วรรณกรรมนำใจ Lite Literature

กรงไฟ ๑๘


cover_krongfire

นวนิยายเรื่องนี้ เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง
หากมีชื่อ-สกุล เรื่องราวใดพ้องกับบุคคลจริง ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ชลนิล



(ต่อจากฉบับที่แล้ว)



คุณนายพวงทองกำลังจ่อมจมอยู่ในห้วงทุกข์ร้อน เร่ารน ไม่อาจดิ้นรน ผลักไสทุกข์นี้ออกไป หาช่องเว้นพักความทุกข์แทบไม่มี

ตั้งแต่เธอออกไปงานเผาศพลูกสาว อาศัยแรงโกรธเกรี้ยว แค้นเคืองแสดงฤทธิ์ต่อลูกเขย มันก่อให้เกิดแรงเหวี่ยงสะท้อนกลับ ไฟโกรธเพลิงแค้นเผารนจิตใจ ทุกข์ร้อนทรมานกว่าเดิม

ธรรมดาสภาพเป็นอยู่ปกติไม่ค่อยมีความสุขอยู่แล้ว อาศัยเพียงกระแสความเย็นจาก ในศาลา พอหล่อเลี้ยงเป็นพัก ไม่ถึงกับทนไม่ได้ ครั้งนี้เมื่อโดนแรงโกรธเกรี้ยวของตนย้อนคืนเป็นไฟทุกข์ทำเอาทุรนทุราย

ยิ่งพอรู้ถึงเหตุการณ์ด้านนอกว่าลูกเขยจะมาแย่งสมบัติ ไฟโลภความห่วงหวงทรัพย์ก็บีบรัดจิตใจตีบตัน ทำอะไรไม่ถูก ทนถูกไฟทุกข์เผาไหม้ไม่ต่างจากสัตว์ถูกมัดมือมัดเท้าโยนทิ้งกลางกองไฟ...ร้อนก็ร้อน...แต่ไม่สามารถดิ้นรนให้พ้นจากทุกข์ตรงหน้า

วันนี้เห็นคุณจิตใสมาโรงเจพร้อมลูกชาย ตั้งใจแสดงตัว ก็ไม่อาจทำได้เหมือนโดนมัดด้วยเชือกที่มองไม่เห็น แล้วจู่ๆ บังเกิดกระแสความเย็นแผ่ซ่านออกมาจากในศาลา ความเย็นนี้ช่วยขับพิษร้อนให้ผ่อนคลายพันธนาการไร้ตัวตนเสื่อมสลาย แว่วเสียงคุณจิตใสเสนาะก้องชัด กังวาน

ด้วยพระเมตตาแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ข้าพเจ้าขอน้อมนำกระแสเมตตาของพระองค์ส่งให้แก่คุณอาพวงทอง...ขอให้เธอเป็นสุข เป็นสุข ผ่อนคลายความทุกข์ร้อนที่เผารน บังเกิดความรู้ตัวเพื่อจะได้มีโอกาสเลื่อนชั้นภพภูมิด้วยเถิด...

เสียงคุณจิตใสนั้นใสเย็นสมชื่อ พาความชุ่มชื่นเย็นใจมาฝาก ชวนให้คุณนายพวงทองบังเกิดมีสติเป็นพัก เมื่อระลึกได้ จิตก็จับอยู่กับความกังวลเรื่องการตายของลูกสาว

สีดาตายด้วยฝีมือพิทักษ์ กับเมียน้อยของมัน

คุณนายพวงทองรู้แค่นี้ ไม่อาจมองเห็นลึกซึ้งถึงวิธีการขั้นตอนฆาตกรรมใด จิตใจหดหู่ เวทนา สีดาไม่เคยร้ายกับใคร...ทำไมต้องตายทั้งที่ไม่สมควร

วูบหนึ่งคุณนายพวงทองนึกถึงตนเองในอดีต...การตายของ เสี่ย พ่อของลูกทั้งห้า เกิดขึ้นอย่างไร...อุบัติเหตุ...เช่นนั้นหรือ?

โลกนี้ มีสองคนที่รู้ว่าเสี่ยตายเพราะเหตุใด คนหนึ่งคือคุณนายพวงทอง อีกคนหนึ่งคือ รุ่ง น้องชายคนเล็กที่เป็นนักเลงหัวไม้ของคุณนาย

พี่มีงานให้แกทำ สนใจมั้ย

งานอะไรพี่

แกต้องรับปากก่อนฉันถึงจะบอก

ได้

ฆ่าคน

ใคร

เสี่ย

รุ่งไม่ถามเหตุผลสักคำ ทำไมพี่สาวสั่งฆ่าพี่เขย...เพราะรู้...พี่เขยตายตอนนี้ ประโยชน์จะเกิดแก่พี่สาวตนปานใด...ถ้าเสี่ยไม่ตาย...ทุกอย่างจะถูกเมียหลวงยึดคืนทั้งหมด รวมถึง ตลาด ซึ่งคุณนายพวงทองถือเป็นถุงเงินถุงทอง จุดเริ่มต้นกิจการที่อยู่ในหัวสมองเธอ

ตลาดนี้เสี่ยยกให้เธอแล้ว พอเมียหลวงรู้ก็รบเร้าจะเอาคืน เพราะเห็นประโยชน์มหาศาลในกาลข้างหน้าเช่นกัน เสี่ยทนเมียหลวงรบเร้าไม่ไหว ตอบตกลงจะคืนให้ โดยยอมเสียหน้าขอคืนกับคุณนายพวงทอง

เวลานั้นคุณนายพวงทองยังไม่มีฐานสมบัติมั่นคงมากมาย จำเป็นต้องพึ่งบารมีผัว จะหักหน้าไม่คืนตลาดไม่ได้ อาจโดนยึดสมบัติอื่นคืนตามมา ทางเลือกเดียวที่ทำได้คือ...เสี่ยต้องตาย...เท่านั้น

คุณนายพวงทองสั่งฆ่าผัวตัวเอง...สีดา ลูกสาวเธอก็ถูกผัวกับเมียน้อยฆ่าเช่นกัน...นี่มันเป็นกงกรรมกงเกวียนหรือไร

ทำไม...กรรมของแม่จึงตกไปอยู่กับลูก...

ไม่ใช่หรอก...กรรมใครกรรมมันต่างหาก...เพียงแต่ผู้ที่ทำกรรมใกล้เคียงกัน จะถูกแรงดึงดูดจัดสรร โน้มนำให้มาอยู่ร่วมมีสายสัมพันธ์กัน

คุณนายพวงทองไม่อาจมีญาณหยั่งรู้อดีต อนาคต จึงไม่ทราบชาติก่อน สีดาเคยสั่งฆ่าสามีตนมาแล้ว...ชาตินี้...เป็นการเอาคืน...บนกงล้อกฎแห่งกรรม...

น่าเสียดายที่สีดาไม่อาจรู้เลยว่าที่ตนต้องมาตายอนาถเช่นนี้ เพราะเคยทำอะไรไว้...มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่อาจรู้อดีตชาติตน...จึงมักสาปแช่งโชคชะตาด้วยความไม่รู้...เมื่อโดนกรรมย้อนรอย...

...กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ...ไม่ว่าคุณจะจำเหตุของมันได้หรือไม่...

กระแสเมตตาของคุณจิตใสแผ่กระจายเป็นวงกว้าง จนคุณนายพวงทองชุ่มชื่น คลายร้อนในหัวอก บังเกิดความปีติ นึกน้อมอนุโมทนาโดยไม่รู้ตัว

...สาธุ...

เสียงคุณนายพวงทอง เปล่งจากความรู้สึกจริง เชนสัมผัสได้ คุณจิตใสยิ่งรู้ชัด



คุณจิตใสระบายยิ้มชุ่มเย็นบนใบหน้า บังเกิดความอบอุ่นกลางอก ลมหายใจแผ่วเบาพาให้เกิดปีติคล้ายตัวจะลอย ขยับขาจากท่านั่งพับเพียบ หันมามองลูกชาย

ปิดหน้าต่างแล้วเรากลับกันได้แล้วจ้ะ

ครับแม่

เชนไม่เอ่ยปากถามสักคำ ทำไมแม่พามานั่งในศาลาไม่พูดไม่จา นึกอยากกลับก็กลับเสียเฉยๆ

คุณจิตใสบอกตั้งแต่แรกแล้ว อยากหาที่เย็นๆ นั่งพัก ตอนนี้นั่งพักเรียบร้อย...เพียงแต่...ที่เย็นๆ ของแม่นั้น...มันเย็นด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว...หรือว่า...แม่มาทำให้มันเย็น..ง

ชายหนุ่มปิดหน้าต่าง สายตาสอดส่องตามระเบียงยาวรอบศาลา เมื่อครู่ได้ยินเสียงรถเข็นน่าจะเป็นสัญญาณจากคุณนายพวงทอง...เข้ามาโรงเจทีแรกรู้สึกร้อนอ้าว ตอนนี้ความร้อนจางแล้ว อากาศร่มรื่นตามปกติ มันอาจไม่ชุ่มเย็นเหมือนตอนแม่กำลังแผ่เมตตา แต่กระแสความเย็นที่หลงเหลือก็ทิ้งร่องรอยบอกให้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง

แม่น่าจะรู้ว่าคุณนายพวงทองกำลังทุกข์ร้อน...ร้อนเสียจนไม่สามารถทำอะไร ไม่อาจบอกใคร ดูตามรูปการณ์ไม่น่าแปลกใจ ผีหวงสมบัติอย่างคุณนายคงแทบแดดิ้นเมื่อเห็นลูกเขยจ้องจะเอาสมบัติที่เธอก่อร่างสร้างมาด้วยความยากลำบาก

...ก็หวงอย่างนี้...ก็แค้นอย่างนี้...ไม่ให้ร้อนอย่างไรไหว...

พอคุณจิตใสรู้...ตามนิสัยต้องหาทางช่วย เกื้อกูลตามรูปแบบของเธอเอง นั่นคือ แผ่เมตตา

การแผ่เมตตาของคุณจิตใสไม่จำเป็นต้องมีบทสวดเป็นเครื่องกำกับจิต...แผ่เมตตาด้วยใจเมตตาจริง...เมตตาหวังให้ผู้อื่นพ้นจากทุกข์...ไม่เฉพาะคุณนายพวงทองเท่านั้น...

เชนเดินตามแม่ออกจากศาลาโรงเจด้วยความรู้สึกสำรวมเคารพ...เขาเป็นตัวเป็นตนมาได้ด้วยเมตตาจากพ่อแม่...ทั้งสองเมตตาต่อเด็กกำพร้าที่ไม่เคยรู้จักคนหนึ่งมาตลอด...เชนจึงไม่ต้องการให้ความเมตตานั้นเสียเปล่าไร้ผล...เขาจึงตั้งใจสานเส้นทาง เดินตามรอย คนดี ของพ่อแม่ ไม่ให้ท่านเสียความเมตตาโดยเปล่าประโยชน์



สองแม่ลูกกลับมาที่รถ มองเห็นความจอแจด้านหน้าถนน ดูขัดกับความร่มรื่นที่เพิ่งก้าวผ่านมาไม่ไกล

แม่ต้องขึ้นศาลอีกเมื่อไหร่ครับ เชนถาม

ถ้าขึ้นศาลเป็นพยานคงไม่ต้องแล้วจ้ะ ถ้าจะมาอีกทีก็วันตัดสินเลย

แม่ว่าพวกน้าๆ เขาจะชนะคดีมั้ยครับ

ก็น่าจะชนะนะ แต่แม่ยังห่วงบางเรื่องอยู่ สีหน้าคุณจิตใสมีรอยกังวล

เรื่องอะไรครับ

เรื่องของราม ถ้าชนะคดีนี้ เขาคงรู้สึกใหญ่คับเมือง แล้วยิ่งรู้ว่าพิทักษ์ทำอะไรกับน้องสาวด้วยแล้ว แม่ออกจะเป็นห่วงไม่ได้

ตอนนี้คงรู้แล้วล่ะครับ เชนพูด ขนาดเขายังปะติดปะต่อเรื่องได้ รามมิยิ่งรู้มากกว่าหรือ

ถ้าเตือนเขาให้อโหสิได้ก็ดีนะ

คุณจิตใสทิ้งท้ายเท่านี้ บางอย่างในสัมผัสบอกให้รู้...รามจะเป็นอันตราย หากยังหลงลำพองอำนาจ ไม่รู้จักอโหสิ ให้อภัย

บนเส้นทางแห่งอำนาจ ทรัพย์สินที่กองเกลื่อน...มันจะมีเงาดำบางอย่างคืบคลาน ซุ่มรอใกล้ๆ ยามที่มันสยายปีกออกตะปบย่อมน่ากลัวยิ่ง โดยเฉพาะกับผู้คนที่หลงอยู่ในวังวนมรดกมืด




บทที่ ๑๕



ดึกแล้ว ลักษณ์ยังไม่เสร็จงาน นานครั้งจึงขยับบิดตัวด้วยความเมื่อยขบ ภาระความรับผิดชอบอาจไม่มากกว่าเดิมแต่ภาระทางใจยิ่งนานยิ่งทับทวีคูณ

พรุ่งนี้ศาลตัดสิน...ผลของมันคงไม่ผิดคาด พยานหลักฐานยืนยันมีน้ำหนักขนาดนี้ ศาลย่อมให้ใช้พินัยกรรมฉบับสองไม่มีปัญหา สิ่งที่ลักษณ์หนักใจหลังศาลตัดสินคือ ทายาทเหลือแค่สาม...ราม...เขาและสมุทร

ขนาดตอนนี้ศาลยังไม่ตัดสิน ทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ในการคุ้มครองประโยชน์ตามคำขอของพิทักษ์ไม่อาจนำมาใช้ แต่รามยังยักยอกนำเงินออกอ้างว่าต้องส่งให้ภาสกรเป็นค่าลายเซ็น

ลักษณ์นึกเสียวสันหลัง เมื่อศาลพิพากษา คำสั่งคุ้มครองประโยชน์ถูกถอน รามคงใช้เงินกงสีบนถนนการเมืองเต็มที่ ถ้าโหวตกัน สมุทรย่อมไม่คัดค้าน ดูท่าน้องชายต้องการเงินซื้อหุ้นบริษัทเงินทุนของตนเช่นกัน สองเสียงต่อหนึ่ง...เขาแพ้แน่...บัญชีที่เปิดร่วมกันให้สุขศจีก็อาจถูกนำมาใช้ต่อ

หลังจากนั้น...เขาควรทำเช่นไร...

คิดมาก หนักใจปวดหัว สมองมึนตึ้บ ท้องร้องอุทธรณ์ขออาหารมื้อดึก ถอนใจลุกจากเก้าอี้ ดึกขนาดนี้ไม่น่าเรียกลูกจ้างมาทำของกิน ตัดสินใจเดินออกไปที่ครัว เปิดตู้เย็นหาของกิน

พบลูกสาวนั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น ไม่ยักดูห้องตัวเอง ไม่แน่ใจหล่อนเพิ่งกลับจากเที่ยวข้างนอกหรือออกมาหามื้อดึกกินพร้อมดูทีวี

ยังไม่นอนเหรอพ่อ รุ่งรตีหันมาถาม ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางบอกให้รู้ไม่ได้ออกไปไหน

ยัง...แล้วเราล่ะ ดึกป่านนี้ทำไมยังไม่นอน

ไม่ง่วงนี่ ปกตินอนดึกกว่านี้ เลยมาหาของกิน นั่งดูทีวีแก้เซ็ง หญิงสาวตอบ

ลักษณ์หยิบนมกล่องในตู้เย็นมาดื่ม ยกของว่างในตู้ไปนั่งกินหน้าจอทีวีพร้อมลูกสาว

กินด้วยกันมั้ย เขาถาม

ไม่ละพ่อ เพิ่งกินตะกี้...เดี๋ยวอ้วนตายเลย หล่อนพูดตามประสาสาวรักษารูปร่าง

ช่วงนี้ดีขึ้นนี่ ไม่ค่อยออกไปเที่ยวกลางคืนที่ไหน ลักษณ์ตั้งใจชมแต่น้ำเสียงฟังประชดกลายๆ

เมืองนี้ไม่ค่อยมีที่น่าเที่ยว รุ่งรตีบอกกึ่งบ่น ถ้ารุ้งอยากเที่ยวก็ต้องขับรถไปกรุงเทพฯ เลยดีกว่า

ถึงพูดอย่างนั้นก็ยังไม่เคยทำตามปากสักที ความอยากเที่ยวกลางคืนมีไม่มากพอจะยอมขับรถข้ามจังหวัดไปเที่ยวถึงกรุงเทพฯ...หรือไม่...ที่นี่มีบางสิ่งน่าสนใจกว่าจนไม่อยากไปไหน

ช่วงนี้เห็นไปไหนมาไหนกับเชนบ่อยนะ ลักษณ์พูดเชิงถาม

ใช่ หญิงสาวไม่ปิดบัง นอกจากพี่เชนแล้ว ก็ไม่มีใครเขาอยากคบรุ้งสักเท่าไหร่

รุ่งรตีพูดจาไม่ตรงความจริงนัก...ผู้หญิงสวยจัด ฐานะดีเช่นหล่อนทำไมจะไม่มีใครอยากคบ พวกหนุ่มไฮโซในเมืองต่างรุมจีบแสดงความสนใจ ผู้หญิงวัยเดียวกันถ้าไม่อิจฉา ก็อยากคบหา ใช้หล่อนเป็นสะพานไม่ก็อาศัยกระเป๋าเงินพาเที่ยว แต่รุ่งรตีปิดตัวเองตลอด ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ใคร...หลายครั้งที่หล่อนพูดคุยเสวนากับคนเหล่านั้น มันคล้ายมีสัมผัสเตือนชัด บอกว่า...คนเหล่านี้ไม่มีความจริงใจ ท่าทางคำพูดที่แสดงออกมาล้วนเสกสรรปั้นแต่งทั้งนั้น

รุ่งรตีบอกไม่ถูกว่ามีสัมผัสตรงนั้นเมื่อไหร่ อาจตั้งแต่ตอนที่ติดต่อกับคุณย่าได้...เมื่อใจหยั่งความมีอยู่ของอีกภพภูมิ ก็ไม่ยากที่จะสัมผัสจิตคนที่อยู่ใกล้ว่าจริงใจแค่ไหน เพียงไร

เชนเป็นเด็กดีนะ ลักษณ์พูดลอยๆ

คราวนี้รุ่งรตีมองบิดา ต้องการดูให้แน่...ที่พ่อพูดหมายความว่าอย่างไร

พี่เชนเป็นคนดี...คนดีอย่างพี่เชนไม่น่ามาคบกับคนแย่ๆ อย่างรุ้งเลยนะ น้ำเสียงออกลายหาเรื่อง

พ่อไม่ได้ตั้งใจพูดอย่างนั้น ครั้งนี้ลักษณ์ใจเย็นพอ ที่ผ่านมาพ่อไม่เคยห้ามลูกคบใครสักที

อ้าว...แล้วพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงล่ะคะ ถึงมีคำลงท้ายแต่เสียงยังแข็งอยู่ดี

ลักษณ์พยายามเรียบเรียงคำพูด...ระยะเวลาสั้น คิดไม่ออกจะบอกความรู้สึกตนอย่างไร เขาไม่เคยรังเกียจเชน...ยินดีด้วยซ้ำที่ผู้ชายเช่นนี้ยอมคบหากับลูกสาวตน...รุ่งรตีเปลี่ยนแปลงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนลึกก็อดหวั่นใจไม่ได้ รุ่งรตีฤทธิ์มากแค่ไหนเขารู้ดี วันไหนเจ้าหล่อนแสดงฤทธิ์จนเชนถอยห่าง คงน่าเสียดาย และอาจเข้าหน้าคุณจิตใสกับสามีได้ไม่ติดเลย

ก็แค่อยากบอกว่า พ่อกับพ่อแม่เชนเป็นเหมือนพี่น้องกัน...เราอย่าทำอะไรให้ผู้ใหญ่ต้องผิดใจกัน ลักษณ์รู้สึกยิ่งพูดยิ่งผิด

พ่อเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า รุ่งรตีถอนใจ รุ้งคบกับพี่เชนก็จริง แต่ไม่ใช่แบบแฟนจูงมือจี๋จ๋ากันนะพ่อ เราคบกันแบบพี่น้อง พี่เชนเหมือนพี่ชายคอยดูแล เป็นเพื่อนเที่ยวอะไรพวกนี้

รุ่งรตีไม่ได้บอก คำว่า เที่ยว ของหล่อนกับเชน คือเที่ยวสืบคดีการตายของสีดา

ลักษณ์นิ่ง ไม่อยากพูดเชิงชี้โพรงให้กระรอก การที่หนุ่มโสดสาวโสดหน้าตาดีทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกันเช่นนี้ ไม่มีทางให้คนรอบข้างมองอย่างอื่นได้เลย แม้เจ้าตัวบอกว่าคบกันแบบพี่น้อง ก็ใช่ว่าความสัมพันธ์จะอยู่นิ่งเสียเมื่อไหร่

พอนึกถึงคดีสีดา...รุ่งรตีนึกได้ว่ามีเรื่องควรเตือนบิดา

พ่อเชื่อมั้ยว่า อาสีดาตายด้วยอุบัติเหตุ

หล่อนโพล่งถามดื้อๆ คนเป็นพ่ออึ้ง ตอบไม่ถูก

ถามทำไมกันเรื่องพวกนี้ ลักษณ์พยายามเลี่ยง

พูดอย่างนี้ แสดงว่าพ่อก็ไม่เชื่อเหมือนกัน รุ่งรตีหัวไวตีตลบเอาคำตอบ

นั่นมันเรื่องของผู้ใหญ่เขา

รุ้งก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะพ่อ รุ่งรตีย้ำ อาสีดาตายด้วยการฆาตกรรมแน่ๆ แล้วรุ้งว่ามันจะไม่หยุดแค่นี้หรอก

ลักษณ์จ้องหน้าลูกสาว ค้นหาความหมายที่ซ่อนในคำพูด

หมายความว่ายังไง

รุ้งว่าพวกเราทุกคนกำลังตกอยู่ในอันตราย อาสีดาอาจเป็นเหยื่อรายแรก และต้องไม่ใช่รายเดียวแน่

ไปเอาความคิดพวกนี้มาจากไหน ลักษณ์ถามเสียงหนัก

รุ่งรตีถอนใจ...ให้พูดตามตรงหรือว่าวิญญาณคุณย่ามาบอกและหล่อนกับเชนกำลังเที่ยววิ่งวุ่นสืบหาหลักฐานกันอยู่

คุณย่ามาเข้าฝัน รุ่งรตีตอบง่าย ฟังน่าเชื่อที่สุด บอกว่าอาสีดาถูกฆาตกรรม แล้วพวกเราทุกคนกำลังตกอยู่ในอันตราย

ลักษณ์เงียบ เขาอาจไม่เชื่อเรื่องความฝัน แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าการตายของสีดาเป็นฆาตกรรม รามให้ข้อมูลมากพอที่จะปะติดปะต่อเรื่องจนกระทั่งได้พยานคนสำคัญมา

...เด็กลูกจ้างชาวพม่า...



รามให้ผลประโยชน์เด็กคนนั้นมากพอ จนได้รับความจริงว่า...คืนนั้นหลังจากสีดากลับบ้านขอยาไปกิน...ไม่นานนักพิทักษ์ก็กลับมา ทั้งคู่อยู่ในห้องนอน พวกลูกจ้างไม่ค่อยสนใจอะไร มีแต่เด็กคนนี้ที่อยู่ใกล้ห้องนอนสีดามากสุด ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันแว่วๆ สักพักพิทักษ์ก็ออกจากบ้าน ตัวเด็กไม่กล้าขึ้นไปดูคุณผู้หญิงบนห้อง เห็นปิดไฟมืดคิดว่าคงนอนแล้ว

กลางดึกคืนนั้นเองเธอได้ยินเสียงรถแล่นออกจากบ้าน จึงแอบดูทันเห็นสีดานั่งอยู่ในรถ แต่ไม่ใช่ฝั่งคนขับ ตอนนั้นมืดมากไม่สามารถเห็นคนขับชัดเจน อีกอย่างบ้านนี้ไม่ชอบให้ลูกจ้างมาวุ่นวายตอนดึก ยิ่งเธอเป็นลูกจ้างต่างด้าวยิ่งไม่ควรยุ่งเกี่ยวเรื่องมากความ เธอจึงเข้านอนไม่สนใจ

ตื่นอีกทีก็ตอนพิทักษ์เรียกลูกจ้างทุกคนถามหาสีดา...คนอื่นบอกว่าไม่รู้ไม่เห็น ส่วนเธอบอกตามที่เห็นว่า นั่งรถไปกับใครไม่รู้...พิทักษ์ซักเธอเสียงเครียดว่ารู้อะไรอีกบ้าง เด็กลูกจ้างเอะใจกลัวมีปัญหา จึงตอบแบบคนอื่นคือ...รู้แค่นั้น นอกจากนั้นไม่รู้อะไรอีกเลย...พิทักษ์จึงสั่งให้ทุกคนปิดปาก ถ้าตำรวจหรือใครมาถามก็บอกอย่างเดียวไม่รู้ไม่เห็น หรือไม่ก็บอกว่าเห็นสีดาเข้าห้องนอนแล้วก็ไม่รู้อะไรอีกเลย จากนั้นไม่กี่วัน ลูกจ้างแต่ละคนก็โดนให้ออก เธอถูกส่งตัวกลับพม่าพร้อมเงินค่าชดเชยที่มากพอสมควร

ในฝันคุณย่าบอกอะไรอีกบ้าง หลังพายุความคิด ลักษณ์ค่อยตั้งคำถามกับลูกสาว

ก็...หลายเรื่อง รุ่งรตีถือโอกาสบอกเล่าเรื่องราวในรูปแบบที่คนฟังพอรับได้

ที่จริงคุณย่าเข้าฝันรุ้งตั้งแต่ก่อนอาสีดาตาย บอกให้ทุกคนระวังตัว แต่ตอนนั้นรุ้งไม่สนใจ จนพอเกิดเรื่องค่อยเอะใจ...ว่าจะบอกพ่อเหมือนกัน แต่ตอนนั้นทุกคนกำลังยุ่งเลยไม่มีโอกาส แล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้คุณย่าก็มาเข้าฝันอีก บอกว่าอาพิทักษ์กับเมียน้อยเขาเป็นฆาตกร

คำพูดประโยคท้ายทำจนคนฟังตัวชา มันตรงกับข้อมูลที่เขารู้พอดี

ในฝันย่าแกบอกมั้ยว่า สีดาตายยังไง

ไม่หรอก...แหมใครจะจำได้ละเอียดขนาดนั้นล่ะพ่อ...ย่าบอกอีกว่าพวกเราทุกคนยังตกอยู่ในอันตรายให้ระวังตัวไว้

ไอ้พิทักษ์มันจะมาทำอะไรเราอีก เขาถามเสียงเข้ม

ไม่รู้สิ...แต่ย่าไม่ได้บอกนะว่าตัวอันตรายสำหรับพวกเราคืออาพิทักษ์ แถมยังฝากบอกลุงรามด้วยว่า...ถ้ารู้แล้วก็อโหสิกันซะ...อย่าให้ถึงกับฆ่าแกงกันให้เป็นบาปเลย

คำพูดเรื่อง อโหสิ ไม่มีทางหลุดจากปากคุณนายพวงทองแน่ เชนนำเรื่องที่คุณจิตใสช่วยแผ่เมตตาให้คุณนายพวงทองที่โรงเจมาเล่าให้รุ่งรตีฟัง พร้อมนำคำเตือนให้รามอโหสิแก่พิทักษ์มาบอก ทั้งคู่คิดไม่ออกจะบอกรามอย่างไร...ฝ่ายหนึ่งเป็นเด็ก อีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ แถมนิสัยอย่างนั้น...เวลานี้คงรู้รายละเอียดพอควร ที่ยังรั้งรอเพราะต้องการให้คดีสิ้นสุดก่อน ค่อยหาทางคิดบัญชีอดีตน้องเขย

คนที่สามารถเอ่ยปากเตือนรามได้มีสองคน...หนึ่งคือคุณจิตใส อีกหนึ่งคือลักษณ์ น้องชายที่รามให้ความเกรงใจบ้าง

คุณจิตใสไม่สามารถเอ่ยปากเตือนราม...ถ้าทำเช่นนั้นเท่ากับเอาตัวเองพัวพันคดีจะสะสางลำบาก เหลืออีกคนคือลักษณ์ ซึ่งน่าจะรู้ตื้นลึกหนาบางไม่น้อยกว่าพี่ชาย...การจะให้ลักษณ์ไปเตือนพี่ชาย จำเป็นต้องหาวิธีที่แนบเนียนบ้าง

ทำไมย่าแกถึงบอกให้ลุงเขาอโหสิกับคนที่ฆ่าลูกสาวตัวเอง ลักษณ์ตั้งข้อสงสัย

รุ้งจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ หญิงสาวออกตัวง่าย นั่นมันในฝันนะพ่อ ที่จำมาเล่าได้ขนาดนี้ก็เก่งแล้ว...ถ้าให้รุ้งคิดเองนะ...บอกได้เลยตอนนี้ถ้าอาพิทักษ์เป็นอะไรไป ใครเขาก็ต้องสงสัยครอบครัวเราก่อน...เป้าหมายแรกคือลุงราม...เพราะแกมีความสามารถเก็บคู่อริได้

ลักษณ์นิ่ง ไตร่ตรองตามคำพูดลูกสาว

พ่อคิดดูนะ ลุงแกจะเล่นการเมือง ถ้ามีเรื่องการตายของอาพิทักษ์เป็นชนักปักหลัง ต่อให้ตำรวจเอาผิดไม่ได้แต่ก็มีผลถึงคะแนนเสียงเหมือนกัน...อย่างนี้มั้ง ย่าเลยบอกให้ลุงอโหสิ อย่าทำอะไรรุนแรง

คนเป็นพ่อมองลูกสาวด้วยสายตาแปลกกว่าเดิม ที่ผ่านมารุ่งรตีทำตัวเหมือนสาวสวยไร้สมอง วันๆ คิดแค่เรื่องแฟชั่น ความงาม เที่ยวเตร่ นึกไม่ถึงหล่อนจะมีมุมมองที่ฉลาดขนาดนี้

ความเห็นรุ่งรตีกระทบใจเขาอย่างแรง สมองฉับไวประเมินสถานการณ์ชัดเจน พวกเขาเป็นต่อพิทักษ์...เขาเห็นด้วยที่ควรวางมือจากอดีตน้องเขยก่อน อย่าเพิ่งไล่บี้จนถึงที่สุดในสถานการณ์รอบตัวที่กำลังร้อนแรง...จะพูดยังไงถึงจะโน้มน้าวใจพี่ชายหัวดื้อสำเร็จ นั่นเป็นงานหนักชิ้นหนึ่งทีเดียว



(โปรดติดตามต่อฉบับหน้า)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP