ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

สามารถศรัทธาสิ่งอื่นนอกเหนือจากพระพุทธเจ้าได้หรือไม่


ถาม - เราสามารถศรัทธาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ นอกเหนือจากศรัทธาในพระพุทธเจ้าได้ไหมคะ

จริงๆ แล้วนี่นะ อันนี้ขอพูดไปประเด็นอื่นก่อน
ว่าเคยมีคนไปถวายทานพระพุทธเจ้า
แต่ก็บอกว่า เนี่ย รู้สึกติดข้องใจอยู่
ว่าจริงๆ ตัวเองก็ศรัทธาหรือว่าทำบุญกับลัทธิศาสนาอื่นด้วย
อะไรอย่างนี้นะ ควรหรือไม่ที่จะเลิกซะ
พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่าการทำทาน ถ้าพูดถึงการทำทานอย่างเดียวเลยนะ
ยังไงมันก็เป็นทาน ยังไงมันก็เป็นบุญ ยังไงก็เป็นของดี
ไม่ว่าจะทำกับเราตถาคต หรือว่าทำกับเจ้าลัทธิ เจ้าศาสนาอื่น
ก็เป็นทาน ก็ได้บุญเหมือนกัน
เพียงแต่ว่าจะต่างกันแค่ไหนพระพุทธเจ้าไม่ได้พูดถึงนะ
ไม่ได้มาคุยข่มว่าทำกับท่านถึงจะได้มาก ทำกับท่านเท่านั้นถึงจะได้บุญ
ท่านไม่ได้พูดอย่างนั้น แต่บอกว่าได้บุญทั้งนั้นแหละ
เป็นทานเหมือนกันน่ะแหละ เป็นการสละเหมือนกัน

ทีนี้โยงเอามาเข้ากับเรื่องของศรัทธา
เรื่องของศรัทธา ศรัทธามีสองแบบ
ศรัทธาเพราะว่าทำให้เกิดความรู้สึกดีแล้วศรัทธา
ยกตัวอย่างเช่นบางทีเราไปพบรูปเทวะ รูปปั้นอะไรของศาสนาอื่น
แล้วเขาปั้นไว้อย่างสวยงามเลย ปั้นไว้อย่างน่าเลื่อมใส
แล้วเกิดความรู้สึกดีขึ้นมา เกิดความเลื่อมใสขึ้นมา
อย่างนั้นมันเป็นความผิดทางใจหรือเปล่า
มันไม่ใช่ความผิด ถ้าเกิดเรารู้สึกดี ใจมันก็เป็นกุศล
ใจมันก็เกิดความรู้สึกสว่าง ใจเกิดความรู้สึกว่าอยากกราบไหว้
อยากที่จะแสดงความเคารพ อยากแสดงความนับถือ อยากแสดงความอ่อนน้อม

การแสดงความอ่อนน้อมเป็นบุญบารมีอย่างหนึ่ง
เป็นของดีอย่างหนึ่งที่มีให้กับใครก็ได้
มีให้กับผู้ใหญ่ธรรมดาก็ได้ ที่เขาอายุมากกว่าเรา
เรารู้ว่าเนี่ย เลว ไม่ได้เป็นคนดีหรอก แต่อายุมากกว่าเรา
เราแสดงความอ่อนน้อม อันนี้บุญก็เกิดกับเราแล้ว
บุญอันเกิดจากความอ่อนน้อมนั้นไม่อาศัยที่ตั้ง ที่ตั้งจะเป็นใครก็แล้วแต่
แต่เมื่อเกิดการกราบไว้ เมื่อเกิดความอ่อนน้อมขึ้นมา เป็นบุญกับเราเสมอ
นี่ศรัทธาแบบที่ว่าเกิดการเห็นแล้วศรัทธา
เมื่อเห็นว่ามีอายุมากกว่า มีอาวุโสมากกว่า
หรือว่ามีความน่าเลื่อมใส
จะเป็นเทวรูปหรือว่าจะเป็นบุคคลของศาสนาอื่นใดก็แล้วแต่
แล้วเราเกิดความอ่อนน้อม เกิดความเลื่อมใส
นี่เป็นของดีของเรา นี่เป็นบุญของเรา

ทีนี้ศรัทธา ไม่ได้มีแต่ศรัทธาในการเห็นอย่างเดียว
มีศรัทธาอันเกิดจากปัญญาได้ด้วย
อย่างเช่นที่ว่าถ้าใครมาทำให้เรารู้สึกดีขึ้นกับชีวิต
ใครมาทำให้เราเข้าใจชีวิตดีขึ้น ใครมาให้คำตอบกับชีวิตของเรา
อย่างเช่นพระพุทธเจ้า เรารู้สึกว่านี่แหละเป็นที่ฝากความหวัง นี่แหละเป็นที่ฝากชีวิตไว้
ศรัทธาที่เกิดขึ้นมันจะยกระดับขึ้นไปอีกแบบหนึ่ง
มันไม่ใช่เกิดขึ้นจากการที่เราต้องเห็นรูปเคารพของท่าน
หรือว่าพระปฏิมาเสียก่อน เราถึงจะเกิดบุญขึ้นมาได้
แต่แค่เรามีความระลึกถึงด้วยความรู้สึกเชื่อมั่น
ตั้งมั่นอยู่ด้วยอาการที่ยึดเป็นสรณะ เป็นที่ตั้งของจิตของใจ
แค่ระลึกถึงใจมันก็เป็นบุญเป็นกุศลแล้ว ไม่ต้องแสดงอาการกราบไหว้
ไม่ต้องแสดงอาการที่ว่าจะต้องมาเปล่งคำเป็นบทสวดสรรเสริญอะไรใดๆ
แค่ระลึกถึงขึ้นมา เกิดความเบิกบาน นี่ก็เรียกว่าเป็นบุญขึ้นมาได้แล้ว

โดยคำตอบโดยจุดสรุปก็คือว่าเรื่องของศรัทธา
มันศรัทธาในรูปก็ได้ ศรัทธาในรูปเฉยๆ ก็ได้
ไม่จำเป็นต้องไปรังเกียจหรือตั้งแง่ว่า เอ๊ย อันนั้นเป็นของศาสนาอื่น ไม่เข้ากับเรา
แต่ว่าเรารู้อยู่ในใจก็แล้วกันว่าศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้ว ศรัทธาที่เรายึดแล้วเป็นเรือนตาย
ศรัทธาที่เราเปล่งวาจาขอถือเป็นสรณะแล้ว
มีแต่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เท่านั้น
เพราะว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นคำตอบให้กับชีวิตของเรา
เป็นทางสว่าง เป็นทางปฏิบัติ ที่เราเอาไปใช้ได้จริง เอาไปทำได้จริงในชีวิตประจำวันนะ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP