โหรา (ไม่) คาใจ Astro FAQ

ดับร้อนด้วยน้ำใจ ดับไฟด้วยเมตตา


Aims Astro

ถาม – ดิฉันมีพื้นฐานเป็นคนใจร้อน พยายามใช้ธรรมะเข้าข่ม ก็พอจะช่วยได้บ้าง ปัญหาคือทุกวันนี้ต้องเจอคนที่สร้างเรื่องชวนให้เกิดโทสะ ตั้งแต่ที่บ้าน ที่ทำงาน แม้แต่บนท้องถนนก็ไม่วาย อยากถามว่าในสถานการณ์แบบนี้จะคิดยังไงให้ไม่โกรธคนที่สร้างปัญหาให้คะ

ต้องบอกก่อนว่าแต่ละคนมีความอดทนไม่เท่ากันนะคะ ดวงจะบอกเลยค่ะว่าเจ้าชะตาเป็นคนที่โทสะเกิดง่ายหรือไม่ และเมื่อโกรธแล้วจะหายง่ายหรือช้า การอยู่ในโลกมนุษย์นี้ เราต้องได้รับผัสสะทั้งทางดีและทางร้ายนะคะ นอกจากจะต้องเจอเรื่องร้อนใจในโลกจริงๆ แล้ว แม้แต่ในโลกไซเบอร์ก็ยังอุตส่าห์มีเรื่องทะเลาะกันจนได้สิน่า จนกล่าวได้ว่าในการปฏิสัมพันธ์กันนั้น ยากที่จะเลี่ยงความขัดแย้ง เพราะต่างคนต่างอุปนิสัยกัน คิดเห็นต่างกัน แต่ถ้ากระทบกระทั่งกันแล้วไม่มีการให้อภัย ชั่วชีวิตนี้ก็คงต้องมีปัญหาร้อนๆ อยู่ร่ำไปค่ะ

เรื่องของการที่มีคนมาขยันทำให้เกิดโทสะนี้ มีลูกค้าหญิงท่านหนึ่งกำลังประสบปัญหาอยู่เลยค่ะ ขอสมมุตินามของเธอว่าคุณแองเจลล่า นิสัยใจคอของเธอนั้นเป็นคนตรงไปตรงมา ขยันขันแข็ง แต่มีปัญหาเรื่องอารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่ายไปสักนิด แถมถูกกรรมจัดสรรให้มักต้องเจอบุคคลและเหตุการณ์ที่ชวนให้เกิดโทสะ ลูกค้าเปิดเผยว่าเบื่อหน่ายสภาพแบบนี้มาก โดยเฉพาะในส่วนของเพื่อนร่วมงานนั้น ไม่ว่าจะย้ายงานกี่รอบก็หนีไม่พ้น เปลี่ยนบริษัทไปเจอคนใหม่ๆ แต่ลงท้ายก็มีพฤติกรรมเหมือนเดิมๆ ซึ่งตามที่อ่านได้จากดวงก็เป็นดังที่เธอว่ามา ถึงจะเป็นแบบนี้แต่ใช่ว่าจะไร้ทางออกเสียทีเดียว เพราะกรรมขาวในปัจจุบันที่เกิดจากการคิดดี พูดดี ทำดี มีใจให้อภัยอีกฝ่าย จะช่วยลดอุณหภูมิในใจ ส่งผลให้สภาพในออฟฟิศดีขึ้นได้ค่ะ

คุณแองเจลล่าปรึกษาว่าควรจะคิดอย่างไรให้ใจสบาย เพราะต้องเผชิญกับคนที่ทำให้ขุ่นใจไม่เว้นแต่ละวัน ตอบเธอไปว่า “คิดแบบนี้ดีไหมคะ ถึงเราไม่ฆ่าเรา เขาก็ตาย” เธอฟังแล้วบอกว่า “เออ จริง” หมอดูได้ทีเลยบอกไปว่า “เหมือนที่ไม่ต้องมีใครมาฆ่าเรา เราก็ตายค่ะ” (^__^!) แล้วก็อธิบายต่อว่า “อันที่จริงเราทุกคนเป็น เพื่อนร่วมทุกข์ กันทั้งนั้น ต่างคนต่างลอยคอในมหาสมุทรแห่งความทุกข์ ทุกคนมีร่างกายอันเป็นรังของโรค ต้องพบความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพรากจากทรัพย์สมบัติทั้งปวง ตลอดจนถึงบุคคลอันเป็นที่รัก ต่างคนต่างทุกข์แบบไม่แตกต่างกัน คิดแบบนี้จะได้เกิดความเมตตากรุณาสงสาร ไม่อยากผูกโกรธหรือจองเวรอันจะทำให้ทั้งตัวเองและอีกฝ่ายต้องเป็นทุกข์เพิ่มขึ้นนะคะ”

อีกประการหนึ่งคือถ้าคุณแองเจลล่าคิดแต่ว่าคนที่คอยหาเรื่องนั้นเป็นคนนิสัยไม่ดี คอยจ้องแต่จะเล่นงานเธออยู่อย่างเดียว คิดอย่างนี้อาจจะอภัยไม่ได้ง่ายๆ แต่ถ้าปรับมุมมองให้ถูกต้องในเรื่องของกรรมก็จะต้องยอมรับว่า เธอจะไม่เจอคนแบบนี้แน่ๆ ถ้าไม่เคยทำเหตุอันคู่ควรไว้ ดังนั้นจึงต้องคิดว่าไม่ใช่เขาทำร้ายเรา แต่กรรมเก่าของเราเองที่ส่งเขามาเล่นงานเรา เราถูกเขากระทำนั่นคือการใช้หนี้ หากให้อภัยได้ เรื่องราวต่างๆ ที่ขุ่นข้องหมองใจนั้นจะจบลงที่ใจเรา ไม่ผูกเวรกันต่อไปอีก (^__^) เมื่อคุณแองเจลล่ายอมรับฟัง ก็รู้สึกว่าเธอจะเบิกบานและอ่อนโยนขึ้น ซึ่งก็น่ายินดีจริงๆ ค่ะ

เพิ่มเติมไปด้วยว่าถ้าหากเพื่อนร่วมงานของคุณเป็นคนไม่น่ารักอย่างมากๆ นี่แปลว่าเขากำลังสร้างโลกที่ไม่ดี สร้างสิ่งแวดล้อมที่ร้ายๆ ให้กับตนเอง ถ้าเป็นคนนิสัยไม่น่ารักก็ต้องมีคนไม่น้อยที่ชิงชังเขา แล้วการอยู่ในสถานที่ที่มีแต่คนที่ไม่ชอบหน้า จะหาความสุขได้ตรงไหนเนี่ย (_ _!) แถมอีกนิดว่าขอให้คุณแองเจลล่าลองมองหาข้อดีของเขาบ้าง จะได้ไม่เกิดอกุศลจิตต่อกันมากนัก เช่น เขาอาจจะเป็นพ่อ/แม่ที่ดี เป็นลูกที่กตัญญู เป็นลูกน้องที่รู้ใจนาย ฯลฯ หรือถ้าคุณหาความดีของอีกฝ่ายไม่เจอเลย (T__T) ก็อยากให้คิดว่าอย่างน้อยเขาทำให้เรารู้ตัวว่ายังเป็น “คนมักโกรธ” อยู่ ยังถูกกิเลสครอบงำได้อยู่นะ

ที่สำคัญคือถ้าเรารู้สึกว่า “โลกนี้ไม่น่าอยู่ มีแต่เรื่องร้อนอกร้อนใจ มีแต่ปัญหา” ว่าไปแล้วในอีกแง่หนึ่งก็นับว่าดีเหมือนกัน เพราะจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้ตั้งใจเจริญสติปัฏฐาน ให้พ้นจากสังสารวัฏไปเสียที จะได้ไม่ต้องมาเกิด มาทนมาทุกข์แบบนี้อีก ทุกขเวทนาทั้งทางกายและใจจะมีคุณค่าอย่างสูงก็ตรงที่ทำให้เราระลึกถึงอันตรายในการเวียนว่ายตายเกิด และเป็นแรงผลักดันให้เกิดความมุ่งมั่นพากเพียรเพื่อพ้นทุกข์ทั้งปวง

เขียนมาถึงตรงนี้ก็คิดถึงเรื่องของ “การนับแต้ม” ขึ้นมาได้ เลยอยากเพิ่มเติมหน่อยว่าถ้ามีปัญหากับใครก็ตามแล้วตกลงใจว่าจะอโหสิแล้ว ปมขัดแย้งเก่าๆ นี่อย่าเอามารวมกับสิ่งที่เกิดในวันนี้เลยค่ะ ที่อภัยแล้วก็แล้วกันไป ถ้าคอยทบต้นทบดอกทำนองว่า “เดือนก่อนก็หักหน้าเรากลางที่ประชุม สองอาทิตย์ที่แล้วก็สร้างปัญหามาให้ สามวันก่อนก็ทำให้เราเสียใจ เมื่อวานก็พูดประชดประชัน แถมวันนี้ก็ยังนินทาเราให้นายฟังอีก” ถ้าคอยย้ำคิดกันแบบนี้ เห็นทีเราเองจะเป็นฝ่ายทุกข์ไม่จบ ขณะที่คนที่กระทำเราเขาอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ค่ะ

ในโอกาสนี้ก็ขออัญเชิญความตอนหนึ่งของพระนิพนธ์อันเย็นใจและช่วยแก้ไขความโกรธได้จริง มาให้ได้อ่านกันค่ะ (-/\-)

"มีเป็นอันมากที่รู้ความเป็นผู้มักโกรธของตน รู้โทษนั้น
เมื่อปรารถนาจะหนีให้พ้นโทษของความโกรธ
ก็พึงรับความจริงว่าเมตตาเท่านั้นที่จะดับความโกรธได้
เมตตาเท่านั้นที่จะป้องกันมิให้ความโกรธรุนแรงได้
บางทีจึงใช้วิธีที่ง่าย คือใช้คำภาวนาเมื่อความโกรธเกิดขึ้น เช่น ท่องพุทโธ พุทโธ
แต่แม้จะให้เป็นปัญญา ป้องกันความโกรธให้ไกลออกไปเป็นลำดับ ให้เมตตามากขึ้นเป็นลำดับ
ก็ต้องเปลี่ยนคำภาวนาอันเป็นสมาธิ ให้มาเป็นคำภาวนาอันเป็นปัญญา
คือด้วยการบอกตัวเองหรือเตือนตัวเองนั่นแหละว่า
เมตตาไม่พอ เมตตาไม่พอ
ความสำคัญในการภาวนาว่า
เมตตาไม่พออยู่ที่ต้องทำใจให้ยอมรับความบกพร่องของใจตน
ว่าเมตตาไม่พอจริงๆ นั่นแหละ จึงจะเป็นการค่อยผลักดันโทสะที่มีอยู่เต็มโลก
ให้ห่างไกลใจตนได้สำเร็จเป็นลำดับไป

เมตตาไม่พอ เมตตาไม่พอนี้เป็นความจริง ที่ทุกคนตำหนิตนได้
ไม่ใช่ไปตำหนิผู้อื่น แม้ใช้
เมตตาไม่พอกับผู้อื่น
แทนที่จะเป็นคุณ ก็จะกลับเป็นโทษอย่างแน่นอน พึงสำนึกในความจริงนี้ให้เสมอ"

จาก “การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง”
พระนิพนธ์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

การให้อภัยทำให้ใจเราสบายนะคะ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะสำนึกได้หรือไม่ก็ตาม เพราะเราไปเปลี่ยนแปลงโลกภายนอกไม่ได้ ที่ทำได้คือแก้ที่ใจตนเองเท่านั้น ใช้น้ำใจ ดับไฟในอก อภัยเสียให้หมดจดจะได้ไม่ต้องเก็บไว้ให้รกใจ จนกลายเป็นนรกในใจ แต่ถ้าในกรณีที่โดนไอร้อนจากกองไฟของคนอื่นแบบที่หนีไม่ได้ ก็ให้คิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้บำเพ็ญบารมี กระทำอภัยทาน ถ้าโลกนี้ไม่มีการกระทบกระทั่งกันเลย เราคงไม่ได้ทำบุญด้วยการสละความโกรธทิ้งไปจากใจนะคะ

: )

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำหรับท่านที่สนใจดูดวงกับคุณ Aims Astro สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ http://sites.google.com/site/aimsastro/



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP