ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ถ้าจำเป็นต้องทิ้งหนังสือธรรมะหรือรูปพระ ทำอย่างไรจึงจะไม่บาป

ถาม – ถ้ามีความจำเป็นต้องทิ้งหนังสือธรรมะหรือรูปพระ ทำอย่างไรจึงจะไม่บาปครับ

อันนี้ผมก็เคยได้รับคำแนะนำมานะครับว่า
ให้มองว่าการที่เราจะรู้สึกว่าเป็นหนังสือธรรมะหรือว่าเป็นรูปภาพที่เป็นมงคล
เราไปทำลายแล้วจะบาปอะไรต่างๆ นี่
มันเป็นเพราะว่าจิตไปยึด ว่านั่นเป็นของสูง นั่นเป็นสิ่งที่มีความหมายในทางกุศล
เราไปทำลายก็เท่ากับทำลายกุศล
ซึ่งสิ่งตรงกันข้ามกับกุศลก็คืออกุศลนั่นเอง สิ่งตรงกันข้ามกับบุญก็คือบาปนั่นเอง
วิธีหนึ่งที่จะทำให้สบายใจ ถ้าหากจำเป็นต้องทิ้งหรือว่าทำลายหนังสือหรือว่าซีดี
หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีรูปมงคลอยู่ ก็คือทำให้รูปมงคลนั้นหายไป
มันมีคำแนะนำไปต่างๆ นานานะ
ซึ่งในช่วงแรกๆ อาจจะไม่สบายใจหรอกที่จะทำแบบนั้น
อาจจะต้องใช้เครื่องตัดกระดาษ มันมีเครื่องทำลายเอกสารอะไรแบบนี้

ขอให้คิดว่าเราไม่ได้ทำลายธรรมะ
แต่ให้คิดว่าเราทำให้รูปนิมิตหรือว่าสิ่งที่ใจไปยึดว่าเป็นมงคลเป็นมหากุศล แปรรูปไป
เหลือแต่กระดาษเปล่าๆ เหลือแต่ความเป็นธาตุดิน
ที่ดั้งเดิมนี่กระดาษไม่มีความเป็นมงคลหรือว่าเป็นอัปมงคลอะไรทั้งสิ้นแหละ
มันเป็นกลางๆ มันเป็นธาตุที่แค่นแข็ง
มันเป็นสิ่งที่เราจับต้องได้ แล้วรู้ว่านั่นน่ะมันเป็นกระดาษเท่านั้นเอง

แต่ถ้าหากว่าเมื่อไหร่มีรูปนิมิตไปปรากฏอยู่ในกระดาษ เราก็ยึดว่านั่นเป็นของสูง
จิตที่ยึดว่านั่นเป็นของสูงแล้วเคารพสักการะนั้นดี เป็นกุศล
เกิดกุศลจิตขึ้นมา เกิดความสว่างขึ้นมา
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราจำเป็นที่จะต้องทำให้หายไป เราไม่สามารถที่จะเก็บไว้
ไม่มีที่เก็บหรืออะไรก็แล้วแต่ จะมีเหตุผลกลใดก็แล้วแต่
บางคนน่ะ คืออันนี้ก็เข้าใจนะ พอรู้สึกว่าหนังสือที่มีอยู่เป็นสัทธรรมปฏิรูป
เป็นของปลอม เป็นของไม่จริง เป็นของไม่ดี เป็นสิ่งที่จะพาลงเหวนะ
แล้วก็เราไม่อยากจะไปบริจาคต่อกับใคร
แต่ว่าบังเอิญที่ปกหรือว่าข้างในหนังสือมีรูปพระสวยๆ
หรือว่ามีบุคคลที่น่าเคารพศรัทธาแปะอยู่นะ
ก็จะเกิดความกระอักกระอ่วนใจ เก็บไว้ก็ไม่ได้ ทำลายก็ไม่รู้สึกสบายใจ
เกิดความรู้สึกกังวลขึ้นมา

ทางที่ดีที่สุดก็อาจจะใช้เครื่องทำลายเอกสารนะครับ
เพราะว่าเครื่องทำลายเอกสารน่ะมันมีหน้าที่ของมันชัดเจน
เราหย่อนลงไป มันก็กลายเป็นกระดาษ คืนสภาพสู่ความเป็นธาตุดินนะ
นิมิตหายไป เราก็ไม่ต้องกังวลว่าเราทำบาปอะไรหรือเปล่า
แต่ถ้าหากว่าไม่มีเครื่องทำลายเอกสาร ก็อาจจะใช้ที่มีคนแนะนำไว้ก็อาจใช้กรรไกรตัดเป็นชิ้นๆ
อย่าฉีกเองเพราะถ้าฉีกเองบางทีมันต้องใช้กำลังใจในการทำลาย
เหมือนกับลักษณะที่เราจะฉีกจดหมายคนรัก
หรือว่าจะทำลายด้วยอาการที่มันมีโทสะอะไรแบบนั้น
จะไปพ้องกัน จะไปแมทช์ (match) กันกับอาการที่มันไม่ดี แล้วจะทำให้เกิดความกังวลไป
ทางที่ดีคือใช้กรรไกรตัดอย่างประณีต
แล้วก็มีความรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาว่านี่เราไม่ได้กำลังทำลายธรรมะ
แต่ว่าเรากำลังทำให้กระดาษเนี่ยมันหมดสภาพความเป็นวัตถุมงคล
หรือว่าเป็นที่ประทับของนิมิตมงคลนะครับ
ให้ตั้งจิตไว้อย่างนั้น แล้วก็ทำลายทิ้ง ก็จะไม่ได้มีอะไรเป็นบาป เป็นอกุศล
บางคนให้ใช้ไฟ ซึ่งก็แล้วแต่นะ
คือถ้าอาการของใจเรามีลักษณะที่เราไปทำลายทิ้ง
โดยไม่เกิดความรู้สึกว่ามันเข้ากันกับการใช้โทสะ ก็โอเคหมด
จะใช้ไฟหรือว่าจะใช้กรรไกรตัดก็แล้วแต่นะครับ
ขออย่างเดียวอย่ามีความกังวลหรือว่าอย่ามีจิตที่หม่นหมองไปด้วยก็แล้วกัน
เพราะความกังวลหรือว่าความรู้สึกหม่นหมอง
มันทำให้ ตัวนี้แหละที่จะดึงที่จะลากเอาความเป็นอกุศลเข้ามานะครับ

---

แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ