วรรณกรรมนำใจ Lite Literature

เพลิงนาคา ๓


ชลนิล

(ต่อจากฉบับที่แล้ว)


 

ทันใดนั้นแสงสว่างฉายวูบขึ้นที่ประตูห้อง ตามด้วยไฟเพดานสว่างขับไล่หมอกขาว ปิศาจร้ายในพริบตา

รอย...เป็นยังไงบ้าง ริวถามอย่างเป็นห่วง

ถึงตอนนี้หญิงสาวยังขยับตัวไม่ได้ นัยน์ตากลอกไปมาเหมือนคนเป็นอัมพาต ชายหนุ่มมองอย่างเข้าใจ นั่งลงบนเตียงจับไหล่หล่อนเขย่าเบาๆ

รอย...ตื่นได้แล้ว สิ้นเสียงเขาราวกับพันธนาการร้อยรัดขาดผึงในพริบตา

รอยจันทร์ลุกพรวด หอบหายใจถี่แรง แววตาตื่นกลัว มือจับไหล่น้องชายคล้ายใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยว

ริว...ไอ้บ้า..แกล้งฉันเหรอ... พอพูดได้ก็ใส่ข้อกล่าวหาทันที

ถูกต้อง...ริวเป็นคนขอเปลี่ยนห้องนอนกับหล่อน

ขอโทษ นานครั้งหรอกที่เขาจะยอมหลุดคำนี้

เป็นยังไงบ้าง

กลัวแทบตายสิวะ ยิ่งพูดยิ่งโมโห ฉันไปทำอะไรให้แก ถึงจงใจแกล้งให้มานอนห้องผีสิงแบบนี้

เปล่า ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อน ตีหน้าเจื่อน แต่ห้องนั้นน่ะ ผีมันโหดกว่าห้องนี้อีก

รอยจันทร์อึ้ง ตาค้างมองรอบๆ อย่างไม่เชื่อสายตา

อะไรวะ นี่เรามาพักโรงแรมผีสิงกันหรือไง

ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่ซวยน่ะ ริวสรุปสั้นๆ

แล้วจะทำยังไง ต้องไปหาที่นอนใหม่อย่างงั้นเหรอ ถึงกลัวผีแต่ร่างกายก็เพลียเต็มที่

นอนห้องนี้ก็ได้ เขาพูดง่ายๆ

ไอ้บ้า นอนเข้าไปได้ยังไง เดี๋ยวมันก็โผล่ออกมาอีก

ผมนอนเป็นเพื่อนเอ้า พูดอย่างนี้ค่อยพอฟังได้ แต่ดันมีปัญหา

เฮ้ย พอตอนเช้าออกไปเจอคน เดี๋ยวฉันก็ได้เป็นข่าวหรอก รอยจันทร์กลัวเสียภาพพจน์

นอนโรงแรมห้องเดียวกับน้องชาย มันไม่เสียหายอะไรหรอก ริวชักรำคาญ

อีตอนนักข่าวเอาไปลง มันไม่บอกหรอกว่าเป็นน้องชาย หญิงสาวค้าน

ที่นี่มันอุดรนะเจ๊ นักข่าวที่ไหนมันจะมาเห็น เขาแก้

คนเรามันซวยกันได้นี่

เอ้า...ก็ได้ เลือกเอานะว่าอยากเป็นข่าว หรืออยากถูกผีหลอก ริวใช้ไม้ตาย

เจอไม้นี้รอยจันทร์พูดไม่ออก ให้ริวมานอนด้วยก็ทำให้อุ่นใจไม่น้อย ปลอดภัยไม่มีสิ่งแปลกปลอมรบกวน

โอเค หล่อนรับคำเสียงอ่อยๆ

ริวกลั้นหัวเราะ นัยน์ตาพราวขบขัน มองพี่สาวเหมือนอยากพูดแหย่หาเรื่อง แต่นึกสงสาร เป็นความผิดเขาเหมือนกันที่ไม่รอบคอบตรวจสอบห้องนี้ให้ถี่ถ้วน เกือบทำรอยจันทร์ช็อกตาย ยังดีที่ขอกุญแจสำรองทัน เปิดห้องก่อนปิศาจตนนั้นจะสร้างความหวาดกลัวมากกว่านี้

รอยจันทร์โยนหมอนมาให้พร้อมผ้าห่มอีกผืน ไฟในห้องดับอีกครั้ง จากนี้ถึงรุ่งเช้ามั่นใจจะไม่มีวิญญาณดวงใดกล้าแสดงฤทธิ์เด็ดขาด


เช้าแล้ว...แสงตะวันส่องผ่านผ้าม่านขับไล่ความมืดมัวให้จืดจาง ทุกสิ่งอยู่ในสภาพปกติอย่างที่มันควรเป็น ไม่มีหลืบเร้นมุมใดซุกซ่อนภูตผีปิศาจร้าย

ริวขดตัวใต้ผ้าห่มนวมอย่างเป็นสุข ใบหน้าขาวใสไม่ผิดหนุ่มน้อย ขนตายาวงอนสวยราวกับผู้หญิง รอยจันทร์ตื่นก่อนแต่ยังไม่อยากลุก เหลียวมองน้องชายข้างเตียงแล้วอดยิ้มไม่ได้ ริวเป็นผู้ชายหล่อจัดหาตัวจับยาก แต่เขาชอบทำตัวง่ายๆ แต่งกายตามสบาย ไม่เคยสนใจรูปร่างหน้าตาตนเองผิดกับพี่สาวที่แม้จะสวยระดับดาราแถวหน้า แต่ยังขยันบำรุง ดูแลเสริมสวยสารพัดจนน้องชายบ่นเอาบ่อยๆ

ริวกับรอยจันทร์เป็นพี่น้องคลานตามกันมาก็จริง แต่มีความแตกต่างกันหลายอย่าง นอกจากเรื่องรูปลักษณะนิสัยภายนอก พูดถึงเฉพาะสิ่งที่เร้นลึกอยู่ภายใน

...ริวมีสัมผัสพิเศษ ขณะที่รอยจันทร์ไม่มี...

สัมผัสนั้นหมายถึงการที่สามารถเห็นสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่นัยน์ตามนุษย์ไม่เห็น รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าบางเรื่อง มีสังหรณ์พิเศษ ยิ่งกว่านั้นรอยจันทร์ยังรู้ว่าเขามีพลังอำนาจแฝงเร้นในตัว ทำให้ภูตผีปิศาจทั่วไปเกรงกลัว แต่เมื่อซักถามคาดคั้นเจ้าตัวจะเฉย ไม่ก็ปฏิเสธบอกว่าไม่รู้จักคาถาอาคม อย่างเก่งแค่สวดมนต์ ทำวัตรไหว้พระตามที่พ่อแม่เคยสอนมาตั้งแต่เด็กเท่านั้น

รอยจันทร์อยากทำใจเชื่อ แต่พฤติกรรมหลายอย่างมันชวนให้สงสัย เช่นเมื่อคืน ก่อนทุกคนจะเห็นพญานาค เขาก็แกล้งหลับ ไม่ร่วมรับรู้เป็นพยานยืนยันให้ใคร ยิ่งทำให้ดูเหมือนเขารู้อะไรมากกว่าที่ทุกคนเห็น แต่คร้านจะพูด

ถึงอย่างไรรอยจันทร์ก็อุ่นใจ หากมีเรื่องอันตราย ริวจะออกปากทัก จนบางครั้งเอาตัวเองเข้าขวาง อย่างเรื่องผีหลอกเมื่อคืน หล่อนยังนึกไม่ออก ถ้าริวมาช้ากว่านี้อะไรจะเกิดขึ้น

คิดถึงตรงนี้ประตูห้องก็ถูกเคาะอย่างเกรงใจ

ริว...ตื่นหรือยัง เสียงพี่แพท ผู้กำกับรายการ

ชายหนุ่มขยับตัว ลืมตา...งัวเงีย เห็นพี่สาวนอนลืมตาบนเตียงก็ออกปากสั่ง

เจ๊...ไปเปิดประตูหน่อยสิ พูดจบทำท่าจะหลับอีกรอบ

ไอ้บ้า นี่มันห้องแกนะโว้ย ให้ฉันเปิดได้ยังไง รอยจันทร์โวย

ขี้เกียจลุก จะนอนต่อ พูดเหมือนยังนอนไม่เต็มอิ่ม

ริว...ริว...ตื่นได้แล้ว พี่แพทไม่ละความพยายามปลุกเจ้าของห้องแสดงว่ามีเรื่องสำคัญ

ไอ้ริว ลุกหน่อยน่า พี่แพทคงมีเรื่องสำคัญ รอยจันทร์ตาสว่าง ลงจากเตียงมาเขย่าตัวน้องชาย

ไปเองสิ ชายหนุ่มพูดทั้งที่หลับตา แถมดึงผ้าห่มคลุมหัว

รอยจันทร์จำใจลุกขึ้น อยากเตะก้นจอมขี้เซาสักป้าบ ไม่รู้เป็นผู้จัดการส่วนตัวภาษาอะไรปล่อยให้ดาราเสี่ยงต่อการตกเป็นข่าวได้

พี่แพทกำลังจะเคาะประตูซ้ำ พอดีได้ยินเสียงกริ๊กปลดล็อก ประตูเปิดแง้มออกนิดๆ

ริว...พี่มีเรื่องด่วนจะบอก เรารีบไปดูรอยกันก่อน... คำพูดไม่ทันจบก็เห็นใบหน้าหญิงสาวโผล่ออกมากวักมือเรียก

รอยจันทร์เปิดประตูรับผู้กำกับรายการแล้วรีบปิด จากนั้นมองหน้าเป็นเชิงถามว่ามีเรื่องอะไร ก่อนถูกซักไซ้ถึงเหตุการณ์ที่มานอนห้องนี้

รอยนอนห้องนี้เหรอ...เฮ้อ...โล่งอก คำพูดผิดคาดเล่นเอาคนฟังงุนงง

พี่แพทมองในห้อง เห็นสภาพเตียงนอนและพื้นข้างเตียงก็สรุปได้

ที่มานอนห้องริวนี่ แสดงว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องแล้วใช่มั้ย

รอยจันทร์ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจ

พูดอีกทีได้มั้ยพี่แพท ฟังไม่เข้าใจเลย จะถามอะไรเหรอ หล่อนย้อนถาม

ห้องของรอยน่ะ มีคนฆ่ากันตายที่นั่น ผีดุมาก เจอกันหลายรายแล้ว พี่เพิ่งรู้เมื่อเช้าเอง

พูดอย่างนี้ค่อยรู้เรื่อง พี่แพทเพิ่งได้ยินเรื่องห้องผีสิง จึงเป็นห่วงรีบมาปลุกริวแต่เช้าให้ดูรอยจันทร์ กลัวเป็นอะไรไป แต่พอหญิงสาวนอนห้องเดียวกับน้องชายก็เดาได้ว่าคงเจอผีแล้วถึงหนีมานอนรวมที่นี่

วันนี้เราไปทำบุญกันหน่อยก็ดีนะ มาเที่ยวนี้เจอแต่เรื่องชวนเสียวสันหลังทั้งนั้น พี่แพทเสนอ

ตามใจเถอะค่ะ รอยยังไงก็ได้ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ไอ้หมอนี่มันจะตื่นสักทีนะ พูดไปก็อดแขวะน้องชายไม่ได้

ให้ริวนอนต่อก็ได้ เรายังไม่รีบ สักสิบโมงค่อยเจอกันที่ล็อบบี้แล้วกัน

รอยจันทร์พยักหน้า ทำบุญบ้างก็ดี จิตใจจะได้สบายขึ้น ภาพอันน่าหวาดผวายังติดตา การทำบุญแผ่เมตตาคงช่วยให้ พวกนั้น เป็นสุขขึ้นบ้าง


-----000-----


เธียรออกจากห้อง เตรียมตัวไปทำงาน บ้าน หลังใหญ่เงียบจนน่ากลัว ประตูห้องหับหลายบานปิดสนิท บันไดเวียนโล่ง วังเวง ที่ผนังหัวบันไดติดรูปเขียนสีน้ำมันขนาดใหญ่ของปู่ทวดต้นตระกูล กำลังมองเขาอย่างประเมินค่า

ชายหนุ่มเดินลงมาอย่างเชื่องช้า บรรยากาศเช่นนี้ชวนให้หนาวเยือกจับใจ พื้นชั้นล่างปูหินแกรนิตมันวับ ขณะเดินจะมีเสียงก้องฟังคล้ายอยู่ในท้องพระโรง ห้องรับแขกกว้างขนาดล็อบบี้โรงแรมห้าดาว ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์หลุยส์ ผ้าม่านสั่งจากอิตาลี ห้องอาหารมีโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ นั่งได้ยี่สิบสามสิบคน มีคนรับใช้ยืนสำรวมรอรับคำสั่ง

เธียรเลือกนั่งเก้าอี้ตัวท้ายสุด พลางมองเก้าอี้หัวโต๊ะราวกับอยู่กันคนละโลก

เช้านี้จะรับอะไรคะ ผู้รับใช้ถามสุภาพอ่อนน้อม

พ่อลงมาหรือยัง เขาเงยหน้าถาม

ลงมาแล้วค่ะ คำตอบสั้นกินความหมายถึงเจ้าของบ้านรับประทานอาหารเช้าเสร็จและออกไปทำงานแล้ว

ขอกาแฟแก้วเดียวก็พอ

บนโต๊ะอาหารสุดหรูมีกาแฟเพียงแค่ถ้วยเดียว เธียรไม่นึกอยากกินอะไร เพิ่งเจ็ดโมงยังนับว่าเช้า ชายหนุ่มไม่สนใจรสชาติ กลิ่นหอมของกาแฟ เขาเพียงต้องการให้มีอะไรทำก่อนออกไปทำงานเท่านั้นเอง

กาแฟหมดถ้วยลุกจากโต๊ะอาหาร ที่หน้าบ้านรถของเธียรจะถูกนำมาจอดเทียบเรียบร้อย แต่วันนี้แทนที่จะได้พบปอร์เช่สีแดงสดคู่ใจ กลับกลายเป็นเบนซ์ 500 อี สีดำมันปลาบ

รถฉันไปไหน เขาถามสีมา คนขับรถประจำบ้าน

เอ่อ... สีมาหลบตา ตอบติดๆ ขัดๆ

ต้องการให้ถามซ้ำมั้ย เธียรใช้คำพูดเรียบๆ เขาไม่เคยเกรี้ยวกราดกับคนในบ้าน แต่ประโยคนี้บอกอารมณ์ชัดเจน

มัน...มีปัญหาครับ... คำตอบยังไม่ให้ความกระจ่าง

ปัญหาอะไร เมื่อวานยังขับดีๆ อยู่ ชายหนุ่มจ้องเขม็ง ฝ่ายตรงข้ามใจฝ่อ

เอ่อ...คุณเธียรไปดูเองดีกว่าครับ สีมาใช้ความกล้าเต็มที่ถึงหลุดประโยคนี้ออกมาได้

เธียรก้าวยาวๆ ไปยังโรงรถ เห็นปอร์เช่สีแดงจอดนิ่งอย่างที่เคยเป็น ไม่น่ามีปัญหาจนกระทั่งถึงหน้ารถต้องตะลึงงัน เบิกตาค้าง ไม่อยากเชื่อภาพที่เห็น


 

ที่ฝากระโปรงมีรอยเหมือนตะขาบยักษ์ขึ้นไปฝากรอยเท้าไว้เต็มไปหมด มันฝังลึกถึงเนื้อสี ร่องรอยลวดลายชวนขนลุกซู่

เป็นอย่างนี้ได้ยังไง ชายหนุ่มถามพลางสะกดอารมณ์ฉุนเฉียว

ไม่ทราบครับ เมื่อเช้าตอนผมจะเตรียมรถให้คุณเธียรก็เห็นรอยแล้ว

อย่างอื่นเป็นอะไรมั้ย

ไม่ครับ เครื่องยนต์ระบบไฟฟ้าทำงานปกติ

ทุกอย่างปกติ แต่เขาคงไม่คิดขับมันทั้งสภาพอย่างนี้แน่ ชายหนุ่มใช้ปลายนิ้วสัมผัสรอยบนฝากระโปรง สีมาทำท่าจะห้ามแต่ต้องชะงัก นึกได้ว่าไม่มีประโยชน์ เธียรแสดงอารมณ์ไม่พอใจตั้งแต่แรก หากมีใครเอ่ยปากทักคงมีหวังโดนระเบิดลูกใหญ่

สัมผัสปลายนิ้วบอกให้รู้ รอยที่เกิดไม่ใช่แค่เนื้อสี เหล็กด้านล่างก็โดนกินรอยด้วยเช่นกัน เปิดฝากระโปรงรถส่องดูจากด้านใน โชคดีที่มันไม่ทะลุเหล็กเข้ามา รถรุ่นนี้เหล็กไม่บางเฉียบขนาดโดนส้อมทิ่มทะลุก็จริง ทำไมมันถึงหลอมละลายพร้อมกับเนื้อสีนั้น

อะไรสามารถทำให้มันเป็นเช่นนี้

ไปสตาร์ทรถ เธียรสั่ง

ครับ... สีมางง ไม่แน่ใจว่าคันไหน

ไปสตาร์ทรถคันนั้นสิเธียรหันมาย้ำเมื่อเห็นคนขับยืนเฉย ฉันจะไปทำงานแล้ว

ครับ ได้ยินอย่างนี้ต้องรีบทำตามคำสั่งทันที

เธียรกลับไปที่หน้าบ้าน พยายามไม่คิดถึงเรื่องพิสดารที่พบ เขากำลังเผชิญกับอะไรกันแน่ ตั้งแต่ความฝันประหลาด จนถึงรอยพิสดารบนฝากระโปรงรถ

ขับไปส่งด้วย เธียรสั่งก่อนขึ้นไปนั่งด้านหลัง

ครับ สีมารู้ดี นอกจากปอร์เช่คันนั้น คุณเธียรจะไม่ยอมขับรถคันอื่นในบ้าน

รถแล่นช้าๆ จากบันไดหน้าบ้านสู่ประตูใหญ่ ระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ บอกถึงอาณาเขตอันกว้างขวางของคฤหาสน์หลังนี้

เดี๋ยวให้ใครถ่ายรูปรอยนั้นไว้ด้วยนะ แล้วให้บริษัทมาเปลี่ยนฝากระโปรงด้วย ส่วนของเก่า เก็บไว้ที่ห้องฉัน

เธียรสั่งจบรถก็เบรกกระตุกพรืดเหมือนเจอสิ่งไม่คาดฝัน

งูครับคุณเธียร สีมารีบบอกด้วยความตกใจก่อนโดนตำหนิ

งูสีน้ำตาลเข้มตัวขนาดแขนกำลังเลื้อยตัดหน้าอย่างเชื่องช้า ไม่สนใจแยแสราวกับมันเป็นเจ้าของบ้านก็ปาน

เธียรเห็นงูตัวนั้นหลังจากมันเลื้อยผ่านหน้ารถ อาการหวั่นวูบพลุ่งขึ้นในใจ เขาดูมันเลื้อยลับสนามหญ้า หายไปในกอดอกไม้ที่กำลังผลิบาน น่าแปลกที่ทั้งเขาและสีมากลับนิ่งงัน ไม่มีใครคิดจะจับงูตัวนั้นสักคน


 

 

บทที่ ๓


คณะผู้ตั้งใจทำบุญอุทิศแก่ผีโรงแรมและพญานาคมาถึงวัดในเวลาบ่าย ทั้งที่จริงควรมาตั้งแต่ก่อนเที่ยงด้วยซ้ำ แต่เพราะมัวรอให้ครบองค์ประชุมลงมติ จนเวลาล่วงเกือบเที่ยง ได้ข้อยุติก็รับประทานอาหารกลางวัน หลังจากนั้นจึงมาที่วัดป่าซึ่งลุงคนขับเป็นผู้แนะนำ

วัดป่าแห่งนี้ร่มครึ้มด้วยต้นไม้ใหญ่ กำแพงวัดทอดยาวเป็นแนวเห็นแต่ไกล รถตู้แล่นเข้ามาจอดใกล้กับศาลาใหญ่ สิ่งปลูกสร้างเดียวที่โดดเด่นสุด

ตัวศาลาเป็นไม้ใต้ถุนยกสูง ด้านล่างเทปูนขัดมันปล่อยโล่ง ส่วนด้านบนมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งเป็นประธานด้านใน ตั้งแท่นธูปเทียนบูชาบรรยากาศสงบร่มเย็น เงียบ ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน ลุงคนขับรถอาสาตามพระมารับเครื่องสังฆทาน

ชาวคณะที่เหลือประกอบด้วยริว รอยจันทร์ พี่แพทและโหน่งต่างรอกันอยู่บนศาลาพร้อมข้าวของเครื่องสังฆทานทำบุญ

เงียบดีจังนะวัดนี้ พี่แพทเอ่ยขึ้น

ค่ะ มานั่งอยู่ที่นี้แล้วคิดถึงวัดที่พ่อแม่เคยพาไปจำศีลสมัยเด็กๆ รอยจันทร์พูดบ้าง

คุณรอยนี่นะครับเคยไปจำศีลที่วัด โหน่งพูดอย่างไม่เชื่อ

อ้าว...พูดอย่างนี้ดูถูกกันนี่ เห็นหน้าอย่างนี้ก็เข้าวัดเข้าวาเหมือนกันนะ รอยจันทร์ชักฉุน

ใช่...แต่ไปถือศีลภาษาอะไรไม่รู้ พอตกเย็นบ่นหิวข้าวตะแง้วๆ ริวขัด

แกก็เหมือนกันนั่นแหละไอ้ริว เข้าวัดเข้าวาแทนที่จะเรียบร้อย กลับซนเป็นลิง ชอบหายไปโน้นไปนี่บ่อยๆ จนพ่อต้องลากตัวไปสวดมนต์

แต่ผมก็ยังจำบทสวดมนต์ได้เก่งกว่าเจ๊แหละ หลวงปู่ยังชมเลย

สองพี่น้องชักเถียงกันเสียงดังขึ้น

ฟังเข้าท่าดีนะรอย ทำไมพี่ไม่ยักรู้เรื่องพวกนี้เลยพี่แพทถาม

ก็ไม่มีใครถามนี่คะ พวกที่มาสัมภาษณ์ก็ถามแต่เรื่องเดิม เข้าวงการยังไง เป็นแฟนกับคนนั้นจริงมั้ย เป็นมือที่สามทำให้คู่โน้นเขาเลิกกันจริงหรือเปล่า ไม่ยักมีใครเคยถาม...คุณรอยจันทร์ถือศีลห้าหรือศีลแปด

สองหนุ่มหัวเราะ ริวยิ้มนิดๆ ประสบการณ์ตอนอยู่วัดริมแม่น้ำโขงยังประทับความทรงจำจนถึงทุกวันนี้ มันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการ เห็น อีกโลกหนึ่งของเขา โลกที่สายตามนุษย์ทั่วๆ ไปไม่อาจแลเห็นได้ง่ายๆ

กระแสความเย็นใจแผ่ซ่านมาในอณูของอากาศ ริวชะงักความคิด กำซาบสัมผัสนั้นดิ่งลึกถึงหัวอก ปีติแผ่จับหัวใจ สายตามองเห็นจีวรเหลืองๆ มาพร้อมกับพระภิกษุรูปหนึ่ง

ลุงคนขับรถนิมนต์หลวงพ่อเจ้าอาวาสมารับเครื่องไทยทานทั้งหลาย พระภิกษุที่ทุกคนเห็นอยู่ในวัยต้นชรา ร่างกายแข็งแรง ใบหน้าเปี่ยมราศี กิริยาสำรวมงดงาม

ริวเป็นคนเดียวที่สัมผัสคลื่นความเย็นฉ่ำอบอุ่นมาจากหลวงพ่อเจ้าอาวาสนี้ เขามองท่านไม่วางตา ปล่อยพี่แพทกับรอยจันทร์เป็นผู้ถวายข้าวของ กระแสใจเชื่อมโยง นัยน์ตาท่านเหลือบมองเขานิดๆ รอยยิ้มเมตตาผุดพราย

หลังจากรับของถวาย หลวงพ่อก็สวดให้พร น้ำเสียงเบานุ่ม หลั่งไหลคล้ายกระแสน้ำฉ่ำเย็น ริวหลับตาระลึกถึงภาพใบหน้าวิญญาณทั้งสี่ในโรงแรม กำหนดใจน้อมนำกระแสบุญกุศลถ่ายทอดให้เต็มที่ไม่มีเก็บกัก

เมื่อลืมตาก็พบกับสายตาหลวงพ่อเจ้าอาวาสมองอย่างปราณี พูดจาทักทายทุกคนตามสมควร จากนั้นคณะทำบุญก็กราบลา ถอยกลับ

ริวรู้สึกเหมือนหัวใจยังค้างคา อยากพูดจากับท่านอีก ทั้งที่ไม่รู้จะพูดเรื่องอะไร ขบปัญหาคาใจไม่ออก ลึกลงไปใจเหมือนจะบอก...มีโอกาสพบท่านนับเป็นบุญนักหนา จะกลับไปเพียงแค่ทำบุญเสร็จสิ้นมันก็น่าเสียดาย

หลวงพ่อเจ้าอาวาสไม่ทักท้วง เพียงมองส่งด้วยสายตาดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง


 

ลงมาถึงตีนบันได ริวมองเห็นหญิงสาวครองผ้าขาวนั่งพับเพียบอยู่ใต้ถุน ใบหน้าหล่อนงดงามราวกับรูปปั้น ดวงตาโตลึกฉายแววสงบนิ่ง ผมดำยาวรวบไว้ด้านหลังอย่างง่ายๆ หล่อนกำลังมองตรงมายังเขา กระแสสายตาฉุดรั้งให้ก้าวขาไม่ออก

เอ๊ะ...คุณพันเกลียวนี่ พี่แพทอุทานเบาๆ

ใครคะ รอยจันทร์ถาม

ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน รอยจันทร์ยังยอมรับ สตรีตรงหน้าสวยอย่างหาตัวจับยาก แม้ไม่ใช่สาวรุ่นๆ อายุมากกว่าหล่อนหลายปี

คุณพันเกลียว เมื่อก่อนเธอดังมากในแวดวงไฮโซ เป็นหมอดูนักพยากรณ์ที่ทายแม่นราวกับตาเห็น คุณหญิง คุณนายติดกันเกรียว ข่าวบางกระแสว่าเธอเก่งขนาดเป็นหมอผี นักไสยศาสตร์ด้วยนะ แต่เธอหายตัวจากวงสังคมไปหลายปี ไม่คิดเลยว่าจะมาอยู่ที่นี่

น้ำเสียงกระซิบกระซาบเข้าหูริวทุกคำ เขามั่นใจด้วยซ้ำว่าหญิงสาวที่นั่งพับเพียบอยู่นั่นก็ได้ยินเช่นกัน

เข้าไปทักเธอดีมั้ย รอยจันทร์พูดตรงกับใจน้องชาย

ก็ดี...พี่ไม่ได้เจอเธอมานานแล้ว เดี๋ยวยังไงเผื่อจะชวนเธอออกรายการของเรา


(โปรดติดตามต่อฉบับหน้า)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP