วรรณกรรมนำใจ Lite Literature

เพลิงนาคา ๑๓


ชลนิล


(ต่อจากฉบับที่แล้ว)


บทที่ ๑๐


ก้องฟ้าอยู่ในฝันที่ไม่เหมือนฝันเลยสักนิด

มันเป็นถ้ำกว้างเพดานสูง ผนังเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย ตามซอกหลืบมุมต่างๆ แออัดด้วยงูนานาชนิดขดตัวชูคอข่มขู่ เบื้องหน้าก้องฟ้ามีงูขนาดใหญ่ลำตัวเท่าท่อนซุงเกล็ดเรียงซ้อนสีน้ำตาลอมแดง สูงขึ้นไปคือศีรษะแห่งนาคราช หงอนสีแดงเข้ม แผงคอหนา นัยน์ตากลมแผ่รังสีอำมหิตรุนแรงพอจะสยบเขาจนจมดิน

ท่าน ก้องฟ้าหลุดคำพูดแสนยากเย็น ท่านจะทำอะไรผม

หึ...หึ... เสียงหัวเราะกระหึ่มคุ้นหู น้ำเสียงนี้เคยได้ยินแล้วครั้งหนึ่ง

จำข้าไม่ได้หรอกรึ คำพูดกังวานก้องถ้ำ ข้านี่ไงที่เคยบอกตระกูลเอ็งต้องวิบัติฉิบหาย ทุกคนต้องตายสิ้น

วาจาไม่บอกเลยว่าล้อเล่น ก้องฟ้าทบทวนความจำ...เงาดำชายหนุ่มสูงเพรียวพูดด้วยประโยคเดียวกันนี้พร้อมงูอีกโขยง...

ผมพอจะทำอะไรเพื่อแก้ไขได้ไหมครับ เขาพยายามต่อรอง

ไม่ คำพูดเด็ดขาด ข้ามาบอกให้พวกเอ็งเตรียมตัวเตรียมใจเท่านั้น

หรือว่านี่เป็นความแค้นตั้งแต่ต้นตระกูล ก้องฟ้าพึมพำ

ในเมื่อเอ็งรู้เรื่องสมัยต้นตระกูลดีแล้ว ก็ต้องรู้ข้าไม่มีทางอ่อนข้อ จำไว้นี่เป็นการทักทายเท่านั้น อีกไม่นานจะเจอของจริง

คำพูดกระหึ่มแฝงรอยเยาะหยัน ทันใดนั้นนาคราชที่ขดตัวก็อ้าปากพ่นควันสีแดงออกมา กลิ่นเหม็นฉุนจัดรุนแรง ก้องฟ้าหลบหลีกดิ้นรนแสบร้อนทั้งตัว ปากตะโกนร้องก้อง

กลัวแล้วครับท่าน อย่าทำผมเลย ได้โปรดละเว้นพวกเราด้วย

เสียงร้องโหยหวนไม่อาจช่วยอะไรได้ รอบตัวมืดมิดผิวกายแสบร้อน เจ็บปวดทรมานจนความรู้สึกชาด้าน เปลี่ยนเป็นเลื่อนลอย ลอยไกลออกไปไกลไปเรื่อยๆ


ก้องฟ้าเข้าห้องฉุกเฉินหลังจากมีอาการเกร็ง ชักกระตุก อุณหภูมิร่างกายสูงผิดปกติ เธียรเฝ้ารอหน้าห้อง เขาไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัว เหตุร้ายหลายอย่างถึงประเดประดังเข้ามาในช่วงเวลาไม่นาน

จิญยานีขอตัวกลับหลังจากนั่งรอเป็นเพื่อนสักพัก เธียรมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงคนนี้กับพ่อชัดขึ้น จริงอยู่หลังแม่ตายเขาไม่คิดว่าพ่อจะครองตัวเป็นโสดชั่วชีวิต

หลายปีที่ผ่านมามีผู้หญิงหลายคนแวะเวียนในชีวิตมหาเศรษฐีวัยกลางคนผู้นี้ โดยมากพวกหล่อนจะรับตำแหน่งแค่ อีหนู ไม่เคยมีใครขึ้นมาเคียงไหล่ในงานสังคมเหมือนจิญยานี

วันนี้ถ้าหากใครจะสามารถขึ้นเป็นคุณผู้หญิงของนาคพิทักษ์ได้ คนนั้นน่าจะเป็นเธอ


รอเป็นชั่วโมงก้องฟ้าถึงพ้นขีดอันตรายออกจากห้องฉุกเฉินเข้าห้องพักฟื้น เธียรตั้งใจรอดูอาการอีกสักพักก่อนเข้าบริษัทรับมือกับปัญหา

ทันทีที่ก้องฟ้าขึ้นเตียงห้องพักฟื้น เขาก็ลืมตาตื่นขึ้นมา

เธียร เสียงเรียกลูกชายแผ่วระโหย

พ่อเป็นยังไงบ้าง เขาถามด้วยความเป็นห่วง

สีหน้าก้องฟ้าซีดเผือด ลมหายใจขัดความร้อนในตัวคลายลง ร่างกายแทบไม่มีแรง

พ่อเป็นอะไรไป ก้องฟ้าถามลูกชาย เขาจำได้แค่อยู่ในงานเลี้ยง กำลังดูการแสดงแบบชุดสุดท้ายนาคราช จู่ๆ ก็วูบหมดสติ เรื่องที่ค้างคาคงเป็นฝันอันน่าสะพรึง ฝันที่เหมือนจริง

พ่อเป็นลม ไม่สบาย เธียรไม่อยากบอกความจริงตอนนี้ เหตุร้ายเมื่อคืนเขาจะรับหน้าเอง ไม่ต้องห่วงหรอกครับ พักผ่อนมากๆ พ่อเหนื่อยมามากแล้ว

ก้องฟ้าอยากหลับตาพักตามคำลูกชาย แต่ยังมีหลายเรื่องเสียดแทง ไม่อาจหลับลง

งานเมื่อคืนเรียบร้อยมั้ย พ่อเป็นลมนานหรือเปล่า ทางบริษัทเป็นอย่างไรบ้าง บอกไตรให้เข้ามาคุยหน่อย

เธียรกุมมือพ่อไว้พูดเสียงอ่อนโยน

ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้นครับ ผมจะจัดการให้ พ่อนอนพักเถอะ

ก้องฟ้าระบายลมหายใจยาว ร่างกายอยากพักผ่อนเต็มที่ หนังตาหนักอึ้งแทบยกไม่ขึ้น เตรียมเข้าสู่ภวังค์อีกครั้ง แล้วก็ฝืนลืมตาอีก

เธียร...พ่อมีเรื่องจะบอก เรื่องสำคัญมาก

เอาไว้ก่อนก็ได้ครับ เห็นท่าทางก้องฟ้าแล้วไม่ควรให้ออกแรงมากเกินไป

แต่มันสำคัญมาก เรื่องของตระกูลเรา มันสำคัญที่สุด ก้องฟ้าหน้าแดง หัวใจเต้นระรัว

ครับพ่อ เย็นนี้ผมจะมาอีก พ่อค่อยเล่าให้ฟังตอนนั้นก็ได้ เวลานี้พักผ่อนเถอะ พ่อเหนื่อยเกินไปจริงๆ

ก้องฟ้าตัวเบากลวงเรี่ยวแรงถูกสูบจนหมด ยกหนังตาไม่ขึ้นต้องยอมให้มันปิด สติดับสู่อาการหลับใหลทันที

เธียรถอนใจคลายมือจากบิดา ถึงแคลงใจคำพูดประโยคสุดท้าย เรื่องสำคัญของตระกูล แต่ปัญหาเฉพาะหน้าสำคัญกว่า เขารีบลุกออกจากห้องพักฟื้น

เมื่อเปิดประตูพบกลุ่มคนสามสี่คนยืนรอด้านนอก...ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิทุกคนล้วนสูงกว่าเขา ทั้งหมดคือกลุ่มกรรมการบริษัทและไตรเลขาคนสนิทของก้องฟ้า

ชายหนุ่มปรับสีหน้าเป็นปกติ ดวงตาฉายแววมุ่งมั่นพร้อมรับปัญหา เขาไม่อาจรู้ได้เลย ปัญหาที่พบมันหนักหนากว่าเรื่องเมื่อคืนหลายเท่า เป็นเรื่องไม่เคยคิดมันจะเกิดได้กับบริษัทยิ่งใหญ่อย่างตระกูลนาคพิทักษ์


-----000-----


สตูดิโออัดรายการ

รอยจันทร์กำลังทำหน้าที่พิธีกรในรายการ มิติเร้น รายการที่ซอกซอนค้นหาเรื่องราวลี้ลับทั่วประเทศและล่าสุดเพิ่งถ่ายทำบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคาย

ริวนั่งเช็คคิวตรวจสคริปต์อยู่ด้านนอกข้างกายมีป้าแดง ช่างแต่งหน้าสาวเทียมอาวุโสกำลังกล่อมให้เขาถ่ายแบบ

เนี่ยริวจะไม่ช่วยเพื่อนป้าหน่อยหรือจ๊ะ มันจะออกหนังสือใหม่ อยากได้ริวเป็นนายแบบหน้าปกคนแรก

หนังสือโป๊หรือเปล่าป้า ริวพูดเป็นเรื่องเล่น

ไม่ช่าย... พูดพร้อมตีต้นแขนเขาเบาๆ แหม เพื่อนป้าเขาลูกหลานเชื้อสายผู้ดีเก่านะยะ เขาจะออกหนังสือประเภทไฮโซนิดๆ อยากได้นายแบบหน้าใหม่ที่ดูดีมากๆ หน้าไม่ซ้ำไม่เคยถ่ายแบบที่ไหนมาก่อน ประเภทลงที่นี่ครั้งแรกแล้วดังเปรี้ยงเลย

ริวหัวเราะเบาๆ ละสายตาจากสคริปต์ของรอยจันทร์

ไม่เอาหรอกป้า เดี๋ยวถ่ายไปถ่ายมาก็บอกให้ผมแก้ผ้า

โธ่ ใครจะทำอย่างนั้น ป้าแดงค้อนกับลมกับแล้ง อย่างมากก็แค่ถอดเสื้อโชว์หน้าอกเท่านั้นเอง ไม่เสียหายอะไรอยู่แล้ว

อย่าเลยป้า ผมอายหุ่นตัวเองไม่อยากเป็นนายแบบ ริวบอกปัด

ริวเนี่ย ช่วยเพื่อนป้าหน่อยไม่ได้เหรอ เขาทุ่มค่าตัวไม่อั้นนะ

ชายหนุ่มยิ้มหวานไม่ให้เสียน้ำใจ บอกไปไม่มีใครเชื่อ เขาไม่เคยสนใจเรื่องเงินทองมาตั้งแต่ไหนแล้ว ที่ใช้ชีวิตอย่างประหยัดเพราะมันเป็นนิสัย

ไม่ไหวหรอกป้า เขาพูดพลางแกล้งทำหน้าม่อย ป้าดูสิ ผมเคยแต่ใส่เสื้อยืดถูกๆ สามตัวร้อย กางเกงยีนไม่มียี่ห้อ ขืนให้ผมใส่พวกเสื้อผ้าแบรนด์เนม หรือของห้องเสื้อหรูๆ มีหวังลมพิษกินตายเลย

พูดถึงตรงนี้ป้าแดงอดหัวเราะไม่ได้ ตีแขนเขาเบาๆ

แหม...ริวก็...ใครเขาเป็นลมพิษกับเสื้อผ้าแบรนด์เนมกัน

ก่อนที่ริวจะโดนป้าแดงไล่ต้อนมากกว่านี้ มีเสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะขึ้นก่อน ชายหนุ่มขอตัวเลี่ยงไปคุยโดยไม่เสียมารยาท

ว่ายังไงจ๊ะน้องน้ำฝน แค่เห็นเบอร์ก็รู้ว่าใครโทร.มา

พี่ริวไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ เสียงเด็กสาวแสดงความเป็นห่วง

เอ...พี่จะเป็นอะไรล่ะจ๊ะ เขาถามกึ่งล้อ

ก็น้ำฝนเพิ่งอ่านข่าวงานเลี้ยงเมื่อคืน เห็นชื่อพี่รอยเป็นนางแบบด้วยเลยโทร.มาถาม

อ้อ เขาเข้าใจ ไม่ต้องห่วงหรอกจ๊ะ พี่กับเจ๊สบายดี วันนี้ยังมาอัดรายการได้เลย

ปลายสายมีเสียงถอนใจโล่งอก

ดีจังเลย น้ำฝนเป็นห่วงแทบแย่ เสียงสดใสชวนให้คิดถึงใบหน้าเจ้าหล่อน

ห่วงใครจ๊ะ ห่วงพี่หรือเจ๊รอย เขาถามล้อเลียน

ทั้งคู่แหละค่ะ

ไม่เอา ห่วงพี่คนเดียวสิจ๊ะ เจ๊รอยแกจะขึ้นคานอยู่แล้ว จะเป็นอะไรก็ช่างเหอะ เลิกห่วงได้

แหม...พี่ริวก็... เด็กสาวหัวเราะเสียงใส ทั้งคู่คุยกันอีกครู่ใหญ่กว่าจะวางหู


ถึงตอนนี้ป้าแดงต้องรีบไปทำงานแล้ว ไม่มีเวลามาเกลี้ยกล่อมอีก ส่วนรอยจันทร์ได้เบรกสิบนาทีจึงเดินมาหาพร้อมพี่แพทผู้กำกับรายการ

ไงริว คุยกับสาวอยู่เหรอเห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว พี่แพททัก

ชายหนุ่มยิ้มให้ไม่ตอบคำ หยิบน้ำดื่มบริการพี่สาว

ขอบใจ กับน้องชาย...รอยจันทร์มักพูดจาแบบเพื่อนสนิท

เออริว วันศุกร์ที่จะถึงนี้ ทีมงานเราจะไปอุดรกันนะ ช่วยดูคิวทีว่ารอยว่างมั้ย

พี่แพทบอก ริวเปิดสมุดคิวงานก่อนตอบ

วันศุกร์ว่างครับ แต่วันอาทิตย์รอยติดถ่ายละคร

ไปทำเรื่องอะไรคะพี่ รอยจันทร์ถาม

เกี่ยวกับพญานาคนั่นแหละ เทปที่เราถ่ายตอนบั้งไฟพญานาคน่ะ ฟีดแบ็กดีมาก คนดูชอบเรียกร้องให้ทำเรื่องแบบนี้อีก

พูดถึงพญานาคริวปวดหัวหนึบ เพิ่ง รบ กันมาจะให้ไปตามรอยกันอีกแล้ว

คราวนี้ถ่ายแถวไหนคะ หนองคายอีกหรือเปล่า

ไม่ใช่ เป็นอำเภอบ้านดุง รอยรู้จักคำชะโนดมั้ย

ค่ะพอจะเคยได้ยินบ้าง หญิงสาวตอบกล้อมแกล้ม เคยได้ยินจริงๆ แต่ไม่รู้รายละเอียด

ที่เขาว่ามีบ่อพญานาคใช่มั้ยครับ ริวรู้มากกว่าหน่อยนึง

นั่นแหละ เราออกเดินทางวันศุกร์ ค้างคืนที่อุดรแล้วเช้าวันเสาร์ทำงานเสร็จแล้วกลับกรุงเทพฯ รอยมาถ่ายละครทันแน่

งั้นไม่มีปัญหาค่ะ ขอร้องแค่อย่าพักโรงแรมเดิมแล้วกันนะคะ รอยจันทร์ยังขยาดประสบการณ์สยองขวัญไม่หาย

พี่แพทหัวเราะเมื่อนึกถึงห้องผีสิง ส่วนคนที่เจอกับตัวยังยิ้มไม่ออก ถ้าคืนนั้นริวเข้ามาไม่ทัน รอยจันทร์มีหวังจับไข้หัวโกร๋นแน่

โอเค คราวนี้พี่จะเปลี่ยนโรงแรม พี่แพทยืนยัน

โรงแรมอื่นอาจมีผีดุกว่าเดิมก็ได้ ริวล้อพี่สาว

เออ งั้นฉันจะลากแกไปนอนด้วย รอยจันทร์ประกาศ

อ้าว...คราวนี้ไม่กลัวเป็นข่าวเหรอ ดาราสาวหิ้วหนุ่มเอ๊าะๆ เข้าโรงแรม

ไม่เป็นไร ฉันกลัวผีมากกว่า หญิงสาวยอมรับอย่างไม่อาย

คำพูดนี้เรียกเสียงหัวเราะจากสองหนุ่ม ริวรู้ดีพี่สาวตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงขี้ขลาดใจเสาะถึงขนาดนั้น คราวก่อนเจอประสบการณ์สยองยังสามารถตั้งสติได้เร็วไม่ร้องแรกแหกกระเชอ เขาได้แต่หวังให้หล่อนเข้มแข็งไปตลอด เพราะตราบใดที่รอยจันทร์พัวพันกับเธียร คงต้องพบเหตุการณ์ร้ายยิ่งกว่านั้นหลายเท่า


-----000-----


พราวพิรุณวางหูโทรศัพท์ด้วยความโล่งใจ โชคดีริวไม่เป็นอะไร ข่าวหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งอ่านเล่นเอาใจแทบไม่อยู่กับเนื้อตัว

งานเลี้ยงสยอง ไฮโซเรียงแถวเข้า ร.พ.

งานเลี้ยงนั้นหล่อนเพิ่งไปร่วมงานในฐานะคุณหนูพราวพิรุณ บุตรสาวท่านชัยกาลและคุณหญิงเรือนอร ไม่ใช่ฐานะน้ำฝน เด็กสาวกะโปโลที่ไม่มีใครรู้จักหัวนอนปลายเท้า

พอรู้ว่ารอยจันทร์มาเดินแบบก็นึกวิตก มั่นใจริวต้องมาด้วยแน่ๆ หล่อนไม่อยากให้เขารู้ฐานะของตน จึงออกอุบายแกล้งป่วยเพื่อกลับบ้าน

อุบายนั้นมีประโยชน์ยิ่ง นอกจากหลบพ้นสายตารอยจันทร์กับริวแล้วยังสามารถช่วยไม่ให้พ่อแม่ต้องเผลอดื่มไวน์ในงาน ไม่งั้นครอบครัวหล่อนคงเข้าโรงพยาบาลกันจริงๆ

คุยกับใครจ๊ะลูก เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว คุณหญิงเรือนอรทักบุตรสาว

เพื่อนค่ะ เด็กสาวตอบเลี่ยงๆ

คนไหนเอ่ย ใช่หนูจอยคนที่เรียนอยู่อังกฤษหรือเปล่า แม่พยายามนึกถึงเพื่อนสนิทลูกสาวที่ส่วนใหญ่เรียนระดับอุดมศึกษาในต่างประเทศ

ไม่ใช่ค่ะ พราวพิรุณย่นจมูก พวกเพื่อนสนิทของพราว พอไปเรียนต่อกันแล้วก็ไม่ยอมติดต่อกันบ้างเลย

พราวพิรุณเป็นชื่อที่พ่อแม่และคนทั่วไปใช้เรียก ส่วนชื่อ น้ำฝน นั้นคุณย่าผู้ล่วงลับเป็นคนตั้งให้ใช้เรียกกันเฉพาะสองย่าหลาน จนกระทั่งมีริวกับรอยจันทร์มาเพิ่ม

หนูคงไม่โกรธพ่อกับแม่นะจ๊ะ ที่ไม่ยอมให้ไปเรียนตามเพื่อนๆ คุณหญิงพูดอย่างเห็นใจ

พราวพิรุณและกลุ่มเพื่อนสนิทเอนทรานซ์ไม่ติดสักคน เลยไม่อยากเรียนเมืองไทย พร้อมใจกันยกโขยงเรียนต่างประเทศ มีพราวพิรุณคนเดียวไม่ได้ไปเพราะเป็นลูกสาวคนเล็ก ประกอบกับสุขภาพไม่ดี มีโรคประจำตัว พ่อแม่อยากให้เรียนมหาวิทยาลัยเอกชนดังๆ

ช่วงนั้นเด็กสาวพบริวจึงอยากเรียนรามคำแหงตามเขา ทำตัวติดดินเป็นเด็กสาวที่มีอิสระไม่มีใครรู้จัก พ่อแม่ไม่อนุญาต หล่อนจึงทำตัวเป็นเด็กสาวสองภาค ทั้งคุณหนูพราวพิรุณ และน้องน้ำฝน

กริ๊ง...โทรศัพท์ในบ้านดังขึ้น สาวใช้รับสายพูดคุยแว่วๆ ก่อนเดินมาบอกคุณหญิงเรือนอร

โทรศัพท์ค่ะท่าน จากคุณเธียร นาคพิทักษ์

คุณหญิงเรือนอรรับโทรศัพท์อย่างกระฉับกระเฉงสีหน้ายินดีจนลูกสาวแอบค้อน ทำไมจะไม่รู้พ่อแม่ตั้งใจจับคู่ตนเองกับเขา

เธียรเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพี่ชายคนโต เมื่อก่อนถูกจับคู่พี่สาวคนรองแต่คลาดแคล้วกัน สุดท้ายเหลือพราวพิรุณซึ่งผู้ใหญ่หมายมั่นปั้นมือให้ลงเอยเหมือนนิยายน้ำเน่า

พราวพิรุณไม่รังเกียจเธียร ผู้ชายที่หล่อ รวย ความรู้สูง ฐานะเสมอกันแบบนี้หาได้ง่ายที่ไหน ความที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่เล็กจึงคิดกับเขาเหมือนพี่ชาย เขาเองก็ไม่พิศวาสหล่อนนักหนา ดูท่าตามใจผู้ใหญ่มากกว่า

คุณหญิงกลับมาหลังวางหูโทรศัพท์เรียบร้อย

เธียรเขาโทร.มาขอโทษเรื่องงานเมื่อคืน แล้วถามว่าพวกเราเป็นอะไรบ้างหรือเปล่า

พราวพิรุณฟังคำรายงานของแม่โดยไม่ใส่ใจ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เขาต้องโทร.มาถามไถ่ข่าวคราว

แม่ว่ายังไงคะ หล่อนถาม

ก็บอกไปว่าทุกคนไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง แล้วถามเขาว่าทางนั้นเป็นยังไงบ้างมั้ยอะไรประมาณนี้

เด็กสาวถอนใจ ฟังน้ำเสียงแม่ไม่ได้ห่วงทางนั้นเท่าไหร่ พูดจาด้วยมารยาทปราศจากความจริงใจแบบนี้เป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย

แม่ว่าไวน์นั่นมีพิษเพราะอะไรคะ พราวพิรุณสงสัย

คงโดนแกล้งมากกว่า คิดดูบริษัทผลิตไวน์เจ้านั้นมีชื่อเสียงมาเป็นร้อยปี เขาไม่มีทางพลาดปล่อยให้มีสารพิษในไวน์ตัวเองหรอก

คนที่แกล้งมีจุดประสงค์อะไรหรือจะล้มบริษัท

เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้บริษัทตระกูลนาคพิทักษ์ล้มได้หรอกลูก คงมีเจตนาดิสเครดิตกันมากกว่า ไม่ก็ถ้าก้องฟ้าป่วยหนัก หุ้นบริษัทก็ตกฮวบ คนบางกลุ่มสามารถใช้หาผลประโยชน์ได้

พราวพิรุณฟังแล้วอดทึ่งไม่ได้ ใครจะรู้คุณหญิงเรือนอรที่ดูเป็นแม่บ้านแม่เรือน คุณนายไฮโซขนาดนี้ จะมีมันสมองทางธุรกิจเฉียบแหลม มิน่า...บริษัทพ่อถึงก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ติดอันดับระดับประเทศได้


-----000-----


เธียรอยู่ห้องทำงาน ปวดสมองหนึบๆ ท้องฟ้าภายนอกมืดสลัวแสงสีไฟเมืองหลวงจุดสว่างกระจายทั่ว ถนนขวักไขว่ไฟหน้ารถแต่ละคันฉายกราดสร้างสีสันให้กับยามสนธยา

วันนี้นอกจากเผชิญหน้ากับคณะกรรมการบริหารแล้วยังต้องรับมือกับเหล่าผู้เสียหายทั้งหลาย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัททำงานกันหนัก กว่าจะประสานงานพูดจาเคลียร์ให้ทุกฝ่ายเข้าใจ

ทีแรกคิดว่าการรับมือกับปัญหางานเลี้ยงเมื่อคืนเป็นเรื่องหนักหนาที่สุด ที่ไหนได้มันแค่เป็นการแหย่ให้เขาได้รับรู้ปัญหาใหญ่แท้จริงของบริษัทตระกูลนาคพิทักษ์

บริษัทมีหนี้สินมหาศาลตั้งแต่เศรษฐกิจฟองสบู่แตก ก้องฟ้ากู้เงินต่างประเทศมาลงทุนเป็นจำนวนมากก่อนลอยตัวค่าเงินบาท ทำให้เกิดหนี้สินส่วนต่างค่าเงินทวีคูณ

หลายปีที่ผ่านมา ตระกูลนาคพิทักษ์ปิดบริษัทในเครือนับร้อยแห่ง ที่ยังอยู่ได้คือธุรกิจหลักสินค้าที่คนทั้งประเทศมีความต้องการ และชื่อก้องฟ้าเป็นเครดิตที่ดี ทุกคนเชื่อถือ พอเขาป่วยจนเข้าโรงพยาบาล เหล่ากรรมการต่างระส่ำระสาย หุ้นบริษัทและบริษัทในเครือตกฮวบทุกตัว ปัญหาที่ก้องฟ้าสั่งปิดไม่ให้เธียรรู้ก็ถูกเปิดเผยในที่สุด

หลายชั่วโมงที่ผ่านมาเธียรนั่งตรวจดูกิจการทั้งหมดของบริษัท ดูแล้วยังมีบริษัทในเครือบางแห่งทำกำไรได้พอเลี้ยงตัว สินค้าของธุรกิจหลักยังมีความต้องการสูงและต่อเนื่อง แต่ยอดหนี้ที่ยังสูง บริษัทในเครือหลายแห่งกิจการยอบแยบ บริษัทแม่ต้องคอยจุนเจือแถมหุ้นมาตกซ้ำอีกทำให้เขาหนักใจจะทำอย่างไรต่อไปดี

ที่ผ่านมาก้องฟ้าใช้อำนาจตัดสินใจคนเดียว ทุกคนเชื่อถือ ทำให้บริษัทรุดหน้าเร็ว แต่เรื่องนี้มันก็เป็นจุดอ่อนที่น่ากลัวเหมือนกัน

เธียรเอนหลังพิงพนักถอนใจยาว อีกเดี๋ยวต้องไปดูอาการพ่อ นึกไม่ออกเหมือนกันจะตีหน้าอย่างไร อึดอัดใจจนอยากหาใครสักคนรับฟัง

หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองดูเบอร์ที่ได้จากริว ก่อนกดเรียกด้วยใจหวั่น กลัวทางนั้นไม่รับสาย


(โปรดติดตามต่อฉบับหน้า)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP