ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta
ปฐมอัคคิสูตร ว่าด้วยไฟ
กลุ่มไตรปิฎกสิกขา
[๔๓] ภิกษุทั้งหลาย ไฟ ๗ กองนี้ ๗ กองเป็นไฉน คือ
ไฟคือราคะ ๑ ไฟคือโทสะ ๑ ไฟคือโมหะ ๑
ไฟคืออาหุไนยบุคคล ๑ ไฟคือคหบดี ๑
ไฟคือทักขิไณยบุคคล ๑ ไฟเกิดแต่ไม้ ๑
ภิกษุทั้งหลาย ไฟ ๗ กองนี้แล.
ปฐมอัคคิสูตร จบ
อรรถกถาปฐมอัคคิสูตร
ปฐมอัคคิสูตรมีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
กิเลสทั้งหลายมีราคะเป็นต้นแม้ทั้งหมด
ชื่อว่า ไฟ (อคฺคี) ด้วยอรรถว่าตามเผาผลาญ.
ส่วนในคำเป็นต้นว่า ไฟคืออาหุไนยบุคคล (อาหุเนยฺยคฺคิ) นี้
พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ สักการะท่านเรียกว่า อาหุนะ
ในคำว่า อาหุไนย นี้ ชนเหล่าใดย่อมควรซึ่งอาหุนะ
เหตุนั้น ชนเหล่านั้น ชื่อว่า อาหุไนยบุคคล (ชนผู้ควรซึ่งอาหุนะ).
จริงอยู่ มารดาและบิดาทั้งหลายย่อมควรซึ่งอาหุนะ
เพราะท่านทั้งสองเป็นผู้มีอุปการะมากแก่บุตรทั้งหลาย
บุตรทั้งหลายผู้ปฏิบัติผิดในมารดาแลบิดาทั้ง ๒ นั้น
ย่อมบังเกิดในอบายมีนรกเป็นต้น
เพราะเหตุนั้น ถึงแม้มารดาและบิดาจะมิได้ตามเผาผลาญอยู่ก็จริง
ถึงกระนั้น ท่านทั้ง ๒ ก็ยังเป็นปัจจัยแก่การตามเผาผลาญอยู่
เพราะเหตุนั้น จึงเรียกมารดาบิดาว่า ไฟคืออาหุไนยบุคคล
ด้วยอรรถว่าตามเผาผลาญนั่นแล.
ก็เจ้าบ้านท่านเรียกว่า คหบดี
จริงอยู่ คหบดีนั้นมีอุปการะมากแก่มาตุคาม
ด้วยการมอบที่นอน เสื้อผ้า และเครื่องประดับ เป็นต้น ให้
มาตุคามผู้นอกใจสามีนั้น ย่อมบังเกิดในอบายมีนรกเป็นต้น
เพราะฉะนั้น สามีแม้นั้น ท่านก็เรียกว่า ไฟคือคหบดี (คหปตคฺคิ)
ด้วยอรรถว่าตามเผาผลาญ โดยนัยก่อนนั่นแล.
ก็ปัจจัย ๔ ชื่อว่า ทักษิณา ในคำว่า ไฟคือทักขิไณยบุคคล (ทกฺขิเณยฺยคฺคิ) นี้
ภิกษุสงฆ์ชื่อว่า ทักขิไณยบุคคล (ผู้ควรแก่ทักษิณา).
จริงอยู่ ภิกษุสงฆ์นั้นย่อมเป็นผู้มีอุปการะมากแก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย
ด้วยการประกอบไว้ในกัลยาณธรรมทั้งหลายมีอาทิอย่างนี้
คือ ในสรณะ ๓ ศีล ๕ ศีล ๑๐ การบำรุงมารดาและบิดา
การบำรุงสมณะและพราหมณ์ผู้ตั้งอยู่ในธรรม
คฤหัสถ์ผู้ปฏิบัติผิดในภิกษุสงฆ์นั้น ด่า บริภาษภิกษุสงฆ์
ย่อมบังเกิดในอบายทั้งหลายมีนรกเป็นต้น
เพราะฉะนั้น ภิกษุสงฆ์นั้น จึงเรียกว่า ไฟคือทักขิไณยบุคคล (ทกฺขิเณยฺยคฺคิ)
ด้วยอรรถว่า ตามเผาผลาญโดยนัยก่อนนั่นแล.
ไฟตามปกติที่เกิดแต่ไม้ ชื่อว่า ไฟเกิดแต่ไม้ (กฏฺฐคฺคิ).
จบ อรรถกถาปฐมอัคคิสูตร
(ปฐมอัคคิสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๗)
< Prev | Next > |
---|