ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer
ทำอย่างไรจึงจะเลิกกลัวผีในขณะที่นั่งสมาธิ
ถาม – ทำอย่างไรถึงจะหยุดความกลัวผีระหว่างนั่งสมาธิได้คะ
เพราะดิฉันมักจะได้ยินหรือเห็นภาพอะไรเสมอ ทำให้ต้องหยุดนั่งสมาธิแล้วก็ลืมตาขึ้นทุกที
ก็ให้คิดเสียว่าผีหรือว่าสิ่งที่มันเป็นปรากฏการณ์ทางจิตในขณะนั่งสมาธิ
มันเป็นผลผลิตของใจเราเองนะ เป็นผลผลิตของสมองที่มันฉายภาพออกมานะ
อย่าไปพยายามหาหลักฐานว่าเป็นผีจริงหรือไม่จริงนะ
จริงหรือไม่จริงนี่ไม่มีประโยชน์เลยนะที่เราจะรู้
เพราะว่าสิ่งเดียวที่มันเกิดขึ้นชัวร์ๆ เกิดขึ้นแน่ๆ เหมือนกันก็คือความกลัว
เรามาตั้งมุมมองไว้ว่าทั้งหลายทั้งปวง ภายนอกเนี่นะ
จะจริงหรือไม่จริง มันขึ้นอยู่กับใจของเรานี่มันเอาหรือไม่เอา
อย่างพระพุทธเจ้าท่านตรัสนะ ความจริงมีอยู่ในกายนี้
จะมองให้เป็นของหอมของสะอาดก็ได้ จะมองให้เป็นของสกปรกก็ได้
ผิวข้างนอกนี่มันสะอาดแน่ๆ
เราทำการชำระล้างสะสางอาบน้ำอยู่ทุกวัน มันก็ดูหอม ดูน่าชื่นใจนะ
แต่ลอกออกมานิดเดียว มันแดงเถือกออกมานะ เลือดไหลออกมานี่ไม่น่าดูแล้ว
นี่ก็คือความจริงเช่นกัน
ความจริงภายนอกกับความจริงภายใน เราจะเอาอันไหน นี่ใช่ไหม
อันนี้ก็เหมือนกันคือเรื่องผี เรื่องปรากฏการณ์ทางจิต
เรื่องความน่ากลัวในขณะนั่งสมาธิ
เรามักจะมาตั้งมุมมองว่า เอ๊ะ! มันจริงหรือเปล่า เอ๊ะ! นี่มันใช่ของจริงไหม
ถ้าใช่ มันจะมาทำร้ายเราหรือเปล่า มันจะมาหลอกหลอนเราทำไม
คงเคยไปทำบาปทำกรรมอะไรร่วมกับเขาไว้มั้ง
นี่เขามาเอาคืน อะไรต่างๆ นะ
แล้วก็นึกถึงขั้นว่าเจ้ากรรมนายเวรนะมาขวางไม่ให้ทำสมาธิ
ให้นึกว่าตั้งความนึกไว้นะว่ามันคือการปรุงแต่งจิตชนิดหนึ่ง
ถึงแม้ว่าจะเป็นของจริงก็ตาม นั่นก็เป็นการปรุงแต่งทางจิตได้
เป็นของอะไรบางอย่างภายนอกมากระทบให้เกิดความปรุงแต่งภายในเป็นความกลัว
ความกลัวนั่นแหละของจริงที่สุด
ไม่ต้องพิสูจน์ว่ามันมีหรือไม่มีกันแน่ เราเห็นอยู่ว่ามันมีชัวร์ๆ
ก็ดูตัวนี้แหละว่ามันเป็นความปรุงแต่งของจิต
แล้วความกลัวตั้งอยู่ได้นานแค่ไหน กี่ลมหายใจลองดูไปนะ
ตอนนั้นแหละที่เราได้เจริญสติจริงๆ
แล้วเราจะเป็นสมาธิได้จริงๆ เมื่อเห็นว่าความกลัวเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
มันเกิดขึ้นที่ลมหายใจไหน เดี๋ยวอีกกี่ลมหายใจมันถึงจะดับไป
พอเห็นไปบ่อยๆ มันเกิดสมาธิแบบหนึ่งขึ้นมา
สมาธิจากการเห็นว่าความกลัวไม่เที่ยง ความกลัวไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน
แล้วจิตมันจะเบา มันจะเบิกบาน แล้วไม่สนใจกับภาพนิมิตอะไรที่เกิดขึ้น
จะเป็นผีสางแม่นางโก้งน่ากลัวขนาดไหน
มันก็จะรู้สึกว่า เออ นี่มันมาเพื่อปรุงแต่งจิต
เห็นเป็นการปรุงแต่งจิตท่าเดียว อย่างอื่นไม่เอา
ไม่มีความจริงภายนอก ไม่มีความจริงภายในอะไรทั้งสิ้น
มีแต่ความจริงว่าจิตถูกปรุงแต่งไป แล้วเกิดขึ้น
เดี๋ยวมันก็ต้องหายไปเป็นธรรมดา
< Prev | Next > |
---|