จากใจ บ.ก.ใกล้ตัว Lite Talk

ฉบับที่ ๕๒ เจริญสติแล้วไอเดียดีขึ้น


แวดวงธุรกิจระดับโลกในปัจจุบัน
ต่างยอมรับกันว่าไอเดียเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าเงินทุน
อย่างเช่นเฟซบุ๊กกับทวิตเตอร์นั้น
มีมูลค่าเป็นร้อยเป็นพันล้านดอลล์ได้เพราะไอเดีย
ไม่ใช่เพราะอาศัยการระดมทุนอย่างมโหฬารตอนเริ่ม

ไอเดียดีๆมักไม่ได้เกิดจากการตั้งใจเค้นคิด
แต่มันจะมาตอนไม่ได้คิดมาก
เช่น ขณะเล่นกีฬา ขณะออกกำลังกาย
ขณะขับรถ ขณะคุยเล่น หรือขณะกำลังอาบน้ำเพลินๆ

พูดให้รวบรัดคือไอเดียดีๆมักมา
ขณะที่เรากำลังให้อิสระกับความคิด
โดยเฉพาะความคิดที่มีทุนเดิมเป็นการตกผลึกแล้ว
ในสาขาอาชีพด้านใดด้านหนึ่งที่เราคร่ำหวอดอยู่กับมันนานพอ
และอิสระทางความคิดนั้น จะต้องไม่ถูกจำกัดด้วยข้อแม้ใดๆ
ไม่ว่าจะเป็นความกลัวคิดผิด ตัดสินใจพลาด
หรือประสบกับความล้มเหลวเมื่อจะลองเอาไอเดียไปใช้จริง

มองจากมุมที่กล่าวแล้วข้างต้น
อุปสรรคที่ปิดกั้นไอเดียดีๆของคนส่วนใหญ่ ได้แก่
๑) ไม่มีความเต็มใจพอจะเอาธุระ
เอาใจใส่กับงานมากพอจะตกผลึกทางความคิดในงาน
๒) ไม่กล้าคิดเองคนเดียว กลัวผิด
ต้องอาศัยมติที่ประชุมเป็นหลัก
เผื่อพลาดขึ้นมาจะได้มองว่าเป็นมติจากที่ประชุม
๓) ดูแคลนความคิดอันเกิดขึ้นอย่างเป็นอิสระยามว่าง
สำคัญว่าความคิดที่เกิดจากการจงใจเค้นบนโต๊ะทำงาน
จึงจะเอามาใช้งานจริงได้

ปัจจุบันมีคอร์สอบรมสร้างไอเดียเด็ด
ซึ่งก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง
เพราะไม่ขึ้นอยู่กับคอร์สอย่างเดียว
ทัศนคติ ความเชื่อ ตลอดจนความรู้ความสามารถ
ของผู้เข้ารับการอบรมต้องมีความพร้อมพอจะรับด้วย

แต่ถ้าคุณฝึกเจริญสติโดยมีความเข้าใจที่ถูกต้องนำหน้า
คุณอาจพบว่าไอเดียดีๆที่เกิดขึ้นจะไม่สูญเปล่าอีกต่อไป
เพราะเมื่อเจริญสติอยู่ด้วยมุมมองและความเข้าใจ
ว่าความคิดฟุ้งซ่านไม่ใช่ตัวคุณ
เห็นว่าไม่มีใครปล่อยมันออกมา และไม่มีใครสั่งระงับมันได้
ใจของคุณจะไม่มีลักษณะครอบงำความคิด
เห็นมันเป็นภาวะคลื่นลมที่เกิดขึ้นในหัวเป็นคราวๆ
ไม่เอาถูกเอาผิดกับมัน ไม่กลัวเสียหน้าเพราะมัน
ไม่ต้องรู้สึกผิดจากการที่มันปรากฏขึ้นในหัวคุณ
และขณะเดียวกันก็ไม่ไปโลภมากจะขุดทองจากมันด้วย

แทนการรำคาญความฟุ้งซ่าน
คุณจะมีความสุข ความพอใจ
ที่ตัวเองมีความสามารถเห็นความฟุ้งซ่านเกิดเองได้หายเองได้

วิธีเริ่มต้นก็ไม่ยากเย็นอย่างที่คิด
แค่ตัดความอยากหายฟุ้งซ่านออกไปเป็นอันดับแรก
แล้วยอมรับตามจริงว่ากำลังฟุ้งซ่าน
เริ่มฝึกคุณจะเห็นแต่อาการตั้งอยู่ของมัน
แต่ไม่นานคุณจะเห็นการดับไปของมันด้วย

เมื่อเห็นความตั้งอยู่และดับไปของความฟุ้งซ่านบ่อยขึ้น
ไม่นานเช่นกัน จิตของคุณจะสงัดเงียบบ่อยขึ้น
และจากตรงนั้น คุณจะเริ่มเห็นว่าขณะใดวินาทีไหน
ที่ความฟุ้งซ่านเริ่มก่อตัวขึ้นจากความสงัดเงียบของจิต

ผลพลอยได้ที่จะตามมาเอง คือใจที่เปิดกว้าง
ยอมให้ทุกความฟุ้งซ่านเกิดขึ้น
โดยไม่ยอมให้จิตพลอยซัดส่ายตามความฟุ้งซ่านไปด้วย
คุณอาจรู้หรืออาจไม่รู้ ว่าคลื่นความฟุ้งซ่านหนึ่งๆ
มันซัดพาเรื่องใดมากระทบใจ
แต่ที่แน่ๆคือจะไม่หลงติดอยู่
กับคลื่นความคิดระลอกใดระลอกหนึ่ง

นั่นแปลว่าในร้อยความฟุ้งซ่าน
ถ้าจับพลัดจับผลูเกิดความคิดแปลกใหม่
ผสมโยงใยระหว่างความฟุ้งซ่านหนึ่งกับอีกความฟุ้งซ่านหนึ่ง
แล้วคุณรู้สึกว่ามันเข้าท่า มันใช้ได้ มันน่าจะเป็นที่ยอมรับ
ก็จะเกิดการประมวลผลเองของจิต
คิดต่อยอดเอามาผสมผสาน ประดิดประดอยให้ประณีต
และนำมาใช้จริงได้ในที่สุด

ถ้าใครยังสงสัยว่าการเจริญสติจะมีผล
ให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงหรือไม่
ก็ขอให้ลองพิจารณาว่ายิ่งเจริญสติ
จะยิ่งช่วยให้ไอเดียเจริญขึ้นได้จริงหรือไม่

ดังตฤณ
พฤษภาคม ๕๔


 

 

เพิ่งผ่านพ้นวันสำคัญของชาวพุทธมาหมาดๆ
วิสาขบูชาที่ผ่านมา หลายคนคงมีโอกาสไปเวียนเทียนกันใช่ไหมคะ
แล้วเพื่อนๆ ทราบกันไหมคะว่า เวียนเทียน เวียนทำไม
ในคอลัมน์ จุดหมายปลายธรรม คุณงดงามจะมาตอบให้ค่ะ

การให้ทานกับผู้ที่ยังมีชิวิตอยู่ ขอเพียงมีใจจริงที่อยากจะให้ ก็คงหาวิธีการได้ไม่ยาก
แต่การให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถส่งผ่านสิ่งเหล่านั้นไปถึงพวกเขาได้
คำถามนี้มีคำตอบอยู่ในคอลัมน์ ดังตฤณวิสัชนา
ตอน ทำบุญวิธีไหนผู้ล่วงลับจึงจะได้รับกุศลที่ส่งไปให้

จากนั้น มาติดตามภาคต่อจากตอนที่แล้วของคอลัมน์ โหรา (ไม่) คาใจ
จาก เมียหลวงมืออาชีพ สู่ รักลับๆ ร้าวลึกๆ
ริจะมีรักซ้อน ต้องเตรียมพร้อมจะรับผลอย่างไร
คุณ Aims Astro มีกรณีตัวอย่างมาเล่าให้ฟังกันเช่นเคยค่ะ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP