ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta
รัชชสูตร ว่าด้วยมารเชิญให้เสวยราชสมบัติ
กลุ่มไตรปิฎกสิกขา
[๔๗๕] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ กระท่อมอันตั้งอยู่ในป่า
ในประเทศหิมวันต์ แคว้นโกศล.
ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับพักผ่อนอยู่ในที่ลับได้ทรงปริวิตกว่า
เราจะสามารถเสวยรัชสมบัติโดยธรรม โดยที่ไม่เบียดเบียนเอง
ไม่ใช้ให้ผู้อื่นเบียดเบียน ไม่ทำผู้อื่นให้เสื่อมเอง ไม่ใช้ให้เขาทำผู้อื่นให้เสื่อม
ไม่เศร้าโศกเอง ไม่ทำให้ผู้อื่นเศร้าโศกได้หรือไม่.
[๔๗๖] ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปทราบความปริวิตกแห่งพระหฤทัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยจิตแล้ว
เข้าไปหาพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นแล้วจึงกราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงเสวยรัชสมบัติเถิด พระเจ้าข้า
ขอพระสุคตจงเสวยรัชสมบัติโดยธรรม โดยที่ไม่เบียดเบียนเอง
ไม่ใช้ให้ผู้อื่นเบียดเบียน ไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเอง ไม่ใช้ให้เขาทำคนอื่นให้เสื่อม
ไม่เศร้าโศกเอง ไม่ทำให้ผู้อื่นเศร้าโศก.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า มารผู้มีบาป ท่านเห็นอะไรของเรา ทำไมจึงได้พูดกะเราอย่างนี้ว่า
ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงเสวยรัชสมบัติเถิด พระเจ้าข้า
ขอพระสุคตจงเสวยรัชสมบัติโดยธรรม โดยที่ไม่เบียดเบียนเอง
ไม่ใช้ให้ผู้อื่นเบียดเบียน ไม่ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเอง ไม่ใช้ให้เขาทำผู้อื่นให้เสื่อม
ไม่เศร้าโศกเอง ไม่ทำให้ผู้อื่นเศร้าโศก.
มารกราบทูลว่า พระเจ้าข้า อิทธิบาททั้ง ๔ พระองค์ทรงบำเพ็ญให้เจริญ กระทำให้มาก
กระทำให้เป็นดุจยาน ทำให้เป็นวัตถุที่ตั้ง กระทำไม่หยุด
สั่งสมปรารภด้วยดีแล้ว พระเจ้าข้า ก็เมื่อพระองค์ทรงพระประสงค์
ทรงอธิษฐานภูเขาหลวงชื่อหิมพานต์ให้เป็นทองคำล้วน ภูเขานั้นก็พึงเป็นทองคำล้วน.
[๔๗๗] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะมารด้วยพระคาถาว่า
ภูเขาทองคำล้วนมีสีสุกปลั่ง ถึงสองเท่าก็ยังไม่พอแก่บุคคลหนึ่ง
บุคคลทราบดังนี้แล้ว พึงประพฤติสงบ
ผู้ใดได้เห็นทุกข์มีกามเป็นเหตุแล้ว ไฉนผู้นั้นจะพึงน้อมใจไปในกามเล่า
บุคคลทราบอุปธิ (กามคุณ ๕) ว่าเป็นเครื่องข้องในโลกแล้ว
พึงศึกษาเพื่อกำจัดอุปธินั้นเสีย.
ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์ เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้จักเรา
พระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นนั่นเอง.
รัชชสูตร จบ
(รัชชสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๒๕)
< Prev | Next > |
---|