรรมขึ้นมาแล้ว
เริ่มเชื่อแล้วว่าผลของกรรมมีจริง
แล้วก็ถ้าจะปฏิบัติภาวนาเพื่อให้พ้นทุกข์ได้ ต้องถือศีลให้สะอาด
แล้วเราเกิดมีกำลังใจ มีแรงบันดาลใจพอ
ที่จะตั้งจิตอธิษฐานว่าเราจะรักษาศีลให้สะอาดทุกข้อ
ตัวนี้มันเริ่มเข้าทางที่จะเป็นผู้อยู่บนเส้นทางสีขาว ผู้อยู่บนปากทางนิพพาน
มองได้สองแบบนะ คือสังสารวัฏเขาจะช่วยส่งเสริมให้เราได้สมคำอธิษฐาน
โดยการส่งแบบฝึกหัดหรือว่าบทพิสูจน์ใจมาให้ทำดู ว่าจะผ่านไหม
หรือบางคนก็มองว่าโดนแกล้ง โดนมาทำให้เราต้องเป๋ เราต้องมาละล้าละลังลำบากใจ
แหม ถ้ามันไม่ได้โกหกนี่ก็จะอดของที่ต้องการหรือว่าคนที่อยากได้อะไรแบบนี้

มันเหมือนเราเล่นเกมแล้วก็มาถึงจุดมาถึงด่านที่บอกว่า
อยากผ่านด่านนี้ไปไหม ถ้าผ่านด่านนี้ไปได้เดี๋ยวสบายแน่ แล้วสบายยาวๆ เลย
อย่างตอนนี้อยู่ในช่วงที่พุทธศาสนายังมีอายุอยู่ ยังไม่สิ้นอายุพุทธศาสนา
เรามีสิทธิ์ที่จะขึ้นบันไดต่อไปได้เรื่อยๆ ถึงนิพพานเลย


สังสารวัฏก็โดยธรรมชาตินะ
คำว่าสังสารวัฏนี่จริงๆ แล้วก็คือมีแรงดึงดูดให้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวังวนนี้
ทีนี้ถ้าเราบอกเราจะออก เขาก็ส่งแรงดึงดูดมากระทำ อยู่ต่อจงอยู่ต่อ
หรืออีกทางหนึ่งอาจจะได้รับการส่งเสริม ด้วยการพิสูจน์ใจให้ได้ก่อนว่า
จะออกไปใช่ไหม ลองผ่านด่านนี้ก่อน ผ่านด่านของศีล
ถ้าเราตั้งใจรักษาศีล เราสามารถทำได้ไหม ถ้าทำไม่ได้ คือที่มันจะยากยิ่งกว่านี้
คือไปถึงขึ้นภาวนาแล้วก็ทิ้งกายทิ้งใจ ทิ้งอุปาทานว่ามีตัวตนในกายใจ
มันยิ่งเป็นไปไม่ได้นะ มันอยู่ยอดเขาเลย อันนี้อยู่แค่ตีนเขาเฉยๆ
คือการให้ทานก็ดี หรือว่าการรักษาศีลก็ดี หรือการปฏิบัติธรรมภาวนา
มันอันเดียวกันนั่นแหละ คือการทิ้งของที่มันรกรุงรัง ของที่มันหนักอึ้ง
ของที่มันมืด ของที่มันทำให้เป็นทุกข์ ของที่มันทำให้กระวนกระวายออกไป


ทีนี้ถ้าเราตั้งใจทำทาน รักษาศีล แล้วเหมือนกับรักษาไม่ได้
หรือพอมีการปฏิบัติธรรมภาวนา แล้วมีเรื่องยุ่งยากใจเข้ามา อดคิดไม่ได้
อันนี้ก็ขอให้ลองเป็นขั้นๆ นะครับ ทำทานเพื่อที่จะสละความตระหนี่
รักษาศีลเพื่อที่จะห้ามใจให้อยู่ แล้วก็ทิ้งความโลภโมโทสันที่มันเป็นของผิดๆ ออกไป
แล้วจากนั้นถึงขั้นที่จะภาวนาแล้ว
ถึงมีเรื่องยุ่งยากใจอะไรเข้ามา มีอะไรมากลุ้มรุมให้เกิดความฟุ้งซ่าน
มันก็จะมีความรู้สึกขึ้นมาว่าเรามีของ เรามีกำลังมากพอ
ที่จะผ่านมันไปได้เป็นขั้นๆ เป็นเปลาะๆ นะครับ


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP