ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

สิ่งใดเป็นเหตุให้เพียรเจริญสติได้อย่างต่อเนื่อง



ถาม - สิ่งใดเป็นเหตุให้เพียรเจริญสติได้อย่างต่อเนื่องคะ

คือฉันทะครับ
จริงๆ แล้ว ถ้าหากจะเอาคำตอบให้ครบเลย
ก็ต้องบอกว่าฉันทะ วิริยะ จิตตะและวิมังสา
ถ้าหากว่าใครมีอิทธิบาททั้ง ๔ ประการนี้ เจริญให้มากแล้ว
แน่นอนครับการเจริญสติย่อมต่อเนื่องไปได้แน่นอน

แต่ปัญหาก็คือการเจริญสติแบบของฆราวาส
จะให้มี ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา แบบพระก็คงเป็นไปได้ยาก
เพราะว่าเราจะต้องมีฉันทะ
เราจะต้องมีความเพียรในการทำมาหากินกันมากกว่า

ฉันทะนี่คือความพอใจ
ความพอใจ คนถามกันมากที่สุดเลยว่าจะทำให้มันเกิดขึ้นได้ยังไง
วิธีที่จะทำให้ความพอใจเกิดขึ้นได้มีทางเดียว มีประตูเดียว
คือต้องมีความสุขกับสิ่งที่ทำ
แล้วความสุขจากสิ่งที่ทำ มันมาจากไหน
ก็ต้องปฏิบัติให้ถูก ปฏิบัติให้ตรง
จนเกิดความอิ่มใจหรือเห็นว่ามีความสำเร็จมีความคืบหน้าซะก่อน
อันนี้ก็มันเหมือนงูกินหางนะ ไม่รู้ว่าอันไหนเกิดก่อน อันไหนเกิดหลัง

แต่ก็สรุปได้ง่ายๆ นะว่าถ้าหากเป็นฆราวาสแล้วมาสนใจการเจริญสตินะ
ผมให้ถือว่าคุณมีบุญเก่ามา มีทุนเก่ามามากพอสมควรเลย
ถ้าหากว่าทำทางถูก ทำทางตรงในเรื่องของการดู การรู้กายใจ
ก็เชื่อได้ว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะประสบความสำเร็จ
หรือว่าอย่างน้อยที่สุดเห็นความคืบหน้าวันต่อวัน
ความคืบหน้าวันต่อวันมาจากตรงไหน ข้อสังเกตอยู่ที่ตรงไหน
เอาง่ายๆ เลยคือมีความทุกข์น้อยลง
จิตใจมีความรู้สึกชื่นบาน สบาย เบิกบานมากขึ้น
แล้วก็เห็นอะไร ไม่ยึดมั่นจริงจัง ไม่หมกมุ่นครุ่นคิด
หรือว่าเคร่งเครียดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
อะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ที่ทำให้สามารถสะท้อนภาพนั้นของจิต
ที่มันถอน ที่มันถอยออกมาจากอาการยึดมั่นถือมั่นได้
นั่นแหละคือผลลัพธ์ของการเจริญสติที่ได้ผล

และถ้าหากว่าคนนี่นะ คนๆ หนึ่งที่เคยมีความทุกข์ ที่เคยงงกับชีวิตมา
ว่าจะเอายังไงดี จะยึดหรือไม่ยึดดี ทำยังไงถึงจะเรียกว่าพอดีที่สุด
ดีที่สุดเท่าที่จะใช้ชีวิต สำหรับคนๆ หนึ่งนะ
พอหายงงว่า เออ อย่ายึดสิ ถ้ายึดมันก็ทุกข์เปล่า ทำหน้าที่ของตัวเองไป
แล้วก็ให้จิตให้ใจมันดำเนินไปตามเส้นทางของการเจริญสติแบบพระพุทธเจ้านะ
ที่ให้เห็นกายใจโดยความเป็นของไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน
นี่แหละตัวนี้แหละ ตัวการได้ผลที่ใจมันถอนออกมาจากอาการยึดมั่นถือมั่น
ถอยออกมาทีละนิดๆ วันต่อวัน มันทำให้เกิดกำลังใจ
กำลังใจนี่แหละตัวฉันทะ กำลังใจนั่นแหละความสุข
ที่จะค้ำจุนให้เกิดความพึงพอใจที่จะปฏิบัติต่อให้ยิ่งๆ ขึ้นไป


การพึงพอใจที่จะปฏิบัติต่อให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
ตัวนี้แหละ ตัวส่งเสริมความเพียรหรือว่าวิริยะ
ให้มีความต่อเนื่อง มีความตื่นตัว มีความกระตือรือร้น
แล้วก็มีความแน่วแน่ มีความต่อเนื่องที่จะดำเนินไปตามเส้นทางของการเจริญสติ
ปัญหาก็คือพอมีฉันทะในการปฏิบัติในการเจริญสติ
เห็นจิตมันถอย มันถอน ออกมาจากอาการยึดมั่นถือมั่นแล้ว
คนส่วนใหญ่จะประมาท ตัวนี้คือคีย์เวิร์ด (keyword) ที่สำคัญที่สุดเลย
คือเกิดความชะล่าใจว่า เราไม่เป็นไรแล้ว ก็ไปเล่นเลยนะ
เคยทำอะไรมา เคยสนุกกับอะไรมากลับไปหามันใหม่ ย้อนกลับไปหามันใหม่นะ
ตรงนี้เป็นสิ่งที่ฆราวาสจะต่างกับพระ
เพราะพระเล่นไม่ได้ ถ้ารักษาพระวินัยกันจริงๆ จังๆ นะ
พระพุทธเจ้าตราพระวินัยขึ้นมา
ก็เพื่อให้พระได้อยู่บนเส้นทางของความขยันจริงๆ

นี่คือพูดแล้วก็สรุปว่าเป็นฆราวาสนะ
บอกตรงๆ นะครับคืออย่าไปหวัง อย่าไปคาดหวังกับตัวเองมาก
ว่าจะเจริญสติได้ต่อเนื่องด้วยฉันทะ ด้วยวิริยะเต็มกำลัง
แต่ขอให้อย่าทิ้ง ตัวนี้ที่สำคัญที่สุดสำหรับฆราวาส
เมื่อไหร่ที่มีแก่ใจ เมื่อไหร่ที่นึกขึ้นมาได้
ก็ดูเข้ามาที่กายใจให้มันต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
แล้วมันก็เกิดฉันทะขึ้นมาเรื่อยๆ เอง

คุณจะไปเล่นสนุกยังไง หรือว่าจำเป็นต้องทำหน้าที่การงาน
จนเกิดความเครียด หรือว่าเกิดความฟุ้งซ่านเกี่ยวกับหน้าที่การงานอะไรแค่ไหน
ก็ให้เป็นไปตามเส้นทางของฆราวาสเถอะ
อย่ามามัวแต่คาดคั้นตัวเอง มุ่งหวังว่าจะให้ก้าวไปตามลำดับ
วันละขั้นสองขั้น ไม่มีการถอยหลังเลย
เพราะนั่นไม่ใช่วิสัยของฆราวาส
ไม่ใช่ธรรมดาของคนที่ต้องทำมาหากินอยู่เลี้ยงชีพแบบนี้นะ
ก็หวังว่าคงเป็นคำตอบนะครับ

สรุปก็คือสิ่งใดเป็นเหตุให้เจริญสติได้อย่างต่อเนื่อง
ตัวหลักเลยคือฉันทะ
แล้วฆราวาส พึงมีฉันทะตามมีตามได้ อย่าเอาแบบเกินตัวนะครับ
แต่ละคนก็จะมีงานแตกต่างกันด้วยนะ
ประเภทของงาน ก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะปลีกตัวหรือว่าปลีกจิต
มาเจริญสติ รู้ภาวะอารมณ์ของตัวเอง
แล้วถ้าหากว่าฝึกดูลมหายใจไปเล่นๆ ดูความสุขความทุกข์ไปเล่นๆ
ดูสภาพจิตใจเดี๋ยวฟุ้งซ่านเดี๋ยวสงบไป
ทำเหมือนเล่นๆ แต่ทำจริงจังให้ต่อเนื่อง
มันจะเกิดฉันทะขึ้นมาเองได้ หลังจากที่มันผ่านเดือนผ่านปีไป
เพราะว่าเห็นชัดเลย ถึงแม้ทำเล่นๆ แต่มันได้ผลจริงๆ นะครับ
เอาอย่างนั้นก็แล้วกัน



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP