โหรา (ไม่) คาใจ Astro FAQ

งานแบบไหนที่ "ใช่เลย"


Astro FAQ

โดย Aims Astro

ถาม - ผมเปลี่ยนงานมาหลายหนแล้ว ถึงแม้แต่ละที่จะให้ค่าตอบแทนสูง แต่ผมก็ไม่เคยมีความสุขเลย เพราะรู้สึกเสมอว่านี่ไม่ใช่งานที่อยากทำจริงๆ ปัญหาคือผมยังหาตัวเองไม่เจอว่าชอบทำงานแบบไหนกันแน่ อยากทราบว่าดวงบอกได้ไหมครับว่างานที่เหมาะกับเราคืออะไร และงานแบบไหนที่เราทำได้ดี

หน้าที่การงานถือเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตค่ะ เพราะแต่ละคนใช้เวลากับงานไม่น้อย ถ้าทำงานประจำในสำนักงาน ก็ประมาณ ๑ ใน ๓ ของชีวิตที่ต้องอยู่กับงาน ถ้าอาชีพที่ไม่ถูกใจก็คงไม่มีความสุขนัก และคงประสบความสำเร็จได้ยากกว่าคนที่ทำด้วยใจรักค่ะ

สำหรับการอ่านเรื่องงานจากดวง ดวงบอกได้ค่ะว่างานแบบไหนที่เหมาะกับเจ้าชะตา เพราะบอกได้ถึงนิสัยใจคอว่าเป็นคนใจร้อนหรือใจเย็น ละเอียดรอบคอบหรือไม่ อดทนได้มากหรือปล่า ถนัดทำงานอะไร ถ้านิสัยชอบปลีกวิเวกแต่ต้องทำงานที่เจอผู้คนมากๆ ก็ไม่เหมาะ ไม่มีความสุข เพราะขัดแย้งกับธรรมชาติของตัวเอง ถ้าชอบพบปะกับคนอื่นๆ ใช้ภาษาในการสื่อสารได้ดี ก็ควรเลือกงานที่สอดคล้องกับนิสัย ถ้าชอบงานมั่นคง กลัวความไม่แน่นอน ก็ควรเลือกรับราชการหรือหน่วยงานที่มีความมั่นคงสูง ซึ่งอาจจะได้เงินน้อยกว่าการเป็นเจ้าของกิจการหรืออาชีพอิสระ แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ แบบนี้ก็ควรเป็นเจ้านายตัวเองค่ะ

นอกจากนี้ดวงยังบอกได้ว่าเจ้าตัวชอบงานแบบไหน และงานที่ได้ทำเป็นงานที่ชอบหรือเปล่า หลายครั้งเหมือนกันค่ะที่พบว่าลูกค้าบางท่าน เจริญก้าวหน้าในงานที่ทำ แต่กลับไม่ค่อยมีความสุขนัก พอมาดูที่ดวงก็ได้รู้ว่างานที่ทำอยู่เป็นงานที่ไม่ได้ชอบ แต่ทำได้และตั้งใจทำ

งานบางอย่างถ้าไม่เหมาะจริงๆ เรียกว่าไม่ได้ทำกรรมดีมาทางนี้ ถ้าฝืนไปทำก็ไม่ค่อยสำเร็จเท่าไหร่ค่ะ ดังเช่นลูกค้าหญิงท่านหนึ่งที่มีกิจการร้านค้าหลายอย่าง รวมไปถึงร้านกาแฟด้วย เธอมาปรึกษาเรื่องงาน เมื่อตรวจดวงแล้วเห็นว่าไม่ควรขายกาแฟต่อไปเพราะไม่เข้ากับดวงเลย ลูกค้าบอกว่าก็ร้านกาแฟนี่แหละที่ทำให้กำไรหดหาย แต่ที่ทำก็เพราะใจรัก ดิฉันจึงเพิ่มเติมไปว่าของที่ควรจะขายคือของสวยงาม ของชำร่วย ของที่ระลึก หรือรับพิมพ์การ์ดแต่งงานก็ยังได้ ลูกค้าบอกว่าของที่ระลึกเคยขายแล้ว ขายดีเลยด้วย ส่วนการ์ดแต่งงานนี่ก็น่าแปลกใจอยู่ เพราะชายหนุ่มที่เธอกำลังคุยอยู่มีอาชีพออกแบบการ์ดแต่งงาน (อันนี้ต้องมาลุ้นกันต่อไปค่ะ ^_^)

บางคนทำงานที่ไม่เหมาะกับตัวเองแต่ในที่สุดก็พบสถานการณ์ที่ทำให้ตัดสินใจได้เสียทีค่ะ ยกตัวอย่างลูกค้าหญิงอีกท่าน เมื่อตรวจดวงก็เห็นว่าเธอเหมาะที่จะสอนหนังสือ เพราะทั้งนิสัยใจคอและความมุ่งมั่นในงานดียิ่ง ถ้าเป็นครูจะช่วยพัฒนาคนได้มาก อีกทั้งดาวที่แทนการงานก็แสดงความหมายในเชิงวิชาการอีกด้วย ตอนที่มาดูดวงครั้งแรกเธอยังทำงานประจำอื่นอยู่ ในเวลาต่อมาจึงไปสอบเรียนต่อในสาขาวิชาที่เกี่ยวกับการสอนได้สำเร็จ ในการดูดวงครั้งล่าสุด เธอเล่าว่าคราวก่อนดิฉันทักไว้ว่าอีก ๔๕ วันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ผลก็คือออกจากงานเดิมและเริ่มต้นเรียนปริญญาโท ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปหมดเลย ซึ่งดิฉันก็เห็นว่าดี เพราะจะมีเวลาเรียนหนังสืออย่างจริงจัง และเริ่มต้นทำงานที่เหมาะกับตัวเองสักที ตอนนี้ก็มีคนมาเสนองานสอนให้ ถึงไม่ใช่งานประจำ แต่รายได้ต่อชั่วโมงก็ไม่เลว ถือเป็นการฝึกฝนตัวเองไปด้วย อยากให้เธอลองเริ่มต้นงานใหม่ดู เพราะยังยืนยันเหมือนเดิมว่าเหมาะที่จะเป็นครู

นอกเหนือจากการเลือกงานที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว การทำงานให้ได้ดีมีความสุขและความก้าวหน้า ก็ต้องยึดหลัก
"อิทธิบาท ๔" อันเป็นธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จในการงาน มี ๔ ประการ ได้แก่ "ฉันทะ" คือมีความรักในงานที่ทำ "วิริยะ" คือความเพียร ขยันขันแข็ง ไม่ท้อถอย
"จิตตะ" คือมีความตั้งใจในการทำงาน "วิมังสา" คือมีความไตร่ตรองหมั่นหาวิธีการปรับปรุงพัฒนาให้งานนั้นเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป ถ้าทำงานที่รักก็ถือว่าก้าวสู่บันไดแห่งความสำเร็จไปแล้ว ๑ ขั้นค่ะ *(^_^)*

ลองแบ่งงานออกเป็น ๒ แบบ คือ "งานชูชีพ" กับ "งานชูใจ" (ขอยืมคำของคุณพี่ aston27 มาใช้ค่ะ) ถ้าหากในขณะนี้ยังไม่สามารถทำงานที่รักได้ เพราะว่ายังมีหน้าที่รับผิดชอบ ก็ยังจำเป็นต้องทำ "งานชูชีพ" เพื่อหาเงินเลี้ยงชีวิต ก็ต้องเลือกงานที่รายได้ดีพอสมควร ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตามแต่ต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อให้คุ้มกับค่าแรงที่ได้รับ และเป็นหลักประกันอย่างหนึ่งว่าจะไม่ตกงาน แต่ถ้าวันหนึ่งมีเงินมากพอที่จะไม่เดือดร้อนก็สามารถเลือกทำ "งานชูใจ" ที่ทำให้จิตใจเรามีความสุขโดยไม่ต้องพิจารณาเรื่องรายรับเลยก็ได้ค่ะ

ใครที่ยังหางานชูใจของตัวเองไม่พบ ก็ขอให้ลองหางานอดิเรกที่สร้างสรรค์ นั่นคืองานที่ชูใจให้เป็นสุขค่ะ จะได้เป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่มีคุณค่า และไม่แน่นักค่ะ งานอดิเรกอาจจะกลายเป็นรายได้หลักไปเลยก็ได้ เช่น คนที่ชอบถ่ายภาพ ถ่ายภาพให้คนอื่นๆ โดยไม่คิดเงิน เพราะฝีมือดีคนก็เรียกใช้บริการมากเข้าๆ สุดท้ายก็ลาออกจากงานประจำมาเป็นช่างภาพก็มี บางท่านเป็นอาจารย์แต่เขียนหนังสือเป็นงานเสริม ทำด้วยความรักจนกระทั่งรายได้เลี้ยงตัวได้ ลาออกมาเขียนหนังสืออย่างเดียวก็มีเหมือนกัน บางท่านทำขนมอร่อยมาก ก็รับสั่งทำขนมเป็นรายได้เสริม ทำไปทำมาลูกค้าติดใจ เปิดร้านไปแล้วก็มีค่ะ Smile

ว่าไปแล้วงานทางโลกของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลยนะคะ ต่อให้ไม่มีงานที่ใช้เลี้ยงชีพแล้ว แต่ก็ยังมีงานบ้าน งานดูแลสมาชิกครอบครัว งานอื่นๆ รออยู่ไม่จบไม่สิ้น แต่ว่างานทางธรรมคือการเจริญสติ ตามรู้กายใจไปตามความจริง ถึงจุดหนึ่งก็มีที่สิ้นสุดค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วหน้าที่การงานในทางโลกก็เป็นเพียงของชั่วคราวเท่านั้น หมดจากชาตินี้ไปก็ต้องไปเริ่มต้นกันใหม่อีก แต่ "งานที่แท้จริง" ก็คือการพาตัวเองออกจากสังสารวัฏนี่เอง ที่จะทำให้เราหมดภาระทั้งปวงค่ะ

ขอให้ท่านที่ทำงานทางโลก ได้ทำงานทางธรรมไปพร้อมกันและมีความสุขใจในงานทั้งสองประการยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ ^^


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับท่านที่สนใจดูดวงกับคุณ Aims Astro สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ
http://sites.google.com/site/aimsastro/



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP