ดับเพลิง Calm Down
นิทานโทสะ ตอน ฉันทำประโยชน์นะ…ชมหน่อยสิ
โดย ชลนิล
รูปภาพประกอบโดย เซมเบ้
คนที่อยู่กรุงเทพฯ คงไม่ค่อยได้เห็นบรรยากาศการทำบุญ ตักบาตรที่วัดป่าตอนเช้า ๆ สักเท่าใดนัก...
วัดที่ผมไปทำบุญเป็นประจำจะมีญาติโยมมาใส่บาตร ทำบุญกันเป็นจำนวนมากทุกวัน ริมถนนหน้าวัดจะต่อหลังคายาว ตั้งโต๊ะเรียงเป็นแถวให้วางถาดอาหารที่จะใส่บาตรได้อย่างสะดวกสบาย
ถนนหน้าวัดร่มรื่น ต้นไม้เรียงเป็นระยะ บรรยากาศสดชื่น อากาศยามเช้าบริสุทธ์ เย็นสบาย พาให้จิตใจเบิกบาน มีความสุข
ผมจะมาถึงหน้าวัด รอใส่บาตรแต่เช้า ก่อนพระจะออกไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน (พระวัดนี้จะเข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้านก่อน แล้วค่อยกลับมาบิณฑบาตหน้าวัดเป็นจุดสุดท้าย)
ความที่มาเช้ากว่าคนทั่วไป จึงมีโอกาสได้สร้างกุศลมากกว่าการทำบุญ ใส่บาตรธรรมดา
บริเวณถนนหน้าวัดตอนเช้า ๆ จะกลาดเกลื่อนด้วยใบไม้ที่ร่วงจากต้นข้างทาง ผมเห็นคุณลุงแก่ ๆ สองคนช่วยกันกวาดใบไม้ ทำความสะอาดกันอย่างขยันขันแข็ง
ผมเห็นอย่างนั้นก็นึกอนุโมทนา แล้วไปหาไม้กวาดยาวที่วางไว้ตามโคนต้นไม้มาช่วยกวาดอย่างมีความสุข...รู้สึกว่าตนเองเป็นคนดี ได้ทำบุญที่คนทั่วไปมองข้าม
การกวาดใบไม้บนถนนที่ค่อนข้างยาว ทำให้จิตใจกระปรี้กระเปร่า แช่มชื่น ไม่ต่างจากการได้ทำบุญ ใส่บาตร เห็นพระเดินออกจากวัดไปในหมู่บ้านก็ยกมือไหว้ จิตใจก็เบิกบาน มีความสุขโดยไม่ต้องทำอะไรเลย
รุ่นพี่ผมคนหนึ่ง ชอบมาทำบุญที่วัดนี้เป็นประจำเช่นกัน แกมาถึงทีหลังผม เพราะตั้งใจรอใส่บาตรตอนพระท่านกลับจากหมู่บ้านพอดี
แกเห็นผมเพิ่งกวาดใบไม้เสร็จ ก็เข้ามาทักทาย ผมนึกอยากอวดผลงานบุญของตัวเอง ก็เลยคุยด้วยใจแช่มชื่นไปว่า...
...วันนี้ผมกวาดใบไม้หน้าวัดเองเลยนะ...
ใจคิดว่าแกคงจะอนุโมทนา ชื่นชมกับบุญที่ผมทำ...ที่ไหนได้ แกกลับย้อนถามง่าย ๆ แบบไม่สนใจว่า
“แล้วจะมากวาดอย่างนี้ทุกวันหรือเปล่า?”
ผมอึ้ง...บุญกุศลหายวับ...จิตเกิดโทสะพุ่งปรี๊ดทันที แทบจะวิ่งกลับไปเอาไม้กวาดมาฟาดกบาลแก...
หนอย...คนเขาอุตส่าห์ใช้แรงงานเข้าแลกบุญ ทำด้วยใจศรัทธาแท้ ๆ แทนที่จะชื่นชม อนุโมทนา...ตัวเองก็ทำไม่ได้ (ไม่เคยทำด้วย) ก็น่าจะแสดงความยินดีที่คนอื่นเขาทำดีสิ...หนอยแน่ะ...กลับมาพูดจาชวนโมโห กวนโทสะอย่างไม่ยี่หระแบบนี้...ไม่เหมือนคนมาทำบุญเลย (โว้ย)
ผมนึกด่าแกในใจอย่างยืดยาว ไม่กล้าเอาไม้กวาดมาตีหัวแกหรอก กลัวโดนสวนน่ะ...อีกอย่าง...คงน่าสมเพชพิลึกที่มีคนมาทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ที่หน้าวัด
พออดใจ ไม่ให้คำด่าหลุดจากปาก เก็บไม้เก็บมือ ไม่คว้าไม้มาฟาดปากกัน ผมก็เห็นโทสะที่พลุ่งพล่านอยู่ในอก แล้วเกิดสติ...ถามตัวเองว่า...
“เราสามารถมากวาดใบไม้อย่างนี้ได้ทุกวันหรือเปล่า?”
เออ...จริง...คงทำไม่ได้หรอก...นิสัยขี้เกียจแบบนี้!
ให้ทำเป็นครั้งคราวพอไหว ให้ทำประจำคงต้องขอบาย...
แล้วทำไม ทำดีแค่วันเดียวถึงเหลิง ชื่นชมตัวเองเอานักหนา?
เรื่องขี้ประติ๋วแค่นี้ กลับคิดว่าเป็นบุญใหญ่โต...
สมควรแล้วที่โดนตอกกลับเอาแบบนั้น!
โทสะลดระดับลง เพราะมีสติ ไม่เพิ่มเชื้อให้ความโกรธ...และยอมรับคำพูดของรุ่นพี่คนนั้น ตามความเป็นจริง...
คนเรานี่น้า...หลงตัวเองก็ปานนั้น อะไรที่ “ฉัน” ทำน่ะ ต้องดี ต้องวิเศษกว่าคนอื่นเสมอ
แม้กระทั่งเรื่องการทำบุญ!
พอมามองกันตามความเป็นจริงแล้ว...เห็นมั้ยล่ะว่าบุญกุศล ความสุข ความแช่มชื่นใจน่ะ มันหายวับไปในแวบเดียว ที่ได้ยินคำพูดผิดหู...
สู้มาขยันตามดูจิต ด้วยใจที่เป็นกลางดีกว่า...
จิตเป็นกุศลก็ชั่วคราว จิตเป็นอกุศลก็ชั่วคราว
พลิกเปลี่ยนรวดเร็ว...ยึดถือเป็นตัวตนไปทำไม
รู้เท่าทันมัน...จนใจยอมรับความจริงได้...มีประโยชน์กว่ากันเยอะเลย
-----๐๐๐-----
< Prev | Next > |
---|