จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

แข่งและฝึกซ้อมกีฬา



งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it


090_destination

วันปวารณาออกพรรษาได้ผ่านไปแล้วนะครับเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ในช่วงเวลาเข้าพรรษาที่ผ่านมา ท่านที่ได้ปวารณาตนเองที่จะประพฤติตน
โดยถือศีลห้าอย่างเข้มแข็ง หรือลดละเลิกบาปอกุศลใด ๆ
ไม่ว่าจะทำได้สำเร็จ หรือไม่ค่อยจะสำเร็จก็ตาม ก็ขออนุโมทนาด้วยครับ
แต่ทีนี้ ขอแนะนำว่าเราก็พึงจะประพฤติสิ่งดี ๆ นี้ต่อเนื่องไป โดยไม่ควรหยุดนะครับ
เพราะจริง ๆ แล้วตามคำสอนในพระพุทธศาสนานั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าท่านไม่ได้ทรงสอนว่าให้ฆราวาสถือศีลห้าและละเลิกบาปอกุศล
เฉพาะในช่วงเวลาเข้าพรรษาเท่านั้นนะครับ แต่ท่านทรงสอนให้ทำอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้แล้ว การที่เราถือศีลห้าและลดละเลิกบาปอกุศลนี้
คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คือตัวเราเอง ต่อมาก็คือคนรอบข้างเรา และคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยพวกเขาย่อมได้ประโยชน์ด้วย เพราะว่าพวกเขาไม่ถูกเราเบียดเบียน
และยังได้เห็นเราประพฤติดีเป็นแบบอย่าง หรือเป็นกำลังใจให้พวกเขาได้ประพฤติเช่นเดียวกัน
ในเมื่อเราประพฤติแล้ว ย่อมได้ประโยชน์แก่ทุกฝ่าย แต่หากหยุดแล้ว ย่อมเสียประโยชน์แก่ทุกฝ่าย
เช่นนี้ เราจึงสมควรจะประพฤติสิ่งดี ๆ นี้ต่อเนื่องต่อไปครับ

อาศัยเหตุที่ว่าเราได้เริ่มประพฤติสิ่งดี ๆ นี้มาได้ส่วนหนึ่งแล้ว (จะมากหรือน้อยก็ตาม)
หากเราประพฤติต่อเนื่องไป ก็จะง่ายขึ้น แข็งแรงขึ้น และเชี่ยวชาญมากขึ้นครับ
แต่หากเราปล่อยปละละเลยไป แล้วรอว่าช่วงเข้าพรรษาปีหน้า เราค่อยมาเริ่มใหม่
ก็จะกลายเป็นเรื่องยาก ทำได้อย่างอ่อนแรง และก็ไม่ได้เชี่ยวชาญจริง
เปรียบเสมือนว่าเราเล่นกีฬาอะไรสักอย่างหนึ่ง เช่น เล่นปิงปอง ก็แล้วกัน
แม้เราจะเล่นดีบ้างไม่ดีบ้างก็ตาม แต่เราได้เล่นปิงปองทุกวันต่อเนื่องมาแล้ว ๓ เดือน
หากเราไม่เลิกเล่นปิงปอง เราเล่นต่อไปอีก ๙ เดือนจนถึงวันเข้าพรรษาปีหน้า
ถามว่าในช่วงเข้าพรรษาปีหน้า เราจะเล่นปิงปองได้ดีขนาดไหน
?
แต่หากเราหยุดเล่นปิงปองไป ๙ เดือนก่อน แล้วรอจนถึงเข้าพรรษาปีหน้า เราค่อยมาเล่นใหม่
ถามว่าถึงเวลานั้น ทักษะความสามารถในการเล่นปิงปองของเราจะถดถอยไปเพียงไร
?

การถือประพฤติตนถือศีลและลดละเลิกบาปอกุศลก็ทำนองเดียวกันครับ
หากเราปล่อยปละละเลย ไม่ขยันหมั่นเพียรประพฤติอย่างต่อเนื่อง
ก็เท่ากับว่าเราถอยหลังไปครับ เพราะทักษะความสามารถเราจะลดลง
(ความคุ้นเคยในศีลจะลดลง แต่ความคุ้นเคยในบาปอกุศลจะมากขึ้น)
แม้ว่าเราจะหยุดฝึกซ้อมปิงปอง แต่กิเลสบาปอกุศลมันไม่หยุดนะครับ
กิเลสบาปอกุศลนั้นขยันฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
แล้วถึงเวลาที่เราต้องมาแข่งขันจริง ๆ แล้ว เราจะสู้กับกิเลสบาปอกุศลได้หรือ
ในเมื่อเราไม่ได้ขยันและหมั่นฝึกซ้อมเลยมา ๙ เดือน

หากเปรียบเทียบว่าเราเล่นปิงปองแข่งกับกิเลสบาปอกุศลแล้ว
ในช่วง ๓ เดือนที่ผ่านมา เราอาจจะเล่นได้ไม่ดีนัก โดนตบกระจาย แพ้แต้มขาดหลุดลุ่ย
หรือหากเราเล่นได้ดีหน่อย ก็คืออาจจะแต้มสูสี แต่คะแนนก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
แทนที่เราจะขยันฝึกซ้อมของเราต่อไป เพื่อที่ว่าปีหน้าเราจะทำคะแนนได้ดีกว่านี้
ปรากฏว่าเราหยุดฝึกซ้อมเสีย แต่ว่ากิเลสบาปอกุศลกลับฝึกซ้อมต่อเนื่อง
ถึงปีหน้ามาแข่งกันใหม่ เราก็คงจะเล่นไม่ได้ดีเท่าไรหรอกครับ ดีไม่ดีจะแย่กว่าปีนี้เสียด้วย

บางท่านก็อาจจะเตรียมใจไว้ล่วงหน้าเลยว่า ปีนี้เราโดนตบแต้มกระจาย
ปีหน้าเราก็คงจะโดนตบแต้มกระจายอีก
แต่ก็ไม่เป็นไร เราเริ่มชินเสียแล้ว เราอาศัยความชินชาเป็นยารักษาบาดแผลเราเอง
ในลักษณะนี้ถือว่าเสียประโยชน์อย่างมากนะครับ
การที่เรายังเล่นได้ไม่ดีในเวลานี้ ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่มีโอกาสเล่นได้ดีขึ้น
เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตั้งใจขยันฝึกซ้อมหรือไม่ในอนาคต และจะตั้งใจจริงแค่ไหน
หากเราตั้งใจจริง และขยันหมั่นฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ เราก็ย่อมจะเล่นได้ดีขึ้นเป็นธรรมดาครับ
แต่หากว่าเราประกาศยอมแพ้ ทำใจว่าแพ้แต้มขาดหลุดลุ่ยมาจนชินชาแล้ว ก็ขอยอมแพ้ต่อไป
อย่างนี้ก็ถือว่าแพ้ไปตลอด ไม่มีโอกาสจะชนะ แถมแต้มคะแนนก็ไหลไปเรื่อย ๆ ก็เสียหายแก่เราเอง
ฉะนั้น สิ่งที่ควรพิจารณาคือ เราเองมีศักยภาพที่จะสามารถเล่นได้ดีขึ้น
ขอเพียงแค่เราตั้งใจจริง และขยันหมั่นฝึกซ้อมอย่างเต็มที่

ที่กล่าวเปรียบเทียบข้างต้นนี้ ยังพิจารณามองแบบหยาบ ๆ นะครับ
เรามาลองพิจารณามองกันให้ละเอียดขึ้นอีก
จริง ๆ แล้ว เราไม่ได้เล่นปิงปองสู้กับกิเลสบาปอกุศลแค่ ๓ เดือนช่วงเข้าพรรษาหรอกครับ
เราเล่นปิงปองสู้กับกิเลสบาปอกุศลทุกเดือน ทุกวัน ทุกเวลาต่อเนื่องมาตลอดชีวิตของเราเลย
เพียงแต่ว่าพอเราเริ่มปวารณาจะตั้งใจรักษาศีล และลดละเลิกบาปอกุศลในช่วงเข้าพรรษานั้น
ก็เสมือนกับว่าเราเพิ่งจะมาสนใจพิจารณาดูคะแนนการเล่นในช่วง ๓ เดือนที่ผ่านมาเท่านั้น
แต่ว่าก่อนหน้านั้น เราก็เล่นอยู่ล่ะ และแต้มขาดหลุดลุ่ยเลย แต่ว่าเราไม่เคยสนใจดูเท่านั้น

ขณะนี้ บางท่านอาจจะบอกว่าพ้น ๓ เดือนนี้ไปแล้ว เราหยุดเล่นล่ะนะ
แต่ว่ากิเลสบาปอกุศลไม่ได้หยุดนะครับ และเกมการแข่งก็ไม่หยุดครับ
เกมก็ยังเดินต่อไป และคะแนนก็ยังนับต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ
เพียงแต่เราเองไม่ได้สนใจและตั้งใจที่จะเล่นอย่างจริงจัง และไม่ได้สนใจจะดูแต้มคะแนน
ทีนี้ หากเราเล่นยังไม่ค่อยเก่ง สู้เขาไม่ค่อยได้
แต่ฝ่ายตรงข้ามเรานี้เล่นเก่งประเภทขั้นเทพเลย แถมขยันฝึกซ้อมเสียอีก
ขนาดว่าเราตั้งใจเล่น เรายังสู้กับเขาได้ยาก
แล้วถ้าหากเราไม่ตั้งใจเล่นล่ะ แต้มคะแนนการเล่นของเราจะเป็นอย่างไร
?
คำตอบก็คือแพ้กระจายหนักกว่าตั้งใจเล่นอีก
(แต้มคะแนนคงจะไหลแรงยิ่งกว่าน้ำตกทีลอซูล่ะครับ)
หากเราเล่นแพ้แล้ว จะเป็นอย่างไร
?
คำตอบคือ เราเล่นแพ้แล้ว ก็เดือดร้อนทั้งตัวเรา คนรอบข้าง และคนที่เกี่ยวข้อง
หากเราเล่นได้ดีล่ะ แล้วเป็นอย่างไร
?
คำตอบคือ เราเล่นได้ดีแล้ว ก็ได้ประโยชน์แก่ทั้งตัวเรา คนรอบข้าง และคนที่เกี่ยวข้อง
หากเราตั้งใจเล่น ตั้งใจฝึกซ้อมแล้ว แต่ก็ยังสู้ไม่ได้ดีล่ะ จะเป็นอย่างไร
?
คำตอบคือ
ก็ยังเป็นประโยชน์มากครับ อย่างน้อย ๆ ก็คือในวันหน้า เรามีโอกาสทำได้ดีขึ้น
ส่วนในวันนี้ แต้มคะแนนก็ไหลน้อย โดยอาจจะไหลเพียงแค่น้ำตกแสงจันทร์
แต่ก็คงไม่ถึงขนาดน้ำตกทีลอซูครับ
(หากท่านใดสงสัยว่าจะไหลแรงต่างกันอย่างไร แนะนำให้หาดูใน
Google หรือ Youtube ครับ)

ถึงตรงนี้แล้ว ท่าน ๆ ก็พึงพิจารณาครับว่า เราจะตั้งใจเล่นต่อเนื่อง จะตั้งใจฝึกซ้อมต่อไป
หรือเราจะปล่อยให้แต้มคะแนนไหลไปอย่างหนักอีก ๙ เดือน แล้วค่อยมาตั้งใจเล่นใหม่
ประโยชน์ที่ได้และผลเสียที่จะเกิดนั้น ก็ตกอยู่กับตัวเราเอง และคนใกล้ตัวเราเป็นสำคัญครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP