ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta

ปฐมนฬกปานสูตร ว่าด้วยผู้ไม่มีศรัทธาในกุศลธรรม พึงได้ความเสื่อมในกุศลธรรม


กลุ่มไตรปิฎกสิกขา



[๖๗] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกไปในแคว้นโกศล พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่
ได้เสด็จถึงนิคมของชาวโกศล ชื่อว่า นฬกปานะ ทราบมาว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่ปลาสวัน ใกล้นฬกปานนิคมนั้น
ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้อันหมู่ภิกษุแวดล้อมประทับนั่งแล้วในวันอุโบสถ
ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชี้แจงภิกษุทั้งหลายให้เห็นแจ้ง
ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริงด้วยธรรมีกถา สิ้นส่วนแห่งราตรีเป็นอันมาก
ทรงตรวจดูภิกษุสงฆ์ผู้นิ่งเงียบอยู่ แล้วตรัสกะท่านพระสารีบุตรว่า
สารีบุตร ภิกษุสงฆ์ปราศจากถีนมิทธะแล้ว
ธรรมีกถาเพื่อภิกษุทั้งหลายเธอจงอธิบายให้แจ่มแจ้ง เราเมื่อยหลัง จักเอนหลัง.


ท่านพระสารีบุตรกราบทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงปูผ้าสังฆาฏิ ๔ ชั้น แล้วสำเร็จสีหไสยา
โดยพระปรัศว์เบื้องขวา ซ้อนพระบาทเหลื่อมพระบาท
ทรงมีสติสัมปชัญญะ ทรงกระทำอุฏฐานสัญญาไว้ในพระหฤทัย.


ณ ที่นั้นแล ท่านพระสารีบุตรเตือนภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุผู้มีอายุทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลายรับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว.
ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า
อาวุโสทั้งหลาย ผู้ใดผู้หนึ่งไม่มีศรัทธาในกุศลธรรมทั้งหลาย
ไม่มีหิริในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่มีโอตตัปปะในกุศลธรรมทั้งหลาย
ไม่มีวิริยะในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่มีปัญญาในกุศลธรรมทั้งหลาย
กลางคืนหรือกลางวันของผู้นั้น ย่อมผ่านพ้นไป
ผู้นั้นพึงหวังได้ความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่หวังได้ความเจริญเลย.


อาวุโสทั้งหลาย เปรียบเหมือนกลางคืนหรือกลางวันของพระจันทร์
ในปักษ์ข้างแรม ย่อมผ่านพ้นไป พระจันทร์ย่อมเสื่อมจากวรรณะ ย่อมเสื่อมจากมณฑล
ย่อมเสื่อมจากแสงสว่าง ย่อมเสื่อมจากด้านยาวและด้านกว้าง ฉันใด
ผู้ใดผู้หนึ่งไม่มีศรัทธาในกุศลธรรมทั้งหลาย
ไม่มีหิริในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่มีโอตตัปปะในกุศลธรรมทั้งหลาย
ไม่มีวิริยะในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่มีปัญญาในกุศลธรรมทั้งหลาย
กลางคืนหรือกลางวันของผู้นั้น ย่อมผ่านพ้นไป
ผู้นั้นพึงหวังได้ความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่หวังได้ความเจริญเลย ฉันนั้นเหมือนกัน


อาวุโสทั้งหลาย คำว่าบุคคลผู้ไม่มีศรัทธานี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ไม่มีหิรินี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ไม่มีโอตตัปปะนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้เกียจคร้านนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีปัญญาทรามนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มักโกรธนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ผูกโกรธนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีความปรารถนาลามกนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีมิตรชั่วนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้เป็นมิจฉาทิฏฐินี้ เป็นความเสื่อม.


อาวุโสทั้งหลาย ผู้ใดผู้หนึ่งมีศรัทธาในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีหิริในกุศลธรรมทั้งหลาย มีโอตตัปปะในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีวิริยะในกุศลธรรมทั้งหลาย มีปัญญาในกุศลธรรมทั้งหลาย
กลางคืนหรือกลางวันของผู้นั้น ย่อมผ่านพ้นไป
ผู้นั้นพึงหวังได้ความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่หวังได้ความเสื่อมเลย


อาวุโสทั้งหลาย เปรียบเหมือนกลางคืนหรือกลางวันของพระจันทร์
ในปักษ์ข้างขึ้นย่อมผ่านพ้นไป พระจันทร์นั้นย่อมเจริญด้วยวรรณะ ย่อมเจริญด้วยมณฑล
ย่อมเจริญด้วยแสงสว่าง ย่อมเจริญด้วยด้านยาวและด้านกว้าง ฉันใด
ผู้ใดผู้หนึ่งมีศรัทธาในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีหิริในกุศลธรรมทั้งหลาย มีโอตตัปปะในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีวิริยะในกุศลธรรมทั้งหลาย มีปัญญาในกุศลธรรมทั้งหลาย
กลางคืนหรือกลางวันของผู้นั้น ย่อมผ่านพ้นไป
ผู้นั้นพึงหวังได้ความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่หวังได้ความเสื่อมเลย ฉันนั้นเหมือนกัน


อาวุโสทั้งหลาย คำว่าบุคคลผู้มีศรัทธานี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีหิรินี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีโอตตัปปะนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ปรารภความเพียรนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีปัญญานี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ไม่มักโกรธนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ไม่ผูกโกรธนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ปรารถนาน้อยนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีกัลยาณมิตรนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม.
คำว่าบุคคลผู้เป็นสัมมาทิฏฐินี้ ไม่ใช่ความเสื่อม.


ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จลุกขึ้นแล้ว ตรัสชมท่านพระสารีบุตรว่า
ดีละ ดีละ สารีบุตร ผู้ใดผู้หนึ่งไม่มีศรัทธาในกุศลธรรมทั้งหลาย
ไม่มีหิริในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่มีโอตตัปปะในกุศลธรรมทั้งหลาย
ไม่มีวิริยะในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่มีปัญญาในกุศลธรรมทั้งหลาย
กลางคืนหรือกลางวันของผู้นั้น ย่อมผ่านพ้นไป
ผู้นั้นพึงหวังได้ความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่หวังได้ความเจริญเลย
สารีบุตร เปรียบเหมือนกลางคืนหรือกลางวันของพระจันทร์
ในปักษ์ข้างแรมย่อมผ่านพ้นไป พระจันทร์ย่อมเสื่อมจากวรรณะ ย่อมเสื่อมจากมณฑล
ย่อมเสื่อมจากแสงสว่าง ย่อมเสื่อมจากด้านยาวและด้านกว้าง ฉันใด
สารีบุตร ผู้ใดผู้หนึ่งไม่มีศรัทธาในกุศลธรรมทั้งหลาย
ไม่มีหิริในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่มีโอตตัปปะในกุศลธรรมทั้งหลาย
ไม่มีวิริยะในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่มีปัญญาในกุศลธรรมทั้งหลาย
กลางคืนหรือกลางวันของผู้นั้น ย่อมผ่านพ้นไป
ผู้นั้นพึงหวังได้ความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่หวังได้ความเจริญเลย ฉันนั้นเหมือนกัน
สารีบุตร คำว่าบุคคลผู้ไม่มีศรัทธานี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ไม่มีหิรินี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ไม่มีโอตตัปปะนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้เกียจคร้านนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีปัญญาทรามนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มักโกรธนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ผูกโกรธนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีความปรารถนาลามกนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีมิตรชั่วนี้ เป็นความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้เป็นมิจฉาทิฏฐินี้ เป็นความเสื่อม.


สารีบุตร ผู้ใดผู้หนึ่งมีศรัทธาในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีหิริในกุศลธรรมทั้งหลาย มีโอตตัปปะในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีวิริยะในกุศลธรรมทั้งหลาย มีปัญญาในกุศลธรรมทั้งหลาย
กลางคืนหรือกลางวันของผู้นั้น ย่อมผ่านพ้นไป
ผู้นั้นพึงหวังได้ความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่หวังได้ความเสื่อมเลย
สารีบุตร เปรียบเหมือนกลางคืนหรือกลางวันของพระจันทร์
ในปักษ์ข้างขึ้นย่อมผ่านพ้นไป พระจันทร์นั้นย่อมเจริญด้วยวรรณะ ย่อมเจริญด้วยมณฑล
ย่อมเจริญด้วยแสงสว่าง ย่อมเจริญด้วยด้านยาวและด้านกว้าง ฉันใด
สารีบุตร ผู้ใดผู้หนึ่งมีศรัทธาในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีหิริในกุศลธรรมทั้งหลาย มีโอตตัปปะในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีวิริยะในกุศลธรรมทั้งหลาย มีปัญญาในกุศลธรรมทั้งหลาย
กลางคืนหรือกลางวันของผู้นั้น ย่อมผ่านพ้นไป
ผู้นั้นพึงหวังได้ความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่หวังได้ความเสื่อมเลย ฉันนั้นเหมือนกัน
สารีบุตร คำว่าบุคคลผู้มีศรัทธานี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีหิรินี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีโอตตัปปะนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ปรารภความเพียรนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีปัญญานี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ไม่มักโกรธนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ไม่ผูกโกรธนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้ปรารถนาน้อยนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้มีกัลยาณมิตรนี้ ไม่ใช่ความเสื่อม
คำว่าบุคคลผู้เป็นสัมมาทิฏฐินี้ ไม่ใช่ความเสื่อม.


ปฐมนฬกปานสูตร จบ



(ปฐมนฬกปานสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๘)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP