ดับเพลิง Calm Down
นิทานโทสะ ตอน โรงอภัยทาน
โดย ชลนิล
รูปภาพประกอบโดย เซมเบ้
ที่ผมมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับโรงทานค่อนข้างมาก เพราะช่วงหนึ่งมีโอกาสได้ไปตระเวนช่วยทำโรงทานตามงานบุญต่าง ๆ เป็นประจำ
โดยมาก คนที่ตั้งใจทำโรงทานมักคิดว่าการทำเช่นนี้จะเป็นบุญใหญ่ คนทำได้รับกุศลตลอดสาย โดยไม่มีเรื่องอกุศลใดเข้ามาแทรกแซงเลย
ซึ่งตามประสบการณ์จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น การที่มาแจกทานให้กับผู้คนหลากหลาย มีกิเลสหนาบางต่างกัน คุณจะพบว่าใจเราเองก็สามารถขึ้น ๆ ลง ๆ ตามความแตกต่างของผู้ที่มารับแจกทานได้เหมือนกัน
“ผัดซีอิ๊วอร่อยมากเลย อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ” ถ้าคุณได้ยินคำพูดอย่างนี้ทั้งวัน จิตใจคงพองฟู มีปีติ รู้สึกสวรรค์อยู่ไม่ไกล ต่อให้ยืนหน้าเตาร้อน ๆ ผัดซีอิ๊วกระทะใหญ่ตั้งแต่เช้ายันเย็นก็ไม่เหนื่อยเลย
ขณะเดียวกัน ถ้าคุณเห็นคนเขารับไปกินแค่คำสองคำ แล้วโยนทิ้งลงขยะ เดินไปเลือกของกินที่เต๊นท์อื่นต่อ...คุณจะรู้สึกอย่างไร?
ถ้าไม่ถึงขั้นวิ่งไปโดดถีบตามหลัง ก็คงนึกอยากตะโกนด่ามันเหมือนกัน!
เมื่อคุณทำโรงทานเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม รินแจกผู้คนทีละแก้ว
พอแดดร้อน ๆ เห็นคนที่มารับได้ดื่มดับกระหาย ใจคุณย่อมแช่มชื่น เย็นฉ่ำด้วย
แต่ถ้าจู่ ๆ มีบางคนเดินเข้ามาแล้วบอกว่า...
“ขอยกขวดไปเลยได้มั้ย?” คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้าน้ำอัดลมที่เขาขอนั้น มันมีขนาดสองลิตร สามารถรินแจกคนอื่น ๆ ได้เป็นสิบ ๆ แก้ว
ใจคงนึกอยากตอบไปว่า...
“ไปซื้อเอาเองโน้น...ไป๊...”
แน่นอน วาจานี้ย่อมเต็มไปด้วยโทสะ ชวนหาเรื่อง นึกรังเกียจความโลภของคนขอซะจนไม่อยากมองหน้า แต่เมื่อคุณมาเปิดโรงทานแบบนี้ คงจะพูดอย่างนั้นไม่ได้...
เพราะฉะนั้น...คุณจะให้น้ำอัดลมขวดใหญ่แก่เขาหรือไม่?
พอคุณมาทำโรงทานข้าวราดแกง กำลังตักข้าวแกงแจกให้กับคนที่มาเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ แล้วมีบางคนที่คุณไม่รู้จัก โผล่มาจากด้านหลังบอกว่า...
“ขอก่อนได้มั้ย”
เห็นชัด ๆ ว่าเป็นการลัดคิวอย่างหน้าด้าน ๆ แล้วคุณจะตักให้เขามั้ย?
“ยืนรอข้างหน้าเหมือนคนอื่นดีกว่าครับ” ผมเคยพยายามทำใจเย็น ตอบไปอย่างนั้น
“ไม่เอาล่ะ แถวมันยาว ขี้เกียจรอ...ขอตรงนี้ดีกว่า”
เจอคนพูดกลับมาแบบนี้...คุณจะให้หรือไม่ให้?
ไม่ว่าคุณจะให้หรือไม่ให้ โทสะก็เกิดแล้ว...ความโกรธเกิดขึ้นทันทีที่มีเหตุมาขัดใจ มีเหตุการณ์ที่ไม่อยู่ในความควบคุม ไม่เป็นไปตามสมควรที่จะเป็น...
โรงทาน...สามารถเปลี่ยนเป็น “โรงฝึกให้อภัยทาน” ได้
ถ้าคุณขยันตามดูจิตใจตนระหว่างแจกทาน คุณจะเห็นกุศล – อกุศลเกิดขึ้นชัดเจนสลับกันตลอดเวลา เดี๋ยวจิตแช่มชื่น มีความสุข...เดี๋ยวจิตมีโทสะ ไม่พอใจ
ครั้งที่มีคนมาขอน้ำอัดลมขวดใหญ่นั้น...ผมตัดใจ ข่มโทสะยกให้เขาไป
ครั้งที่มีคนมาขอลัดคิวให้ตักข้าว...ผมก็ตักส่งให้จบ ๆ ไป ไม่งั้นเขาก็จะเซ้าซี้ไม่เลิก เราก็จะมีความรำคาญใจ เกิดโทสะไม่จบไม่สิ้น
ทั้งสองเรื่องนี้ทำให้ผมได้ฝึกมองข้ามเงื่อนไขเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อประโยชน์ที่ใหญ่กว่า
คิดจะทำบุญทั้งที ก็เลยไม่อยากให้กิเลสในใจออกหน้าออกตามากเกินไป...เท่านั้นเอง
การทำบุญให้ทาน มีประโยชน์ใหญ่โตกว่าที่เราคิด ยิ่งการให้ทานใหญ่ เช่นตั้งโรงทานแจกคนแบบไม่เลือกหน้าเช่นนี้ สิ่งที่ได้รับไม่ใช่แค่บุญกุศลเท่านั้น
โรงทาน ยังเป็นโรงเรียนให้ได้รู้จักจิตใจตน...ให้ได้มองเห็น “โทสะ” ที่เกิดท่ามกลางแหล่งบุญ และได้รู้จักฝึกฝนที่จะให้ “อภัย”
เรียนรู้ ฝึกฝน จนจิตใจตนกลายเป็น “โรงอภัยทาน” ที่ยิ่งใหญ่ได้...ย่อมสมค่ากับการได้เกิดเป็นชาวพุทธคนหนึ่ง
-----๐๐๐-----
< Prev | Next > |
---|