ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta

อัคคิขันธูปมสูตร ว่าด้วยเทียบผู้หญิงกับกองไฟ


กลุ่มไตรปิฎกสิกขา



[๖๙] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกไปในแคว้นโกศล
พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จดำเนินไปสู่ทางไกล
ได้ทอดพระเนตรเห็นไฟกองใหญ่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่ในที่แห่งหนึ่ง
จึงเสด็จแวะจากทาง ประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ใกล้โคนไม้แห่งหนึ่ง
ครั้นแล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายเห็นไฟกองใหญ่โน้นที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่หรือไม่
ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า เห็น พระเจ้าข้า.


ภ. ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
การเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดกองไฟใหญ่โน้นที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่
กับการเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดพระราชธิดา บุตรสาวพราหมณ์
หรือบุตรสาวคฤหบดี ผู้มีฝ่ามือฝ่าเท้าอ่อนนุ่ม อย่างไหนจะดีกว่ากัน.


ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การที่บุคคลเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดพระราชธิดา
บุตรสาวพราหมณ์ หรือบุตรสาวคฤหบดี ผู้มีฝ่ามือฝ่าเท้าอ่อนนุ่ม นี้ดีกว่า
ส่วนการที่บุคคลเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดกองไฟใหญ่โน้น
ที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่ นี้เป็นทุกข์.


ภ. ภิกษุทั้งหลาย เราจะบอกเธอทั้งหลาย จะเตือนเธอทั้งหลาย
การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะแต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ เข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดพระราชธิดา
บุตรสาวพราหมณ์ หรือบุตรสาวคฤหบดี จะดีอะไร
การเข้าไปนั่งกอดนอนกอดกองไฟใหญ่โน้น
ที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่ นี้ดีกว่า ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะเขาจะพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย มีข้อนั้นเป็นเหตุ
แต่ผู้นั้นเมื่อตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะข้อนั้นเป็นปัจจัยเลย
ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก
มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว
มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ เข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดพระราชธิดา
บุตรสาวพราหมณ์ หรือบุตรสาวคฤหบดี ผู้มีฝ่ามือฝ่าเท้าอ่อนนุ่ม
นั่นย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายมิใช่ประโยชน์
เพื่อทุกข์สิ้นกาลนานแก่บุคคลผู้ทุศีลนั้น
และเขาเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก


ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
การที่บุรุษมีกำลัง เอาเชือกขนสัตว์อันเหนียวพันแข้งทั้งสองข้าง แล้วชักไปมา
เชือกหนังพึงบาดผิว บาดผิวแล้ว พึงบาดหนัง
บาดหนังแล้ว พึงบาดเนื้อ บาดเนื้อแล้ว พึงตัดเส้นเอ็น
ตัดเส้นเอ็นแล้ว พึงตัดกระดูก ตัดกระดูกแล้ว หยุดอยู่จดเยื่อในกระดูก
กับการยินดีการกราบไหว้แห่งกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล
หรือคฤหบดีมหาศาล อย่างไหนจะดีกว่ากัน.


ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การยินดีการกราบไหว้แห่งกษัตริย์มหาศาล
พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล นี้ดีกว่า
ส่วนการที่บุรุษมีกำลัง เอาเชือกขนสัตว์อันเหนียวพันแข้งทั้งสองข้าง แล้วชักไปมา
เชือกหนังพึงบาดผิว บาดผิวแล้ว พึงบาดหนัง
บาดหนังแล้ว พึงบาดเนื้อ บาดเนื้อแล้ว พึงตัดเส้นเอ็น
ตัดเส้นเอ็นแล้ว พึงตัดกระดูก ตัดกระดูกแล้ว หยุดอยู่จดเยื่อในกระดูก นี้เป็นทุกข์.


ภ. ภิกษุทั้งหลาย เราจะบอกเธอทั้งหลาย จะเตือนเธอทั้งหลาย
การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ ยินดีการกราบไหว้
แห่งกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล จะดีอะไร
การที่บุรุษมีกำลัง เอาเชือกขนสัตว์อันเหนียวพันแข้งทั้งสองข้าง แล้วชักไปมา
เชือกหนังพึงบาดผิว บาดผิวแล้ว พึงบาดหนัง
บาดหนังแล้ว พึงบาดเนื้อ บาดเนื้อแล้ว พึงตัดเส้นเอ็น
ตัดเส้นเอ็นแล้ว พึงตัดกระดูก ตัดกระดูกแล้ว หยุดอยู่จดเยื่อในกระดูก นี้ดีกว่า
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาจะพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย
มีข้อนั้นเป็นเหตุ แต่ผู้นั้นเมื่อตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะข้อนั้นเป็นปัจจัยเลย
ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก
มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว
มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
ยินดีการกราบไหว้ แห่งกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล
นั่นย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายมิใช่ประโยชน์
เพื่อทุกข์สิ้นกาลนานแก่บุคคลผู้ทุศีลนั้น
และเขาเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก


ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
การที่บุรุษมีกำลัง เอาหอกอันคมชโลมน้ำมัน พุ่งใส่กลางอก
กับการยินดีอัญชลีกรรมของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล
หรือคฤหบดีมหาศาล อย่างไหนจะดีกว่ากัน.


ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การยินดีอัญชลีกรรมของกษัตริย์มหาศาล
พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมพาศาล นี้ดีกว่า
ส่วนการที่บุรุษมีกำลัง เอาหอกอันคมชโลมน้ำมัน
พุ่งใส่กลางอก นี้เป็นทุกข์.


ภ. ภิกษุทั้งหลาย เราจะบอกเธอทั้งหลาย จะเตือนเธอทั้งหลาย
การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ ยินดีอัญชลีกรรมของกษัตริย์มหาศาล
พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล จะดีอะไร
การที่บุรุษมีกำลัง เอาหอกอันคมชโลมน้ำมัน พุ่งใส่กลางอก นี้ดีกว่า
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาจะพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย
มีข้อนั้นเป็นเหตุ แต่ผู้นั้นเมื่อตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะข้อนั้นเป็นปัจจัยเลย
ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก
มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว
มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
ยินดีอัญชลีกรรมของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล
นั่นย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายมิใช่ประโยชน์
เพื่อทุกข์สิ้นกาลนานแก่บุคคลผู้ทุศีลนั้น
และเขาเมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก


ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
การที่บุรุษมีกำลัง เอาแผ่นเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงนาบกาย
กับการบริโภคจีวรที่เขาถวายด้วยศรัทธาของกษัตริย์มหาศาล
พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล อย่างไหนจะดีกว่ากัน.


ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การบริโภคจีวรที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล นี้ดีกว่า
ส่วนการที่บุรุษมีกำลัง เอาแผ่นเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง
นาบกาย นี้เป็นทุกข์.


ภ. ภิกษุทั้งหลาย เราจะบอกเธอทั้งหลาย จะเตือนเธอทั้งหลาย
การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ บริโภคจีวรที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล จะดีอะไร
การที่บุรุษมีกำลัง เอาแผ่นเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง
นาบกาย นี้ดีกว่า ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะเขาจะพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย
มีข้อนั้นเป็นเหตุ แต่ผู้นั้นเมื่อตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะข้อนั้นเป็นปัจจัยเลย
ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก
มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว
มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
บริโภคจีวรที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล
นั่นย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายมิใช่ประโยชน์
เพื่อทุกข์สิ้นกาลนานแก่บุคคลผู้ทุศีลนั้น
และเขาเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก


ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
การที่บุรุษมีกำลัง เอาขอเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง
เกี่ยวปากอ้าไว้ แล้วกรอกก้อนเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง
เข้าในปาก ก้อนเหล็กแดงนั้นจะพึงไหม้ริมฝีปาก ไหม้ปาก ไหม้ลิ้น
ไหม้คอ ไหม้อก ไหม้เรื่อยไปถึงไส้ใหญ่ไส้น้อย แล้วออกทางทวารเบื้องต่ำ
กับการบริโภคบิณฑบาตที่เขาถวายด้วยศรัทธา ของกษัตริย์มหาศาล
พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล อย่างไหนจะดีกว่ากัน.


ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การบริโภคบิณฑบาตที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล นี้ดีกว่า
ส่วนการที่บุรุษมีกำลัง เอาขอเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงเกี่ยวปากอ้าไว้
แล้วกรอกก้อนเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงเข้าในปาก
ก้อนเหล็กแดงนั้นจะพึงไหม้ริมฝีปาก ไหม้ปาก ไหม้ลิ้น ไหม้คอ ไหม้อก
ไหม้เรื่อยไปถึงไส้ใหญ่ไส้น้อย แล้วออกทางทวารเบื้องต่ำ นี้เป็นทุกข์.


ภ. ภิกษุทั้งหลาย เราจะบอกเธอทั้งหลาย จะเตือนเธอทั้งหลาย
การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ บริโภคบิณฑบาตที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล จะดีอะไร
การที่บุรุษมีกำลัง เอาขอเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงเกี่ยวปากอ้าไว้
แล้วกรอกก้อนเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงเข้าในปาก
ก้อนเหล็กแดงนั้นจะพึงไหม้ริมฝีปาก ไหม้ปาก ไหม้ลิ้น ไหม้คอ ไหม้อก
ไหม้เรื่อยไปถึงไส้ใหญ่ไส้น้อย แล้วออกทางทวารเบื้องต่ำ นี้ดีกว่า
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาจะพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย
มีข้อนั้นเป็นเหตุ แต่ผู้นั้นเมื่อตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะข้อนั้นเป็นปัจจัยเลย
ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก
มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว
มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
บริโภคบิณฑบาตที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล
นั่นย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายมิใช่ประโยชน์
เพื่อทุกข์สิ้นกาลนานแก่บุคคลผู้ทุศีลนั้น
และเขาเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก


ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
การที่บุรุษมีกำลัง จับที่ศีรษะหรือที่คอ แล้วให้นั่งทับหรือให้นอนทับ
บนเตียงเหล็กหรือตั่งเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง
กับการบริโภคเตียงตั่งที่เขาถวายด้วยศรัทธาของกษัตริย์มหาศาล
พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล อย่างไหนจะดีกว่ากัน.


ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การบริโภคเตียงตั่งที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล นี้ดีกว่า
ส่วนการที่บุรุษมีกำลัง จับที่ศีรษะหรือที่คอ แล้วให้นั่งทับหรือให้นอนทับ
บนเตียงเหล็กหรือตั่งเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง นี้เป็นทุกข์.


ภ. ภิกษุทั้งหลาย เราจะบอกเธอทั้งหลาย จะเตือนเธอทั้งหลาย
การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ บริโภคเตียงตั่งที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล จะดีอะไร
การที่บุรุษมีกำลัง จับที่ศีรษะหรือที่คอ แล้วให้นั่งทับหรือให้นอนทับ
บนเตียงเหล็กหรือตั่งเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง นี้ดีกว่า
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาจะพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย
มีข้อนั้นเป็นเหตุ แต่ผู้นั้นเมื่อตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะข้อนั้นเป็นปัจจัยเลย
ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก
มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว
มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
บริโภคเตียงตั่งที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล
นั่นย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายมิใช่ประโยชน์
เพื่อทุกข์สิ้นกาลนานแก่บุคคลผู้ทุศีลนั้น
และเขาเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก


ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
การที่บุรุษมีกำลัง จับมัดเอาเท้าขึ้นเอาหัวลง
โยนลงในหม้อเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง
ผู้นั้นถูกไฟเผาเดือดดุจฟองอากาศในหม้อเหล็กแดงนั้น
บางครั้งลอยขึ้นข้างบน บางครั้งจมลงข้างล่าง บางครั้งลอยไปขวาง ๆ
กับการบริโภควิหารที่เขาถวายด้วยศรัทธาของกษัตริย์มหาศาล
พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล อย่างไหนจะดีกว่ากัน.


ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การบริโภควิหารที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล นี้ดีกว่า
ส่วนการที่บุรุษมีกำลัง จับมัดเอาเท้าขึ้นเอาหัวลง
โยนลงในหม้อเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง
ผู้นั้นถูกไฟเผาเดือดดุจฟองอากาศในหม้อเหล็กแดงนั้น
บางครั้งลอยขึ้นข้างบน บางครั้งจมลงข้างล่าง บางครั้งลอยไปขวาง ๆ นี้เป็นทุกข์.


ภ. ภิกษุทั้งหลาย เราจะบอกเธอทั้งหลาย จะเตือนเธอทั้งหลาย
การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ บริโภควิหารที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล จะดีอะไร
การที่บุรุษมีกำลัง จับมัดเอาเท้าขึ้นเอาหัวลง
โยนลงในหม้อเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง
ผู้นั้นถูกไฟเผาเดือดดุจฟองอากาศในหม้อเหล็กแดงนั้น
บางครั้งลอยขึ้นข้างบน บางครั้งจมลงข้างล่าง บางครั้งลอยไปขวาง ๆ นี้ดีกว่า
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาจะพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย
มีข้อนั้นเป็นเหตุ แต่ผู้นั้นเมื่อตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
เพราะข้อนั้นเป็นปัจจัยเลย
ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก
มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว
มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ
มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน
มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
การบริโภควิหารที่เขาถวายด้วยศรัทธา
ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล
นั่นย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายมิใช่ประโยชน์
เพื่อทุกข์สิ้นกาลนานแก่บุคคลผู้ทุศีลนั้น
และเขาเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก


ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
เราทั้งหลายบริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร
ของชนเหล่าใด ปัจจัยของชนเหล่านั้น จักมีผลมาก มีอานิสงส์มาก
และการบรรพชาของเราทั้งหลายจักไม่เป็นหมัน มีผล มีกำไร
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
เมื่อพิจารณาเห็นประโยชน์ตน
ควรแท้ทีเดียวที่จะให้ประโยชน์นั้นสำเร็จด้วยความไม่ประมาท
เมื่อพิจารณาเห็นประโยชน์ผู้อื่น
ก็ควรแท้ทีเดียวที่จะให้ประโยชน์นั้นสำเร็จด้วยความไม่ประมาท
หรือเมื่อพิจารณาเห็นประโยชน์ทั้งสอง
ก็ควรแท้ทีเดียวที่จะให้ประโยชน์ทั้งสองนั้นสำเร็จด้วยความไม่ประมาท.


พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว
และเมื่อกำลังตรัสไวยากรณภาษิตนี้อยู่
โลหิตอุ่นพุ่งออกจากปากของภิกษุ ๖๐ รูป
ภิกษุ ๖๐ รูป (อีกพวก) ลาสิกขาสึกมาเป็นคฤหัสถ์
ด้วยกราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทำได้ยาก
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทำได้แสนยาก
ภิกษุอีก ๖๐ รูป จิตหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น.


อัคคิขันธูปมสูตร จบ



(อัคคิขันธูปมสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๗)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP