โหรา (ไม่) คาใจ Astro FAQ

ลูกน้อง (ไม่) เอาถ่าน เพื่อนร่วมงาน (ไม่) น่ารัก


Aims Astro


ถาม - ดิฉันทำงานร่วมกับลูกน้องและเพื่อนร่วมงานที่ทำให้ต้องหงุดหงิดตลอดเวลา แต่จะลาออกก็ยอมรับว่าเสียดายโอกาสและรายได้ที่ดี อยากได้วิธีการจัดการให้ไม่ต้องทุกข์กับคนแบบนี้อีกค่ะ

การทำงานร่วมกับคนอื่นนั้นยากที่จะเจอคนที่คิดเห็นสอดคล้องกับเราทุกอย่างนะคะ หลายคนที่เจอพฤติกรรมไม่ดีของเพื่อนร่วมงาน แล้วพานเก็บเป็นความขุ่นมัวของใจตัวเอง ก็อยากขอว่าใครทำไม่ดีก็เป็นความไม่ดีของเขา ต่อให้เลวร้ายแค่ไหนอย่างไร บาปกรรมนั้นก็เป็นของเจ้าตัวเขาเอง ทำเองรับเอง ส่วนเราถ้าไปคิดว่าเขาเลว เขาแย่มาก ฯลฯ ก็จะได้อกุศลทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นเลย พยายามหลีกเลี่ยงนะคะ

อีกเรื่องหนึ่งที่ลูกค้าเล่าให้ฟังเรื่อยๆ คือการทำดีกับลูกน้อง/เจ้านาย/เพื่อนร่วมงาน แล้วเขาไม่คิดถึงความดีที่เราอุตส่าห์ทำ ตรงนี้อยากขอให้มองแยกเป็น ๒ ส่วนนะคะ คือตอนที่เราทำดีกับเขา จิตเป็นกุศล เราได้บุญ ส่วนคนที่ไม่คิดตอบแทน จะด้วยเหตุผลใดก็ตามที มันคือเรื่องความไม่ดีของเขาซึ่งไม่เกี่ยวกับเราเลย อย่าไปมีอกุศลจิตโดยไม่จำเป็นเลย หากสุขใจเพราะการให้ นั่นเพียงพอแล้วค่ะ โลกนี้มีสิ่งที่ทำให้เกิดอกุศลได้ง่ายจริงเชียว ต้องรักษาใจของตนเองไว้ให้ดีนะคะ ^^

ทีนี้มาพูดถึงการกระทบกระทั่งตามประสาลิ้นกับฟันที่อยู่ร่วมปาก (ออฟฟิศ) เดียวกันบ้าง เท่าที่เก็บข้อมูลมา พบว่าบางคนคิดถึงแต่สิ่งเลวร้ายที่คนอื่นกระทำต่อตน (ซึ่งเข้าใจได้ค่ะว่ามันก็น่าโกรธจริงๆ) แต่ลืมไปว่าในขณะที่เขาทำไม่ดีต่อเราด้วยกายและวาจา เราก็คิดไม่ดีตอบไปเช่นกัน ดังตัวอย่างบทสนทนาต่อไปนี้...


หมอดู : คุณบอกว่าเขาทำไม่ดีกับคุณ แล้วคุณมีอกุศลจิตกับเขาไหมคะ
คุณลูกค้า
: ก็เค้าน่ะ...
หมอดู
: เข้าใจค่ะว่าเขาทำไม่ดีกับคุณ แล้วทางคุณมีอกุศลจิตกับเขาไหมคะ
คุณลูกค้า
: ก็เค้าน่ะ...
หมอดู
: แล้วคุณมีอกุศลจิตกับเขาไหมคะ (^_^’’)
คุณลูกค้า
: ก็เค้าน่ะ...
หมอดู
: ถามซื่อๆ ค่ะ ว่าคุณมีอกุศลจิตกับเขาไหมคะ (^_^!)
คุณลูกค้า
: มีค่ะ!
หมอดู
: (T__Tv (ในที่สุดก็ทำสำเร็จ)

ที่พยายามจะให้ลูกค้ายอมรับว่าก็มีอกุศลกับอีกฝ่ายเหมือนกัน เพื่อให้เธอเข้าใจสถานการณ์อย่างถ่องแท้ เพราะถ้าคิดว่าถูกกระทำอยู่ข้างเดียว ไม่เคยโต้ตอบเลยนั้นมันไม่จริง เพราะลืมนึกถึง กรรมทางใจ ไปค่ะ

ความจริงก็คือถ้าเรากระทำกรรม ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ใจ ด้วยกุศลกับผู้ใดก็ตาม ย่อมมีโอกาสที่จะทำเรื่องดีๆ กับเขาได้ง่ายขึ้น เช่น ถ้าเรารู้สึกเป็นบวกกับใคร เวลาที่คุยกันก็มักจะคิดดี มีความปรารถนาดีด้วย ทำให้เกิดกระแสเมตตาต่อกัน ในทางตรงข้ามถ้ารู้สึกไม่ดี มีใจจิตคิดอกุศลเสียแล้ว ต่อให้เขาทำดีแค่ไหน บางทีก็ยากที่เราจะพลิกใจให้กลับมาคิดบวกด้วย ลองนึกถึงเหตุการณ์เดียวกัน แต่ต่างบุคคลกันนะคะ เช่น เมื่อคนที่เรารักและเอ็นดู พูดจาดีกับเจ้านาย (น้องเขาพูดจาดีมีสัมมาคารวะ น่ารัก) เมื่อคนที่มีเรื่องกันอยู่ พูดจาดีกับเจ้านาย (เชอะ! ประจบประแจง เสียงอ่อนเสียงหวานเชียวนะ)

ทีนี้พอมีกรรมทางใจแล้ว ก็มักจะต้องมีกรรมทางกายและวาจาตามมา ได้แก่ การเล่าเรื่องความไม่ดีของคนที่ทำร้ายเราให้คนรอบข้างฟัง เกิดอกุศลทางใจแก่ตนเองอีกรอบหรือหลายๆ รอบ เล่า ๕ รอบ เกิด ๕ ครั้ง เล่า ๑๐ รอบ ก็เกิด ๑๐ ครั้ง เรียกว่าเขาก่ออกุศลครั้งเดียว ส่วนเราช่วยขยายผลของอกุศลให้กว้างไกลกว่าเดิม คนที่รับฟังเรื่องราวจากเรา ซึ่งเดิมอาจจะเฉยๆ กับคนที่ทำไม่ดีกับเรา พอได้ฟังเรื่องแล้วก็อาจจะเกลียดบุคคลนั้นไปเลยก็ได้

มีบ้างเหมือนกันนะคะ ที่บางคนอาจจะคิดว่า คนไม่ดีถูกเกลียดก็ดีแล้วนี่ สมควรแล้วแหละ แต่อันที่จริงแล้วมันคือการโหมไฟอกุศลคือโทสะ ให้ลุกโชนขึ้นค่ะ แล้วต่อไปถ้าชิงชังกันจนมองเป็นศัตรู เกิดมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในที่ทำงาน กลายเป็นสภาวะแวดล้อมในออฟฟิศเป็นพิษ ระอุด้วยความร้อนที่ผ่านทางความคิด การกระทำและคำพูดของแต่ละคน สุดท้ายใครกันที่ต้องโดนเผา ไม่ใช่เราหรอกหรือ!



เหตุเกิดจากไฟ เราเลือกได้ว่าจะเป็นไฟ หรือน้ำนะ
ถ้าเลือกเป็นไฟ ก็เผาใจตนเองและผู้อื่น
ถ้าเลือกเป็นน้ำ ก็นำความเย็นสบายมาสู่สองฝ่าย"

ดังตฤณ


ยุคนี้ผู้คนเคร่งเครียดกดดัน สภาพสังคมและเศรษฐกิจบีบคั้นมาก หลายคนต้องรับมือกับพฤติกรรมไม่ดีของคนรอบข้าง ซึ่งก็น่าเห็นใจจริงๆ นะคะ แต่ถ้าไม่อยากให้ที่ทำงานเป็นอบายภูมิเต็มไปด้วยไฟโทสะ ต้องเอาน้ำไปดับไฟ ถ้าเอาไฟไปดับไฟ มีแต่จะยิ่งไหม้หนักกว่าเดิมเข้าไปอีกค่ะ

ถ้าจะอธิบายถึงสาเหตุที่บางคนไม่สามารถอภัยให้คนที่ทำร้ายตัวเองได้ ก็เพราะคิดว่าคนที่ทำให้เราโกรธหรือเสียใจ เป็นคนไม่ดี เราถูกกระทำอย่างอยุติธรรม เขาใจร้ายมาก ฯลฯ ซึ่งที่จริงแล้วถ้ายอมรับเรื่องกฎแห่งกรรม นั่นก็คือเราจะไม่เจอคนแบบนี้แน่ๆ ถ้าไม่เคยทำเหตุไว้ก่อน ดังนั้นแทนที่จะคิดว่าเขาทำเรา ต้องคิดใหม่อย่างถูกต้องว่า กรรมเก่าเราส่งเขามาเล่นงานเรา เราถูกเขากระทำ คือการใช้หนี้ หากให้อภัยและอโหสิได้ เรื่องราวร้ายๆ จะจบลงที่ใจเรา ไม่ต่อเวรต่อกรรมกันต่อไปอีกค่ะ ^^v

การอภัยให้ไม่ตอบโต้ แม้อาจจะดูเหมือนเป็นผู้แพ้ แต่ที่จริงแล้วนั่นคือการชนะกรรม ต่อให้คนรอบข้างยังไม่เป็นปัจจัยแห่งความสุข แต่ใจอันร่มเย็นของเราเองนั่นแหละค่ะ จะเป็นที่พึ่งทั้งแก่ตนเอง และสามารถเผื่อแผ่แบ่งปันแก่คนรอบข้างได้ มาสร้างที่ทำงานของเราให้เป็นสวรรค์กันดีกว่านะคะ (^___^*)


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำหรับท่านที่สนใจดูดวงกับคุณ Aims Astro สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ http://sites.google.com/site/aimsastro/



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP