เล่าสู่กันฟัง Lite Sharing
Seven Pounds
งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it
รูปภาพประกอบจากhttp://www.sonypictures.com/movies/sevenpounds/
สวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ
โทรศัพท์มือถือมีประโยชน์หลายประการ
แต่ก็มีโทษหลายอย่างด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น
เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีผลวิจัยชี้ว่าเด็กญี่ปุ่นสายตาแย่
เพราะเล่นโทรศัพท์มือถือ โดยกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม
กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น
ได้ทำการสำรวจเด็กและเยาวชนประมาณ ๓.๔ ล้านคน จึงได้ข้อสรุปดังกล่าว
http://www.manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9590000127927
หรือการเล่นโทรศัพท์มือถือในบางสถานที่หรือบางเวลาที่ไม่เหมาะสม
ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้ ยกตัวอย่างเช่น
หลายครั้งที่ผมไปขึ้นรถไฟฟ้า ผมมักจะเห็นคนที่เดินในสถานีรถไฟฟ้า
เดินดูโทรศัพท์มือถือ หรือกดโทรศัพท์มือถือไปด้วย
โดยไม่ใช่แค่เพียงตรงบริเวณทางราบเท่านั้น
ในหลายครั้งผมได้เห็นคนที่กำลังเดินขึ้นลงบันไดนั้น
เดินขึ้นลงโดยดูโทรศัพท์มือถือ หรือกดโทรศัพท์มือถือไปด้วย
โดยสายตาไม่ได้สนใจมองบันได แต่มัวมองแต่ที่โทรศัพท์มือถือ
ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากครับ
มีญาติธรรมท่านหนึ่งเคยเล่าให้ผมฟังว่า
เธอมีเพื่อนที่รู้จักคนหนึ่งได้ไปร่วมสัมมนา ณ สถานที่แห่งหนึ่ง
ซึ่งในวันที่ไปสัมมนานั้น เพื่อนคนนั้นได้เดินลงบันได
โดยกดโทรศัพท์มือถือส่งข้อความไปด้วย
ทำให้เธอก้าวลงบันไดพลาด ตกบันไดลงมา ศีรษะกระแทกบันได
แล้วก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่รู้สึกตัวไปเลย รักษาก็ไม่หาย
ฉะนั้นแล้ว เรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือนี้
เราพึงต้องมีระเบียบวินัย รู้ว่าตอนไหนใช้ได้ และตอนไหนไม่ควรใช้ครับ
เวลาที่เราไม่ควรดูหรือกดโทรศัพท์มือถือ ยกตัวอย่างเช่น
เวลาที่เดินไปเดินมา (เพราะอาจจะทำให้หกล้มได้
หรือเดินไปชนคนอื่น หรือชนสิ่งของอื่นได้) เวลาเดินขึ้นลงบันได
เวลาเดินข้ามถนน หรือเวลาขับรถ เป็นต้น
อย่างในช่วงที่ผ่านมาที่เกมโปเกมอนโกเป็นที่นิยมแพร่หลายนั้น
เราก็คงเคยพบเห็นข่าวของบางคนที่ขับรถไปด้วย
และเล่นเกมไล่จับตัวโปเกมอนไปด้วย ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่งครับ
บ้านของผมอยู่ในซอยที่มีหอพักรวมประมาณสิบหอพักได้
ผลกระทบสืบเนื่องจากการมีหอพักในซอยเยอะก็คือ
หอพักไม่มีที่จอดรถ หรือมีที่จอดรถไม่เพียงพอ
ทำให้ผู้อาศัยต้องนำรถยนต์มาจอดในพื้นที่ในซอย
ซึ่งก็ทำให้รถยนต์สวนไปมากันไม่ได้ หรือสวนไปมากันได้ยาก
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างที่ผมกำลังขับรถออกจากซอย
ก็ได้มีรถมอเตอร์ไซต์คันหนึ่งแล่นพุ่งตรงมาที่รถผมอย่างช้า ๆ
โดยผมเองก็ไม่สามารถจะขับรถหลบเขาได้
เพราะว่ามีรถจอดในซอยอยู่ทั้งด้านซ้ายและขวา
ผมพยายามมองว่าคนขับรถมอเตอร์ไซต์เขาจะขับรถเบี่ยงหลบไหม
ก็เห็นว่าคนขับรถมอเตอร์ไซต์นั้น มือขวาจับแฮนด์รถอยู่
ส่วนมือซ้ายเขากำลังกดโทรศัพท์มือถืออย่างเพลินอยู่เลย
โดยลักษณะดูเหมือนว่ากำลังกด text ข้อความเสียด้วย
และเขาไม่ได้มองถนนเลย ก้มหน้ามองโทรศัพท์มือถืออย่างเดียว
ผมจึงกดแตรเสียงดังสั้น ๆ ไป ๒ ที เพื่อให้เขารู้ตัว
เขาเงยหน้าขึ้นมามองรถผมด้วยสีหน้าเฉย ๆ
แล้วเขาก็ขับรถเบี่ยงชิดไปทางซ้ายมือของเขาผ่านรถยนต์ผมไป
ผมเองนั้นเหยียบเบรกจอดรถนิ่งรออยู่ เห็นดังนั้นแล้วก็รู้สึกโล่งใจ
พอเขาขับรถมอเตอร์ไซต์ผ่านรถยนต์ผมไปแล้ว
ผมมองไปที่กระจกข้างขวาของรถยนต์ผม
ก็เห็นว่าพอคนขับรถมอเตอร์ไซต์นั้นขับผ่านไปแล้ว
เขาก็กลับไปก้มหน้ากดโทรศัพท์มือถือต่อไป
เห็นแบบนี้แล้วก็ทำให้ผมรู้สึกว่า
ท้องถนนบ้านเราเป็นสถานที่อันตรายมากนะครับ
แม้กระทั่งในซอยบ้านเราเองก็ตาม
เมื่อประสบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว
ก็ทำให้ผมนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง “Seven Pounds” นี้แหละครับ
(หรือในชื่อภาษาไทยว่า “เจ็ดหัวใจศรัทธา”)
ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ (ค.ศ. 2008) แล้วล่ะ
โดยพระเอกของเรื่องชื่อว่า Tim Thomas
ซึ่งเดิมทีนั้น Tim เป็นคนหนุ่มที่มีการงานและฐานะดี
มีคู่หมั้นแสนสวยและแสนดี อยู่ด้วยกันกับเขาด้วยรักและอบอุ่น
แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ในระหว่างที่ Tim กำลังขับรถยนต์อยู่บนถนนนั้น
Tim ได้อ่านอีเมล์ และได้กดส่ง text ส่งข้อความไปด้วยในระหว่างขับรถ
คู่หมั้นของ Tim ได้บอกให้ Tim หยุดเล่นโทรศัพท์มือถือและตั้งใจขับรถ
แต่ Tim ก็ไม่ได้เชื่อฟังคู่หมั้นของเขา
ด้วยความที่เล่นโทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถบนถนนนั้น
Tim ได้ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีคนเสียชีวิตทั้งหมด ๗ คน
ซึ่งรวมทั้งคู่หมั้นแสนสวยและแสนดีของ Tim เองด้วย
อุบัติเหตุซึ่งทำให้มีคนตายทั้งหมด ๗ คนนี้
นำมาซึ่งความทุกข์ทรมานเศร้าโศกในชีวิตของ Tim อย่างมาก
ทำให้ Tim พยายามทุกทางที่จะหาหนทางที่จะไถ่บาปของเขา
Tim จะสามารถหาหนทางไถ่บาปได้หรือไม่อย่างไร
และเขาจะต้องประสบอุปสรรคอะไรบ้าง
สำหรับท่านที่สนใจก็สามารถหาภาพยนตร์เรื่องนี้มาชมได้นะครับ
แต่หากท่านได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว
ย่อมจะได้เห็นความทุกข์ทรมานเสียใจของ Tim
ที่เขาได้ทำให้เกิดอุบัติเหตุทำให้คนตาย ๗ คน
รวมทั้งคู่หมั้นของเขาเองด้วย
สำหรับท่านที่ชอบเล่นโทรศัพท์มือถือระหว่างเดิน
หรือระหว่างขับรถยนต์แล้ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมแนะนำอย่างยิ่งให้ท่านหามาชมครับ
เพราะว่าชมแล้วจะช่วยสร้างบรรยากาศที่น่าหวั่นเกรง
ทำให้เราไม่กล้าที่จะเล่นโทรศัพท์มือถือในระหว่างขับรถ
บางท่านอาจจะรู้สึกว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือใช้เวลาสั้น ๆ เอง
ไม่น่าจะเป็นอะไร ไม่เกิดอันตรายอะไรหรอก
แต่จริง ๆ แล้ว การละสายตาจากท้องถนน
ไปมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือในช่วงเวลาเพียงแค่ ๒ วินาที
ก็สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้แล้ว
เราสามารถลองดูในวิดีโอคลิปนี้เป็นตัวอย่างก็ได้นะครับ
https://youtu.be/_yP1lnS9qY0
ถึงแม้ว่าบางท่านจะไม่เล่นโทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถก็ตาม
ก็ควรจะต้องระมัดระวังอยู่ดีนะครับ เพราะแม้ว่าเราจะไม่เล่น
แต่ว่าคนอื่นเขาเล่นโทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถก็มี
เราจึงต้องระมัดระวังคนอื่นเขาด้วย ไม่ควรประมาท
ทั้งนี้ ในเรื่องของความประมาทนี้
ในคาถาธรรมบท อัปปมาทวรรค (พระสุตตันตปิฎก
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต)
ได้กล่าวว่า “ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย” ครับ
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=330&Z=365&pagebreak=0
< Prev | Next > |
---|