โหรา (ไม่) คาใจ Astro FAQ

เพราะฉันนั้นเปลี่ยนไป...หรือเพราะใจเธอเปลี่ยนแปลง


Aims Astro

ถาม – ดิฉันกับคนรักคบหากันมาประมาณสองปี เรามีงานทำเลี้ยงตัวเองได้แล้วทั้งคู่ ดิฉันเช่าคอนโดมิเนียมอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เริ่มทำงาน แต่เมื่อไม่นานมานี้คนรักชวนให้ไปอยู่กับเขาซึ่งจะประหยัดค่าใช้จ่ายหลายพันบาทต่อเดือน เพราะเรากำลังช่วยกันเก็บเงินไว้แต่งงานในอีกสองปีข้างหน้า พูดง่ายๆ ก็คือเขามาชวนให้อยู่ก่อนแต่ง ดิฉันลังเลใจเพราะรักเขามากและอยากใช้ชีวิตร่วมกันอยู่แล้ว แต่เกรงว่าถ้าอยู่กันไปแล้วไม่ได้แต่งจะเป็นอย่างไร แบบนี้ดิฉันควรตัดสินใจอย่างไรดีคะ

สังคมไทยปัจจุบันนี้มีการดำเนินชีวิตเปลี่ยนแปลงไป ทั้งจากปัจจัยภายในและการได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมตะวันตก ทำให้วิถีของความรักของหนุ่มสาวยุคใหม่แตกต่างไปจากคนรุ่นพ่อแม่อย่างเห็นได้ชัด การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันโดยที่ยังมิได้แต่งงานดูจะเป็นเรื่องที่ได้รับรู้มากขึ้นทุกทีค่ะ อย่างไรก็ตามหากจะตัดสินใจอยู่ก่อนแต่งก็ควรต้องพิจารณาให้รอบคอบนะคะ


เพื่อที่จะตอบคำถามในฉบับนี้ ก็ขอหยิบยกเรื่องราวของลูกค้าชายท่านหนึ่ง (ขอสมมตินามว่าคุณไรอัน) ซึ่งมาตรวจดวงซ้ำอีกหน ในวันที่เรานัดสนทนากันนั้น คุณไรอันซักถามเรื่องต่างๆ จนสุดท้ายคือเรื่องความรัก เขาเล่าว่าได้อยู่กินกับแฟนสาวคือคุณลูซี่ (นามสมมติ) มาประมาณสองปีแล้ว โดยให้เธอย้ายเข้ามาอยู่ร่วมบ้านซึ่งคุณไรอันอยู่กับพ่อแม่และญาติๆ ทุกคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านต่างรับรู้ว่าทั้งคู่อยู่กินกันแล้ว รอเวลาที่จะจัดพิธีแต่งงานเมื่อมีความพร้อม


พอเล่ามาถึงตรงนี้ลูกค้าบอกว่า “แต่ตอนนี้ผมไม่อยากแต่งงานกับแฟนผมแล้ว” พอถามไถ่ถึงเหตุผล ก็สรุปได้ว่า “แม่ผมไม่ชอบเขา ญาติผู้ใหญ่ก็ค่อยไม่ชอบ บอกว่าเขากระโดกกระเดกไปหน่อย เข้ากับผู้ใหญ่ไม่ค่อยได้ คนข้างบ้านก็บอกว่าเขาไม่ค่อยสวยด้วย” สิ่งที่คุณไรอันว่ามาทำให้หมอดูรู้สึกว่าไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผลเท่าไหร่ จึงเสนอไปทำนองว่า “อันที่จริงคนรอบข้างไม่สำคัญเท่าตัวคุณเองนะคะ ถ้าคุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่ไม่ค่อยชอบเธอ ก็บอกแฟนคุณไปดีๆ ทำนองว่าคุณรักเธอแต่อยากให้ลองปรับให้อ่อนช้อยลงนิดเวลาอยู่กับผู้ใหญ่  แฟนคุณจะได้ปรับปรุง ส่วนคนข้างบ้านที่บอกว่าคุณลูซี่ไม่ค่อยสวย ตรงนี้ต้องบอกว่าความสวยมันอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน ถ้าคุณคบเธอเป็นแฟนมาจนถึงขนาดอยู่กินกันแล้ว ความงามของเธอก็ต้องผ่านมาตรฐานของคุณนะคะ คำพูดของคนอื่นไม่เห็นต้องใส่ใจเลย สำคัญที่ว่าคุณรักเธอไหมต่างหากค่ะ”


หลังจากที่คุณไรอันฟังที่ดิฉันเสนอแล้ว ก็ยังดูอิดๆ ออดๆ ทำนองว่าไม่อยากแต่งงานกับแฟนสาวอยู่ดี ด้วยเหตุนานาประการ ซึ่งดูแล้วเป็นเรื่องที่แก้ไขปรับปรุงได้ทั้งสิ้น ลูกค้าบอกด้วยว่า “เมื่อก่อนตอนที่ชวนให้มาอยู่ด้วยกัน ผมอยากแต่งงานกับลูซี่จริงๆ นะ ถึงรูปร่างหน้าตาจะไม่ใช่สเป็ค แต่คิดว่าเธอเป็นคนดีและผมก็คงจะรักเธอได้” ฟังแล้วสงสารฝ่ายหญิงขึ้นมาจับใจ บอกคุณไรอันไปว่าขอให้เห็นใจคุณลูซี่ด้วย เพราะเธอเข้ามาอยู่ในบ้านแบบเปิดเผย ด้วยความเชื่อใจว่าผู้ชายคนนี้รักและอยากมีชีวิตคู่กับเธอจริงๆ แค่รอให้พร้อมก็จะจัดงานแต่งงานเท่านั้น และเท่าที่เก็บข้อมูลจากลูกค้าหญิง หมอดูพบว่าความรู้สึกผูกพันของสตรีเพศที่มีให้กับคนรักที่อยู่กินกันแล้วนั้น แทบไม่แตกต่างกับคู่สมรสที่แต่งงานกันแล้ว เพราะฉะนั้นหากคุณไรอันจะเลิกรา คุณลูซี่จะเจ็บปวดมาก แถมเสียชื่ออีกด้วยเพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ทราบว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันมานาน


ด้วยความที่อยากให้ลูกค้าเข้าใจตัวเองเสียที ดิฉันจึงถามไปตรงๆ ว่า “ถ้าสมมติคุณแม่ชอบคุณลูซี่มาก ญาติผู้ใหญ่เอ็นดู คนข้างบ้านช่วยสนับสนุน คุณจะยังอยากแต่งงานกับเธอไหมคะ” คุณไรอันฟังแล้วเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “เออ...จริงด้วยสินะ เป็นเพราะผมเองไม่อยากแต่งงานกับเธอแล้ว” ดิฉันจึงสำทับไปให้เลิกยกเหตุอื่นๆ มาอ้างได้แล้ว เพราะเหตุทั้งปวงมันเกิดจากใจของเขาเองนี่แหละ ลูกค้าจึงเล่าว่าตอนนี้กำลังพบกับเหตุการณ์ที่ได้เคยเตือนให้ระวังไว้ และเป็นเหตุให้กลับมาตรวจดวงอีกรอบ นั่นคือถูกใจเพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งเข้า และอยากสานสัมพันธ์กับเธอคนนั้น (_ _!)


ฟังลูกค้าสารภาพมาดังนี้แล้วก็ให้นึกสงสารแฟนสาวของเขา แต่ก็ยังดีที่คุณไรอันพยายามข่มใจสู้กิเลสอยู่เพราะรู้ว่าการนอกใจคนรักนั้นมันไม่ดี หมอดูจึงขอให้เขามีความเมตตากรุณาต่อแฟนสาวของตน ขอให้คิดถึงเวลาที่เคยมีความสุขกันมา และให้ลองชวนกันไปทำบุญ ทำสิ่งดีๆ ร่วมกัน เผื่อว่าจะทำให้ความสัมพันธ์เป็นไปในทางบวกขึ้น แต่หากว่าจะต้องเลิกรากันจริงๆ ก็ควรจะเกิดจากการไปกันไม่ได้ของคุณไรอันและคุณลูซี่เอง ไม่ใช่เกิดจากการไปมีสัมพันธ์กับหญิงคนใหม่แล้วมาเลิกกับคนเดิมค่ะ


เขียนมาถึงตรงนี้จึงขอฝากถึงใครก็ตามที่คิดจะอยู่ก่อนแต่งว่า ถ้าหากยังอยู่ในวัยเรียน หรือยังต้องขอเงินพ่อแม่ใช้แล้วละก็ การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นถือว่าผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร จึงไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่หากว่าอยู่ในวัยผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบชีวิต ทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ เป็นไทแก่ตนแล้ว จะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล ฉะนั้นถ้าหากยอมรับได้ถึงผลที่จะตามมา เช่น อยู่ก่อนแต่งแล้วไม่ได้แต่ง ต้องเลิกรากันไป ความรู้สึกของพ่อแม่ที่อาจจะยังไม่ยอมรับวิถีชีวิตแบบนี้ ฯลฯ ก็ต้องลองชั่งใจดูว่าคุ้มค่าไหม เสี่ยงไปหรือเปล่า (ว่าแล้วเลยขอฝากข่าวเก่าเมื่อ ๒-๓ ปีก่อน เรื่อง “อยู่ก่อนแต่ง-แต่งก่อนอยู่” ใครเสี่ยง ‘ม่าย’ สูงกว่ากัน?” (คลิก http://bit.ly/y2RX3F ) ให้พิจารณา ส่วนงานวิจัยของต่างประเทศนั้น เคยลองใช้คำค้นว่า cohabitation+research พบว่ามีหลายเรื่องทีเดียว แม้วัฒนธรรมจะแตกต่างแต่บางอย่างพอจะเทียบเคียงกันได้ค่ะ)


และสุดท้ายแล้วไม่ว่าจะอยู่ก่อนแต่งหรือแต่งก่อนอยู่ ก็ต้องระลึกเสมอว่าความรักนั้นเป็นของแปรปรวนเช่นเดียวกับสิ่งอื่นในโลก หัวใจคนปรวนแปรไปได้เสมอ ทุกคนที่มีความรักพึงไม่ประมาท ควรทั้งเผื่อใจไว้ให้กับความพลัดพรากไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย และพยายามสร้างกรรมขาวร่วมกันไว้เพื่อสัมพันธภาพที่ดีในการครองคู่ค่ะ

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


สำหรับท่านที่สนใจดูดวงกับคุณ
Aims Astro สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ http://sites.google.com/site/aimsastro/



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP