กระปุกออมสิน Money Literacy
ตั้งเป้าหมายการเงินด้วย S.M.A.R.T
Mr.Messenger
สนใจติดตามข่าวสารการลงทุนได้ที่ http://twitter.com/MrMessenger
ทุกคนมีเป้าหมายในชีวิต บ้างก็ฝันอยากมีความรักที่สวยงาม อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากมีเงินทองให้ใช้มากมายยามเกษียณ
การจะไปให้ถึงเป้าหมาย ทำให้ได้ตามที่เราต้องการ สิ่งที่จำเป็นก็คือ การวางแผน และเป้าหมายนั้น ต้องไม่เกินเอื้อมจนขาดกำลังใจ ไม่ง่ายเกินไปจนเห็นแล้วขี้เกียจก้าวเดินเร็วๆ ต้องหาจุดตรงกลางของความพอดีให้เจอ
วันนี้ผมมีเคล็ดลับในการตั้งเป้าหมายทางการเงิน ซึ่งจะทำให้เป้าหมายของคุณเป็นสิ่งที่เอื้อมถึง ทั้งยังไม่ง่ายจนเกินไป เพื่อให้เราบรรลุถึงสิ่งที่ตั้งใจไว้นะครับ วิธีนี้ เรียกว่า S.M.A.R.T หมายถึงอะไร ตามนี้เลย
S = Specific หมายถึง เป้าหมาย ควรเป็นเรื่องที่เจาะจงลงไปเลย บางคนตั้งเป้าหมายในใจ เช่น อยากมีเงินเยอะๆ อยากมีบ้านซักหลัง อะไรประมาณนี้ คำถามคือ เงินเยอะ ต้องเยอะแค่ไหนถึงจะเรียกว่า บรรลุเป้าหมาย บ้านต้องใหญ่แค่ไหนเราถึงจะพอ ดังนั้น ให้ระบุไปเลยครับ ว่าเราต้องการอะไร ยกตัวอย่างเช่น ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะซื้อบ้านหลังละ ๕ ล้านบาท เป็นต้น
M = Measurable หมายถึง เป้าหมายนั้นต้องวัดได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จากตัวอย่างเรื่องซื้อบ้าน จะเก็บตังค์รวดเดียวไปถึง ๕ ล้านบาท จากเริ่มต้นมีเงินไม่กี่แสน ก็คงจะดูไกลเกินเอื้อมไป ดังนั้น ควรวัดผลได้ในระยะสั้น เช่น ตั้งไว้ว่า จะเก็บเงินดาวน์บ้านที่งบประมาณ ๕ แสนบาท (๑๐ เปอร์เซ็นต์ของราคาบ้าน) ให้ได้ เมื่อจำนวนเงินลดลง การเก็บเงินก็ดูจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นแล้วใช่ไหมครับ
A = Attainable หมายถึง บรรลุได้ สำเร็จได้ นั้นก็คือ สำรวจเงินในกระเป๋า และรายได้ของเรา ว่ามีช่องทางไหนบ้างที่จะทำให้มีเงินเก็บ เช่น ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น หรือ หารายได้พิเศษ บางส่วนเพิ่ม
R = Realistic หมายถึง เป็นไปได้จริง หรือ คำนวณออกมาให้ได้เลยว่า ต้องเก็บเงินเท่าไหร่ ถึงจะมีเงินดาวน์บ้าน ยกตัวอย่างเช่น จะหักจ่ายใช้จ่าย และออมเงินให้ได้เดือนละ ๑๔,๐๐๐ บาท ไป ๓๖ เดือน เพื่อให้มีเงินเก็บ ๕๐๐,๐๐๐ บาท มาดาวน์บ้าน (จริงๆแล้ว บ้าน หรือคอนโดสมัยนี้ สามารถผ่อนดาวน์ได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโครงการแต่ละโครงการ ต้องไปศึกษากันเองอีกทีนะครับ)
T = Time Bound หมายถึง กำหนดเส้นตาย หรือเป้าหมายไปเลย ในกรณีซื้อบ้านนี่ ก็อาจใช้เป็น “ฉันจะมีบ้านเป็นของตัวเองให้ได้ภายใน ๓ ปี”
จะเห็นว่าเมื่อเราแตกรายละเอียดให้เป้าหมายของเรา ภาพความฝันนั้นก็ดูจะเป็นจริงมากขึ้น และง่ายขึ้นเยอะ และสิ่งที่เราต้องทำหลังจากได้เป้าหมายชัดเจนแล้วแบบนี้ก็คือ เก็บเงินเดือนละ ๑๔,๐๐๐ บาท ไปเรื่อยๆ ห้ามวอกแวก ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอ และความมีวินัยของแต่ละคนแล้วครับ การตั้งเป้าหมายให้ชีวิต มันทำให้เรารู้จักใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ให้มีประโยชน์ และให้มีกำลังใจมีการอยู่ต่อไป แต่เป้าหมายที่ชาวพุทธอย่างเราทุกคนควรตั้งใจไว้เป็นอย่างน้อย ก็คือ “บรรลุโสดาบัน” ให้ได้ ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าตัวจริง
แต่ไม่น่าเชื่อนะครับ การไปถึงเป้าหมายในทางศาสนาพุทธซึ่งเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราได้ตั้งไว้ กลับทำได้แค่เรื่องเล็กๆง่ายๆ ขอแค่ขยัน และหมั่นดูอยู่ทุกวัน แค่นั้นเอง ส่วน “ดู” อะไร ตามอ่านกันมานานขนาดนี้ เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้ากันมาขนาดนี้ เรารู้กันอยู่แล้วนะครับ ว่า “ดู” อะไร
< Prev | Next > |
---|