จากใจ บ.ก.ใกล้ตัว Lite Talk
ฉบับที่ ๙๘ พูดเล่นกับเพ้อเจ้อต่างกันตรงไหน?
พูดเล่นเดี๋ยวเดียวจะมีสติกลับมาอยู่กับความจริงได้ทันที
แต่เพ้อเจ้อนานๆจะเลื่อนลอยจนมีสติกลับมาอยู่กับความจริงได้ยาก
การพูดมีส่วนสำคัญที่สุด
คนทั่วไปแทบจะชี้ได้เลยว่าใครมีสติมากหรือน้อย
เพียงด้วยการฟังเขาหรือเธอพูดไม่กี่ประโยค
หากตั้งใจฟังใครพูดแล้วรู้สึกว่าเราเองพลอยมีสติอยู่กับสิ่งที่เขาพูด
ก็แสดงให้เห็นว่าสติของเขามีอยู่มากกว่าหรือเสมอกับเรา
เมื่อรู้จักกันนานๆก็จะเห็นว่าเป็นคนวางแผนทำอะไรตามเป้าหมาย
จะพูดอะไรก็รู้อยู่ว่าต้องการสิ่งใด การงาน หรือพูดเล่นสนุก
สังเกตดูคนที่พูดเล่นสนุกนั้น พอได้เสียงหัวเราะจากคนฟัง
ก็จะเหมือนได้บรรลุเป้าหมาย จะไม่พล่ามต่อวกไปวนมา
ตรงข้าม หากฟังใครพูดไม่กี่คำ
แล้วเรารู้สึกมัวมน พร่าเลือน อยากเบือนหน้าหนี
เหมือนถูกรบกวนด้วยคลื่นความปั่นป่วนในจิตอันฟุ้งซ่านจัดของคนพูด
ก็สะท้อนว่าสติของเขาหรือเธอค่อนข้างเลอะเทอะ
เมื่อรู้จักกันนานๆก็จะเห็นว่าเป็นคนไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย
หรือนึกอยากพูดอะไรก็พูด
บางทีก็พล่ามเพ้อเจ้อแบบไม่ต้องคิด ไม่ต้องตั้งสติใดๆ
ใครจะขำหรือไม่ขำ เรื่องจะมีสาระหรือไม่มีสาระ
พูดแล้วทำให้ใครรู้สึกดีหรือรู้สึกแย่ ก็เดินหน้าพูดมันต่อไป
แม้จะให้พูดเหลวไหลกับตัวเองเป็นวรรคเป็นเวรก็เอา
ถ้ารู้จักการพูดเพื่อให้ได้เป้าหมาย
พูดเพื่อให้เกิดประโยชน์ พูดให้คนฟังมีความสุข
แม้พูดเล่นวันละร้อยครั้ง ก็มีสติคุมอยู่ทั้งร้อยครั้ง
สรุปคือพูดเล่นกับเพ้อเจ้อ วัดกันตรงสติเป็นสำคัญครับ
ดังตฤณ
กุมภาพันธ์ ๕๖
หลายคนคงเคยได้ยินเรื่อง ‘โรคกรรมเก่า’ มาบ้าง
โรคนี้มีที่มาอย่างไร และ “ถ้าป่วยด้วยโรคจากกรรมเก่าจะบรรเทาได้อย่างไร”
คอลัมน์ “ดังตฤณวิสัชนา” ฉบับนี้มีคำตอบค่ะ
เราขาดสิ่งของได้ในบางเวลา แต่ขาดสติไม่ได้ในทุกเวลา
คอลัมน์ “จุดหมายปลายธรรม” ฉบับนี้
คุณงดงาม เชิญทุกคนมาร่วมเจริญสติ
ในตอน“สติจำเป็นในที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อ”
คุณ Aims Astro มีทางออกในเรื่องนี้ที่คอลัมน์ “โหรา (ไม่) คาใจ” ฉบับนี้ค่ะ
< Prev | Next > |
---|