โหรา (ไม่) คาใจ Astro FAQ

วิวาห์วิวาท

โดย Aims Astro

ถาม - เราแต่งงานมาสิบกว่าปีแล้ว มีลูกสองคน รู้สึกว่าตัวเองเหมือนย่ำอยู่กับที่ นึกเปรียบเทียบกับเพื่อนๆ ที่ก้าวหน้าไปไกล แต่สามีเรากลับไม่พยายามทำมาหากินเลย ใช้ชีวิตไปวันๆ พอบ่นเข้าก็ทะเลาะกันอีก ทำยังไงให้ชีวิตครอบครัวเราดีขึ้นได้คะ

มีหลากหลายเหตุผลที่ทำให้คนไม่พอใจในชีวิตตัวเองนะคะ การเปรียบเทียบกับคนอื่นก็เป็นสาเหตุหนึ่ง จึงมีคำพูดทำนองว่าคนส่วนใหญ่เห็นข้าวในจานของคนอื่นน่ากินกว่าของตัวเองเสมอ หรือมักจะคิดว่าคนอื่นมีความสุขกว่าเรา ในเรื่องของชีวิตคู่ก็เช่นกันค่ะ มีหลายคนที่ก่อนแต่งงานวางแผนว่าจะช่วยกันสร้างฐานะยังไงบ้าง แต่การณ์กลับไม่เป็นไปดังคาดหมาย คู่ครองที่เดิมดูขยันขันแข็งแต่เมื่อใช้ชีวิตร่วมกันก็กลับกลายเป็นคนเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไปซะอย่างนั้น ดังตัวอย่างลูกค้าหญิงท่านหนึ่งที่นำดวงสามีมาให้ตรวจดู หลังจากอ่านดวงแล้วก็เห็นว่าเขาเป็นคนใจดีมีเหตุผล ลูกค้าบอกว่าเขาก็ดีนะคะ เสียแต่ว่าไม่ยอมทำงานที่ได้เงินมากๆ กลับพอใจชีวิตเรียบง่ายกินเงินเดือนน้อย ทั้งที่มีโอกาสจะก้าวหน้าแต่ไม่คว้าไว้ เธอก็เลยไม่ได้ดังใจในตัวสามีเรื่อยมา

ได้ฟังแล้วก็ปลอบไปว่าการทำงานมีทั้งผลประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม งานบางอย่างรายได้น้อยกว่าก็จริง แต่ได้กำไรชีวิตส่วนอื่นมากกว่า อย่างสามีของคุณทำงานไม่เสี่ยงภัย ไม่ต้องรับผิดชอบเงินมากๆ ไม่เครียดเคร่ง ที่ทำงาน บรรยากาศก็ดีไม่เสี่ยงโรคและมลพิษ อาหารอร่อยราคาถูก แถมเพื่อนร่วมงานน่ารักอีก ทำงานแล้วสบายใจ ออกจะน่าอิจฉานะคะ เธอก็ยอมรับว่าเป็นอย่างที่ว่ามา แต่ว่าเงินเดือนน้อย ทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการทุกอย่างได้ ดิฉันจึงหาทางเลือกให้เธอจำกัดความอยากได้ในของที่ไม่จำเป็นลง เพราะจะง่ายกว่าการหาทางเพิ่มรายได้ให้สามีค่ะ

เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกดีขึ้นกับชีวิตสมรส จึงสมมุติให้เธอฟังว่าถ้าสามีมีได้รายหกหลักต่อเดือน เป็นผู้บริหารหนุ่มรูปหล่อ คุณคงไม่สบายใจยิ่งกว่าตอนนี้แน่ๆ (เพราะตรวจดวงแล้วว่าลูกค้าท่านนี้ขี้หึง ^^!) เธอเงียบไปสักครู่แล้วก็บอกว่าก็จริงนะ ดิฉันจึงบอกไปอีกว่าถ้าจะได้รายได้ขนาดนั้น ก็คงจะต้องทุ่มเททำงาน เวลาของครอบครัวจะน้อยลงไป คุณก็จะเหงาอีก เธอยอมรับว่าใช่ ดิฉันจึงขอร้องว่าเลิกเปรียบเทียบกับสามีของข้างบ้านหรือของเพื่อนๆ ได้แล้ว ลูกค้าพูดเสียงดังว่า “ใช่ๆ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราคิดเทียบกับคนอื่นตลอดเวลาว่าสามีเค้าดีกว่าของเรา” เรื่องนี้ทำให้เธอไม่พอใจเพราะถ้าประเมินทางวัตถุแล้วสู้คนอื่นไม่ได้ ใจมันคอยเปรียบเทียบอยู่อย่างนี้ก็เลยทุกข์อยู่อย่างนั้น

ได้ฟังแล้วก็บอกไปว่าถ้าคุณไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ชีวิตอาจจะไม่เป็นอย่างหวังก็ได้ แล้วก็ไม่ใช่ผู้ชายคนนี้หรอกหรือที่คอยดูแล ปลอบใจเวลาที่เป็นทุกข์ รับฟังเวลาที่มีปัญหา ลูกค้าบอกจริงค่ะ เขาอยู่ข้างเราเวลามีปัญหา (แหม หมอดูชักอิจฉา ^^”) ดิฉันพยายามชี้ข้อดีต่อไปอีกว่าอย่างน้อยๆ เขาก็ไม่นอกใจให้ต้องเป็นทุกข์ เหล้าไม่กินบุหรี่ไม่สูบ ไม่เที่ยวเตร่เถลไถล ฉะนั้นถึงงานที่ทำจะเรียบง่ายไม่ใหญ่โตก็ตามใจไปเถอะ แล้วก็เสนออาชีพเสริมที่เข้ากับดวงและนิสัยใจคอของสามีให้ด้วย จะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และคุณภรรยาจะได้สบายใจว่ามีโอกาสหารายได้พิเศษ

จริงๆ แล้วรายได้ที่มากก็ทำให้มีความสุขทางวัตถุได้นั้นจริงอยู่ค่ะ แต่ว่าความสุขทางใจก็มีมูลค่าเหมือนกัน ที่คนเราหาเงินกันวุ่นวายก็เพื่อสุขกายสบายใจ ฉะนั้นถึงเงินน้อยหน่อยแต่สบายใจมากจังก็นับว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่ะ

ลูกค้าอีกท่านหนึ่งมีปัญหาคล้ายกันแต่หนักกว่าตรงที่ทะเลาะกับสามีด้วย เธอบ่นว่าชีวิตจมปลักไม่ก้าวหน้า แถมมีลูกอ่อนจะไปทำงานอื่นก็ไม่สะดวก สามีก็ไม่ค่อยกระตือรือร้นเลย พอบ่นเข้าก็ทะเลาะกันบ่อยๆ ดิฉันถามกลับไปว่าตอนมีปากเสียงกัน คุณคิดว่าเขาเป็นสามีหรือคิดว่าเป็นศัตรูที่ดันต้องมาอยู่ร่วมบ้าน และตอนนี้ครองคู่กันด้วยความรักหรือความชัง เวลาคิดถึงเขาแล้วเห็นความดีที่มีหรือเห็นแต่ความไม่ได้ดั่งใจ สุดแสนจะไม่เอาถ่านของคู่ชีวิต ลูกค้าเงียบไปแล้วบอกว่าก็คงเป็นอย่างที่ว่า คือมองสามีเป็นศัตรู ความรักหล่นหายไปไหนแล้วไม่รู้

ได้ฟังแล้วจึงปลอบเธอด้วยความเข้าใจ ว่าตอนนี้คุณเหนื่อยเพราะต้องเลี้ยงลูกที่ยังเล็ก แต่ก็ต้องเห็นใจสามีด้วยว่าเศรษฐกิจก็ไม่ดี ทำมาหากินลำบาก ผู้ชายคนนี้ก็คนเดียวกับที่คุณอยากแต่งงานด้วยนะคะ เคยรักกันมามากมาย ขอให้อย่าลืมความรู้สึกนั้นไป ปัญหาของชีวิตคู่เกิดขึ้นจากทั้งสองฝ่าย เพราะไม่มีใครดีหรือเลวไปหมด ถ้าดิฉันได้คุยกับลูกค้าไม่ว่าจะเป็นฝ่ายภรรยาหรือสามีก็ตาม จะบอกให้เปลี่ยนตัวเองก่อน อย่ามัวคอยว่าสักวันคู่ของเราจะริเริ่มพัฒนาตน ถ้าเราดีขึ้นและยอมสงบปากสงบคำ ปัญหาระหว่างกันก็ลดลง แล้วอย่าคิดว่ามีแต่เราที่ทนเขา เขาก็ทนเราเหมือนกัน (ตรงนี้ฝากบอกคุณผู้ชายด้วยว่าอย่าคิดว่าทนภรรยาอยู่ข้างเดียว เธอก็ทนคุณเหมือนกันนะคะ ^.^)

เคยอ่านคำคมชวนคิดข้อความหนึ่ง ตอนที่เขียนบทความอยู่นี้ลองนึกภาคภาษาอังกฤษแบบเป๊ะๆ ก็นึกไม่ออก ใจความประมาณว่า “ในการทำสงครามคุณอาจจะชนะฝ่ายตรงข้าม แต่ทุกคนแพ้สงคราม” การเอาชนะคะคานกันไม่มีประโยชน์สำหรับชีวิตคู่เลยค่ะ เพราะต่อให้ได้ชัยชนะก็ต้องอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของความรู้สึกคนรัก ทางที่ดีกว่าคือประนีประนอม ถ้าอีกฝ่ายใจร้อนมาก เราต้องเป็นน้ำเย็น ห้ามเป็นน้ำมันราดเข้ากองเพลิงเด็ดขาด เพราะจะลงเอยด้วยโศกนาฏกรรมความรักค่ะ T.T

คนเราแต่งงานกันแล้วก็เหมือนลงเรือลำเดียวกัน ยามคลื่นลมสงบได้ยืนรับลมชมตะวันลับฟ้า มีความสุขด้วยกัน ยามเจอมรสุมโหมกระหน่ำบ้าง ก็ร่วมแรงแบ่งปันกำลังใจกันนะคะ อย่าไปมองว่าอีกฝ่ายไม่เอาไหน ไม่น่าเลือกมาเป็นคู่ครองเอาเสียเลย ความคิดทำนองนี้ต่อให้ไม่พูดออกมาให้ได้ยิน แต่ถ้ามีอยู่ในใจ ที่สุดแล้วจะแสดงผ่านการกระทำและวาจา ให้อีกฝ่ายรู้สึกจนได้ ตรงนี้จะทำให้คู่ของเราน้อยใจ และอาจจะประชดด้วยการทำตัวแย่ลงหรือไปมีคนอื่น เพราะไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงก็ย่อมอยากเป็นวีรบุรุษหรือนางฟ้าในสายตาสามีหรือภรรยาของตนเองทั้งสิ้นค่ะ ถ้าเขาทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ แล้วคุณถูกใจพอใจก็ควรจะชม เพื่อให้เขาเกิดแรงฮึดที่จะทำดีต่อไป ถ้าเขาทำอะไรไม่ดีไปบ้าง อภัยได้ก็อภัยค่ะ

ความรับผิดชอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตการแต่งงาน คือการดูแลใส่ใจความรู้สึกของกันและกัน อย่าลืมว่าความรู้สึกที่เสียไปแล้วนั้น อาจจะต้องใช้เวลานานในการเรียกคืนมา ทางที่ดีถนอมหัวใจของอีกฝ่ายไว้ดีกว่านะคะ

: )

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำหรับท่านที่สนใจดูดวงกับคุณ Aims Astro สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ
http://sites.google.com/site/aimsastro/

---

แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ