จากใจ บ.ก.ใกล้ตัว Lite Talk

ฉบับที่ ๒๒ ระลึกชาติ


dlite_27

กรณีเด็กระลึกชาตินั้นมีมานาน
และยังมีให้เห็น ให้ได้ยิน ให้สงสัย ให้สับสนอยู่เรื่อยๆ
แต่รายล่าสุดน่าจะเป็นที่สนใจของประชาชนจำนวนมาก
เนื่องจากเคยเป็นดาราดังระดับประเทศ
แล้วก็มาออกรายการที่มีคนเฝ้าตามชมหลักแสนหลักล้านด้วย

หลายคนคงทราบดีนะครับ
ใช่แล้ว ผมกำลังพูดถึงนางเอกตาเศร้า
คุณปู วิชชุดา สวนสุวรรณ
ที่ว่ากันว่ากลับชาติมาเกิดเป็นลูกของน้องชายตัวเอง
และมาให้เห็นกันทางรายการตีสิบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

เมื่อทราบข่าวนี้
ผมให้ความสนใจต่างจากกรณีเด็กระลึกชาติอื่นๆหน่อยหนึ่ง
เนื่องจากจำได้ถึงความรู้สึกสงสารเธอ
ที่ประสบอุบัติเหตุรถชนกันเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน
ตอนนั้นยังไม่เข้าใจนักว่าทำไมถึงสงสารมากมาย
ทั้งที่ไม่ได้รู้จักเป็นส่วนตัว ไม่ได้เป็นแฟนหนังแฟนละคร
อาจกล่าวได้ว่าไม่รู้ว่าหน้าอย่างนี้ชื่ออย่างนั้นด้วยซ้ำ
แต่ปัจจุบันมองย้อนไปก็เข้าใจ
เป็นธรรมดาครับ คนดี คนกตัญญูกับพ่อแม่ต้องตกตาย
ย่อมก่อคลื่นความสะเทือน
ให้คนเกิดความอาลัยสงสารในคราวเคราะห์ร้ายได้
ยิ่งเป็นดาราดัง ก็ยิ่งเป็นความสะเทือนในวงกว้าง

ชวนคุยเรื่องนี้ จริงๆไม่ได้จะมาตั้งประเด็นท่านเชื่อหรือไม่
ท่านว่าจริงหรือไม่จริง หรือให้ช่วยกันโหวตแบบประชาธิปไตย
ตัดสินกันว่าสรุปแล้วให้เชื่อไม่เชื่อ
แต่มีประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับกรรมวิบากในสังสารวัฏ
คือลุยเลย "ถ้าเชื่อว่าจริง" คุณปูกลับมาเกิดเป็นหลานสาว
เราจะได้ความรู้ความเข้าใจอะไรติดมือบ้าง
ดีกว่าเมาท์กันมันๆอย่างเดียว

เด็กหญิงในปัจจุบันอายุเกือบ ๔ ขวบ
รู้ความแล้วพอสมควร แต่ยังวิ่งเล่นสนุกสนานตามวัย
แต่พ่อแม่ของเด็กเกิดความเอะใจสงสัย
ตั้งแต่ฝ่ายแม่ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตั้งครรภ์
กล่าวคือ ฝ่ายพ่อฝันถึงพี่สาวซึ่งผูกพันกันมาก
เธอบอกว่าจะมาอยู่ด้วย
ประกอบกับมีญาติบอกมาจากต่างจังหวัดอีก
บอกเห็นปูมาลา จะไปเกิดใหม่

เวลาผ่านไปโดยที่คงจะไม่มีใครคิดอะไรมาก
มีการตั้งครรภ์ มีการเกิดใหม่ของเด็กหญิงชื่อ "น้ำฟ้า"
แล้วก็มีวันหนึ่ง เมื่อเธออายุเพียงขวบเศษ
ที่เห็นรูปคุณพ่อคุณแม่ แล้วบอกถูกว่านี่พ่อ นี่แม่
แต่ยิ่งไปกว่านั้นยังมีรูป ปู วิชชุดา ซึ่งเธอไม่เคยเห็นมาก่อน
ทว่าเห็นครั้งแรกก็ลากเสียงยาว บอกว่านี่คือ "ปู"
ซึ่ง หมายถึงเธอเองในอดีต

นอกจากนั้น เธอยังเรียกคุณปู่ว่า "พ่อเลี่ยม"
และเรียกย่าว่า "แม่ต้อย"
ซึ่งหมายถึงพ่อแม่ของเธอเองในอดีตชาติ
แล้วก็บอกรายละเอียดต่างๆ
เมื่อครั้งเป็นปู วิชชุดาได้ถูกมากมาย
เช่น พอพาไปจุดประสบอุบัติเหตุ
เด็กหญิงก็ร้องว่า ชน เจ็บ ชน เจ็บ
ซึ่งเหตุการณ์ราวๆนี้
ก็เป็นไปตามสไตล์พิสูจน์เด็กระลึกชาติทั่วโลก
ใครจะกังขาหรือเชื่อถือก็สุดแต่จะเอาอะไรตัดสิน

ถ้าเด็กหญิงน้ำฟ้าคืออดีตดาราดัง วิชชุดา สวนสุวรรณจริง
ก็แปลว่า "ดาราไม่จำเป็นต้องตกนรก"
เหมือนที่หลายคนเข้าใจตามพุทธพจน์กันแบบรวบรัด
กล่าวคือเรารู้กันว่าคุณวิชชุดาเป็นคนมีความกตัญญู
ทำงานบนเส้นทางบันเทิงด้วยใจอยากสร้างบ้านให้พ่อแม่
แล้วก็ไม่ได้มีบทบาทยั่วยวนราคะหรือยั่วยุโทสะจัดจ้านนัก
ขนาดประสบอุบัติเหตุ กระตุกจิตให้หดแคบ
มืดมนด้วยความตกใจกลัว ก็แค่วนเวียนอยู่ในสภาพหนึ่ง
รอฤกษ์เกิดใหม่เป็นมนุษย์อีกครั้งได้

อีกความรู้หนึ่งคือจากคำให้การของผู้เป็นพ่อแม่ในชาติใหม่
คุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว ๓ เดือน
ญาติๆจึงฝันถึงในทำนองวิชชุดาจะเกิดใหม่ และมาอยู่ด้วย
เคสนี้เราจึงบอกได้ว่าวิญญาณแม้ปฏิสนธิในท้องพ่อแม่แล้ว
ก็ยังอาจอยู่ในสภาพเดิมๆ ไปปรากฏตัวในฝันใครต่อใครได้
อันนี้หลวงปู่มั่นเคยเล่าให้ฟังถึงขั้นที่ว่า
โยมผู้หญิงคนหนึ่ง ยังมีชีวิตเป็นมนุษย์
แต่จิตไปปฏิสนธิในท้องหลานสาวได้ก็มี
ต่อเมื่อตัดใจไม่ห่วงคนในโลก ไม่ผูกอะไรกับโลกนี้อีก
หลานสาวจึงแท้ง อันนี้ก็เรื่องเล่านะครับ
ผมอาจจำรายละเอียดได้ไม่ชัด เพราะอ่านยี่สิบกว่าปีแล้ว

ตรงนี้จะเป็นประเด็นความเข้าใจ
หรือประเด็นถกเถียงกันเกี่ยว กับปฏิสนธิจิต
หรือ ปฐมวิญญาณกันได้ไม่รู้จบ
ตามหลักการคือปฏิสนธิจิตจะเกิดขึ้น
ต่อเมื่อมีจุติจิต หรือจิตดวงสุดท้ายปรากฏและดับแล้วเท่านั้น
ถ้าถือตามหลักนี้ ก็ต้องว่าการมาจองที่ในท้องก่อนลาภพเดิม
คงไม่มีทางเป็นไปได้

แต่หากมองว่า "ปฏิสนธิจิตยังไม่เกิด"
มีแต่กรรมเขามาจองที่ให้ล่วงหน้า
เหมือนมีการผูกใจโยงแล้ว
แล้วจิตจริงๆค่อยตามมาทีหลัง
ถ้าดับจากภพเก่ามาเต็มๆ มาหยั่งลงในครรภ์มารดาใหม่
อย่างนี้จึงค่อยเรียก "ปฏิสนธิจิต"
ก็จะไม่รู้สึกว่ามีข้อขัดแย้งอะไร
แต่คงไม่มีใครชี้ชัดตัดสินว่าอันไหนใช่ไม่ใช่กันแน่
เพราะศาสนาพุทธเราเชื่อว่าพูดไม่ผิดแน่อยู่คนเดียว
คือพระพุทธเจ้า

เรื่องการรอท้องที่อยากเข้านั้น
ผมได้ยินมาหลายหน กับคนใกล้ตัวที่รู้จักก็มี
และที่มีการรอก็เพราะมีเหตุ ไม่ใช่ไม่มีเหตุ
อย่างเช่นกรณีนี้ที่ชัดคือคุณวิชชุดาผูกพันรักใคร่กับน้องชายมาก
น้องชายเองหลังจากพี่สาวตายก็จุดธูปไหว้ พูดคุยด้วยบ่อยๆ
บางทีก็ถึงขั้นตัดพ้อว่าไม่มาหากันบ้าง
สรุปคือ "ความผูกพันแน่นเหนียว"
มีส่วนให้วิญญาณรอเกิดกับใครได้

อีกความรู้หนึ่งคือฐานะนั้นไม่เที่ยง
หลัดๆนี้เคยเล่นบทเป็นน้อง
แต่ตอนนี้มาเล่นบทเป็นพ่อเสียแล้ว
ความเป็นญาติมิตรหรือเพื่อนพ้องน้องพี่
ให้ความรู้สึกอย่างไร ไม่ใช่จะต้องเป็นอย่างนั้นไปตลอด

อีกความรู้หนึ่ง คือความจำไม่ได้อยู่ที่สมอง
และไม่จำเป็นต้องมีอภิญญา
แค่เป็นอีกแบบหนึ่งของความจำ
เป็นความจำอันเกิดจากความคุ้นในผัสสะต่างๆ
และเราก็เห็นสภาพของเด็กเกิดใหม่
ว่าไม่ต่างจากคนทั่วไปเมื่อทรงสภาพอยู่ในกายใจใหม่
คุ้นกับสภาพใหม่ สภาพเดิมก็ถูกตัดเยื่อตัดใย
ความจดจำและความรู้สึกของน้องน้ำฟ้า
แม้ฝังแน่นอยู่กับอดีตชาติ
ก็เป็นแบบมาๆไปๆ ไม่ทรงอยู่ต่อเนื่อง
หรือบางทีคุณพ่อถามว่าใช่พี่ปูไหม ใช่พี่สาวของฉันไหม
เด็กก็ตอบว่าไม่ใช่ ไม่ได้เป็นพี่สาว แต่เป็นลูกต่างหาก

ถ้านี่คือการฉายภาพอนิจจังแห่งสังสารวัฏ
ก็คงเป็นการฉายที่ก่อให้เกิดความเข้าใจได้ชัดขึ้น
ผมและคุณๆทั้งหลายก็ไม่ได้ต่างจากน้องเขา
เคยเกิดมาก่อน เคยตายมาแล้ว
และก็มามีเลือดเนื้อ ลมหายใจ กับจิตวิญญาณแบบนี้อีก
ด้วยความหลงยึดอยู่ว่านี่กายเรา นี่จิตเรา นี่เราคิด นี่เรารู้สึก
จนกว่าจะถึงสักชาติหนึ่ง พบผู้บอกว่าไม่ใช่
จึงค่อยมีสิทธิ์ถอนตัวจากมหันตทุกข์ มหันตภัย
แห่งการเวียนว่ายตายเกิดกับท่านได้

คนทั่วไปไม่มีทางเอะใจได้เองหรอกนะครับ
ว่ากายนี้ใจนี้ไม่ใช่เรา เราไม่ใช่กายใจ
เว้นแต่จะมีบารมีไปเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
ทุกคนต้องได้รับการชี้บอก ชี้นำวิธีดูกายใจ
นับเริ่มแต่ลมหายใจไม่เที่ยง
ความอึดอัดและความสบายอันมากับลมหายใจก็ไม่เที่ยง
จิตมืดจิตสว่างก็ไม่เที่ยง ความนึกคิดก็ไม่เที่ยง
นั่นแหละ จึงเป็นเหตุสมควรให้ทราบกัน
ว่าพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ผู้สืบทอดแนวทางนี้
มีพระคุณกับผู้มีบุญได้เป็นชาวพุทธเพียงไร

ดังตฤณ
มีนาคม ๕๓

 

 

 

เคยได้ยินคำเล่าลือที่ว่า...
'ถ้าฆราวาสบรรลุธรรมขั้นสูงสุด ต้องบรรพชาภายในเจ็ดวัน
มิฉะนั้นจะต้องถึงแก่ชีวิต' กันบ้างไหมคะ 0_0!
เท็จจริงเป็นอย่างไร พบคำตอบได้ที่คอลัมน์ "เล่าเรื่องเมืองพุทธ" ฉบับนี้
ในตอน "ความสุขมหาศาล" ค่ะ


ดูจะเป็นเรื่องที่น่าหน่ายมิใช่น้อย
หากต้องอยู่ใกล้กับใครสักคนที่ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยอยู่เสมอ
แล้วถ้าใครที่ว่านี้ เป็นคนรักของเราเองล่ะคะ จะทำอย่างไร (-_-")
ใครที่มีปัญหาเช่นเดียวกันนี้ อย่าเพิ่งท้อนะคะ
เรามีทางออกให้ที่คอลัมน์ "ดังตฤณวิสัชนา" ฉบับนี้
ในตอน "รู้สึกว่าด้อยกว่าคนรักทุกด้าน" ค่ะ


อีกหนึ่งคอลัมน์กับปัญหาความรักค่ะ (^.^)
คราวนี้มาดูปัญหาของคนมีครอบครัวแล้วกันบ้าง
คอลัมน์ "โหรา (ไม่) คาใจ" ฉบับนี้
เป็นเรื่องราวของคนที่ไม่ค่อยพอใจในคู่ครองของตนเอง
จนต้องแอบมาปรึกษาหมอดูอย่าง "คุณ Aims Astro"
ในตอน "วิวาห์วิวาท" ค่ะ


เมื่ออยากลงทุน แต่ไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง
ก็คงถึงคราวจะต้องพึ่งมืออาชีพกันแล้วล่ะค่ะ
คอลัมน์ "กระปุกออมสิน" ฉบับนี้
พบคำแนะนำดีๆ จากกูรูทางการเงิน "คุณ Mr.Messenger"
ในตอน "เลือกลงทุนผ่านกองทุนรวม ให้มืออาชีพบริหารแทนเรา" ค่ะ

 

 

 

ข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจ

ข่าวฝากจากสวนสันติธรรมค่ะ
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช จะแสดงธรรมที่สวนสันติธรรม
ทุกวันศุกร์, เสาร์, และอาทิตย์ เวลา ๐๗.๐๐ - ๑๐.๐๐ น.
ขอเชิญศิษย์หลวงพ่อ ร่วมฟังธรรมด้วยกันนะคะ (^/\^)

- - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - -

และข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการรับหนังสือและซีดีของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
ระหว่างวันที่ ๒๖ มี.ค. - ๖ เม.ย. นี้
สามารถไปรับได้ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ที่บูธพรีมา พับบลิชชิ่ง โชน C1 เลขที่ N-54 ค่ะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - -

ส่วนใครที่ติดใจ wallpaper ของ Dlitemag
ตอนนี้เรามี wallpaper ล๊อตที่ ๒ มาให้โหลดกันแล้วนะคะ
ผู้สนใจ เข้าชมได้ที่นี่เลยค่ะ ^______^
http://www.dlitemag.com/index.php?option=com_content&view=article&id=177&Itemid=177

- - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - -

เพื่อป้องกันความวุ่นวายและการเกิดอกุศลระหว่างชาวพุทธด้วยกัน
ทีมงานธรรมะใกล้ตัว ฉบับไลท์
ขออนุญาตปิดการใช้งานบอร์ดติชมแนะนำเนื้อหาต่างๆ ของนิตยสารเป็นการชั่วคราว
หากท่านผู้อ่านมีความประสงค์จะติดต่อกับทางนิตยสาร
สามารถส่งอีเมล์มาได้ที่
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it ค่ะ ^_^



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP